2021 นี้ เที่ยวญี่ปุ่นเดือนไหนดี และประหยัดงบได้มากที่สุด?

กิจกรรมที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการเที่ยวในญี่ปุ่นนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการไปเล่นสกีที่ฮอกไกโดไปจนถึงการนอนอาบแดดเล่นที่โอกินาว่า แต่ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ล้นหลามนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของการท่องเที่ยวเช่นกัน ในบทความนี้จะรวมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับวางแผนการเที่ยวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อชมไฮไลท์ในฤดูต่างๆ ทั้งฤดูชมซากุระ และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รวมไปถึงช่วงที่ควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับการประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในช่วงนอกฤดูเที่ยวอีกด้วย!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพอากาศและฤดูต่างๆ ในญี่ปุ่น

แม้ประเทศญี่ปุ่นจะไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมาก แต่กลับมีสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค พื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศอย่างเมืองฮอกไกโดนั้นมีสภาพอากาศหนาวเหน็บและหิมะตกหนักในช่วงฤดูหนาว ในขณะที่เกาะโอกินาว่า (หรือก็คือเกาะริวกิวที่แสดงในแผนที่ด้านบน) ทางตอนใต้กลับมีภูมิอากาศแบบแดดจัดกึ่งเขตร้อน แต่เมืองยอดนิยมอย่างโตเกียว โอซาก้าหรือภูเขาไฟฟูจินั้นตั้งอยู่ทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีสภาพภูมิอากาศครบทั้งสี่ฤดู ประกอบไปด้วยฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

การวางแผนการเดินทางนอกจากต้องดูช่วงฤดูแล้ว ยังต้องดูถึงสภาพอากาศเฉพาะของแต่ละพื้นที่ที่จะไปอีกด้วย การจัดทริปในช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศของเมืองหิมะฮอกไกโดนั้นจะแตกต่างจากเกาะโอกินาว่าอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ปลายทางที่คุณจะไปนั้นยังส่งผลถึงไฮไลท์ของฤดูกาล เช่น การชมซากุระบานหรือดูใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย

หากคุณต้องการวางแผนการเที่ยวล่วงหน้า เราได้จัดทำคู่มือรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศ ไฮไลท์และเทศกาลต่างๆ ในแต่ละฤดูกาลสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวหลักในญี่ปุ่นไว้แล้ว ลองเข้าไปดูก่อนได้เลย! 

ญี่ปุ่นน่าเที่ยวที่สุดในช่วงไหน?

ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม - เมษนายน

ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นจะประจวบเหมาะกับช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วประเทศในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ถือเป็นช่วงที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยทัศนียภาพของเมืองและสวนสาธารณะที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

ต้นซากุระจะบานเพียงประมาณสองสัปดาห์ โดยระยะเวลาที่บานเต็มที่นี้จะมีเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศหลากหลาย ทำให้ดอกไม้ไม่ได้บานพร้อมกันทุกภูมิภาค เพื่อให้คุณได้เห็นช่วงที่ดอกซากุระบานสวยที่สุด เราแนะนำให้คุณตรวจสอบพยากรณ์ซากุระซึ่งจะพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซากุระจะบาน และโปรดจำไว้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโตเกียวและเกียวโตนั้นจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ดังนั้นเราแนะนำให้คุณรีบจองที่พักและตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือคณะทัวร์ นอกจากนี้คุณสามารถหาข้อมูลสถานที่ชมซากุระที่ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในเมืองโตเกียวและเกียวโตได้ที่นี่

แต่ถ้าคุณพลาดการชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิไปแล้วละก็ ไม่ต้องเสียใจไป ที่ญี่ปุ่นยังมีดอกไม้และทัศนียภาพที่สวยงามอีกมากมายรอให้คุณไปสัมผัสอยู่ ไม่ว่าจะเป็นดอกบ๊วย (Plum blossoms) ที่จะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ส่วนดอกวิสทีเรีย (ดอกฟูจิ) ดอกทิวลิป ดอกกุหลาบและดอกเนโมฟีล่านั้นจะบานในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม แม้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเท่าดอกซากุระ แต่เรารับประกันเลยว่าความงดงามของดอกไม้เหล่านี้จะทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 13 จุดชมดอกไม้ในแต่ละฤดูกาลของญี่ปุ่น

ฤดูแห่งเทศกาล : มิถุนายน - สิงหาคม

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจเทศกาลและวัฒนธรรมต่างๆ ของญี่ปุ่นแล้วละก็ ฤดูร้อนถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการไปเยือนญี่ปุ่น เพราะในฤดูนี้จะมีสามเทศกาลใหญ่ประกอบไปด้วยเทศกาลกิอง (Gion Matsuri) ที่เกียวโต (กรกฎาคม) เทศกาลคันดะ (Kanda Matsuri) ที่โตเกียว (พฤษภาคม) และเทศกาลเท็นจิน (Tenjin Matsuri) ที่โอซาก้า (กรกฎาคม) โดยแต่ละเทศกาลจะถูกจัดขึ้นในฤดูร้อน

เทศกาลของประเทศญี่ปุ่นนั้นถือเป็นกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งมักจะมีการแสดงในที่สาธารณะอย่างเช่นขบวนแห่และรำพื้นเมืองเพื่อสร้างความครื้นเครง ผู้คนจำนวนมากนิยมแต่งกายด้วยชุดยูกาตะเพื่อมาร่วมงานเทศกาลฤดูร้อนประจำปีนี้ ทั้งนี้ยังมีแผงขายอาหารและซุ้มเกมต่างๆ ที่สร้างสีสันและบรรยากาศสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าร่วมอีกด้วย 

หากต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมเทศกาลของญี่ปุ่นและช่วงเวลาการจัดงาน เราได้รวบรวมไว้แล้วใน 47 งานเทศกาลประจำจังหวัดของญี่ปุ่นที่ต้องไปชมให้ได้!

ฤดูร้อนถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดสำหรับการชมดอกไม้ไฟ เทศกาลดอกไม้ไฟยอดนิยมในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศและทั่วโลก โดยบางแห่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากขนาดที่ว่าคุณต้องทำการจองพื้นที่สำหรับนั่งชมล่วงหน้าเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณใกล้กับจุดชมวิวยังมีการตั้งแผงขายอาหารมากมายที่ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับของอร่อยๆ ได้แม้ว่าคุณจะไม่ได้เข้าไปนั่งรอชมดอกไม้ไฟก็ตาม

และเนื่องจากลักษณะของประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นเกาะ ฤดูร้อนถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเยี่ยมชมรีสอร์ตและเกาะชายฝั่งหลายแห่ง ผู้คนนิยมแห่แหนกันไปที่ทางเกาะโอกินาว่าที่อยู่ทางตอนใต้และทะเลเซโตะในช่วงฤดูร้อนเพื่อดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์และทิวทัศน์ของทะเล ชายหาดหลายแห่งในญี่ปุ่นมักไม่เปิดให้ว่ายน้ำและเล่นเซิร์ฟนอกฤดูร้อน ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวชายหาดและทำกิจกรรมทางน้ำแล้วล่ะก็ อย่าลืมเช็กวันล่วงหน้า!

และสำหรับใครที่กำลังแพลนทริปเที่ยวในวันหยุดหน้าร้อนนี้ เราได้รวบรวม 10 สุดยอดโรงแรมชายหาดที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นไว้ที่นี่แล้ว!

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี : ตุลาคมและพฤศจิกายน

สำหรับหลายๆ คนในญี่ปุ่น ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจของปีไม่แพ้ฤดูใบไม้ผลิเลยทีเดียว การเปลี่ยนสีของใบไม้นั้น เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าฤดูร้อนแสนอบอ้าวที่ยาวนานได้จบลงแล้ว ดังนั้นในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน (บางครั้งรวมไปถึงเดือนธันวาคมด้วย) ผู้คนมักแห่แหนกันไปชมใบเมเปิ้ลสีแดงและใบกิงโกะสีเหลืองอร่ามตามสวนสาธารณะหรือสวนต่างๆ

นอกจากนี้ศาลเจ้าและวัดหลายแห่งจะมีการเปิดให้เข้าชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในตอนเย็นและมีการจัดเทศกาลชมจันทร์ (Otsukimi) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย

การไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นมีข้อดีมากมาย ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายมากกว่าช่วงฤดูร้อนและอบอุ่นกว่าช่วงฤดูหนาวทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโดยรอบได้อย่างสบายๆ และถึงแม้ว่าจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายแต่ก็ไม่สามารถลดทอนความงามที่สะกดสายตาของทิวทัศน์โดยรอบได้ ด้วยอากาศที่พอดิบพอดีนี้ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้ทุกชนิด รวมไปถึงอาหารตามฤดูกาลอย่างเช่นลูกพลับ ปลาซัมมะย่าง และมันหวานเผา

สำหรับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและวันที่จะแต่งต่างกันไปตามภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นเราแนะนำให้คุณลองอ่านบทความเที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงไหนดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่พลาดการชมใบไม้เปลี่ยนสี

และอย่าลืมว่าที่เกาะโอกินาว่านั้นมีสภาพอากาศกึ่งโซนร้อน คุณจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนสีของใบไม้ที่เกาะนี้อย่างแน่นอน

ฤดูแห่งการเล่นสกี : ธันวาคม - เมษายน

ภูมิศาสตร์ภูเขาของญี่ปุ่นถือเป็นสวรรค์ของแฟนกีฬาฤดูหนาวเลยก็ว่าได้ โดยฤดูการเล่นสกีในญี่ปุ่นจะเริ่มที่ประมาณเดือนธันวาคมถึงเมษายน โดยรีสอร์ตหลักๆ สำหรับเล่นสกีจะตั้งอยู่บริเวณรอบเขตนากาโน่ในเจแปนแอลป์และทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นพื้นที่ยอดนิยมในหมู่ผู้คลั่งไคล้การเล่นสกีเนื่องจากคุณภาพหิมะของพื้นที่บริเวณนี้เรียกได้ว่าดีมากเลยทีเดียว

สกีรีสอร์ตทั่วประเทศไม่ว่าเล็กหรือใหญ่มีอยู่ราวๆ 500 แห่ง ซึ่งรวมไปถึงรีสอร์ตชื่อดังระดับโลกอย่าง Niseko ในฮอกไกโด และ Hakuba ในนากาโน่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเราได้รวบรวมไว้ในบทความนี้

ไฮไลท์หนึ่งของการไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นคือความอุดมสมบูรณ์ของบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ อาหารรสเลิศ และทิวทัศน์งดงามตลอดการเดินทาง หากคุณสนใจลองเข้าไปดูได้ที่รวมสุดยอดบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งชมวิว 20 แห่งในฮอกไกโด 

ข้อควรระวังในการเที่ยวช่วงฤดูหนาวคือฤดูนี้เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่อัตราการท่องเที่ยวภายในประเทศของญี่ปุ่นสูงมาก และในช่วงวันที่ 29 ธันวาคมถึง 5 มกราคมนั้นมักเป็นช่วงวันหยุดตามกำหนดของร้านค้ากับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกด้วย 

ช่วงเวลาใดที่ควรหลีกเลี่ยงในการไปญี่ปุ่น?

วันหยุดราชการ : คนญี่ปุ่นจะออกไปเที่ยวกันเยอะมาก!

ในหนึ่งปีประเทศญี่ปุ่นเองก็มีช่วงเวลาที่ยอดการเดินทางในประเทศพุ่งสูงด้วยเช่นกัน โดยคนญี่ปุ่นจะเดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองวันหยุดกับครอบครัวซึ่งก็จะเหมือนกับวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving day) หรือวันคริสต์มาสของประเทศทางฝั่งตะวันตก

หากดูจากวัฒนธรรมการทำงานของคนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยลางานแล้วนั้น เราสามารถคาดการณ์ได้เลยว่าแผนการเที่ยวจะถูกวางไว้ในช่วงที่วันหยุดราชการอย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวหรือโกลเด้นวีคที่ผู้คนกว่า 20 ล้านคนพร้อมใจกันออกไปเที่ยวในประเทศ

หากคุณจะวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วละก็ เราขอแนะนำให้หลีกเลี่ยง 3  ช่วงเวลานี้:

  • โกลเด้นวีค: 29 เมษายน - 5 พฤษภาคม
  • เทศกาลบง (โอบ้ง): 13 - 15 สิงหาคม
  • ซิลเวอร์วีค: 19 - 23 กันยายน (ซิลเวอร์วีคไม่ได้เป็นวันหยุดที่กำหนดตายตัว จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อวันหยุดราชการสองวันในเดือนกันยาอยู่ในช่วงวันที่เหมาะสมซึ่งจะได้หยุดรวมกันห้าวัน) 
  • วันปีใหม่: 29 ธันวาคม - 3 มกราคม (ในประเทศญี่ปุนไม่ได้มีการกำหนดวันหยุดคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ ดังนั้นวันหยุดช่วงนี้ถือเป็นการรวมคริสต์มาสและปีใหม่เข้าด้วยกัน)

* โปรดทราบว่าวันหยุดที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี

หากคุณจะเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว ให้เตรียมพร้อมรับมือกับความแออัดของการจราจรบนท้องถนนและทางด่วนรวมไปถึงเครื่องบินและรถไฟชิงคันเซ็นและราคาที่พักที่จะสูงกว่าปกติ (โดยเฉพาะช่วงโกลด์เด้นวีค) ไว้ได้เลย

หากคุณรู้ว่าการเดินทางของคุณอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว เราแนะนำให้ทำการจองทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ และหากเป็นไปได้ให้อยู่ภายในเมืองและเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงต้นและท้ายของวันหยุดเหล่านี้ซึ่งจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความยุ่งยากลงไปได้อย่างมาก

หากคุณจะวางแผนเที่ยวให้เข้าไปศึกษาวันหยุดราชการที่ทางเราได้อัปเดตทั้งหมดไว้ที่บทความนี้ 

Klook.com

ฤดูฝน

หน้าฝนของญี่ปุ่น เรียกกันว่า "Tsuyu" หรือ "Baiyu" โดยปกติจะอยู่ในระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม คุณอาจจะนึกถึงภาพมรสุมฝนหนักแต่ในความเป็นจริงแล้วหน้าฝนของญี่ปุ่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเผชิญกับฝนที่ตกไม่หยุดทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้น หากคุณวางแผนเที่ยวชมธรรมชาติกลางแจ้งแล้วละก็ คุณอาจต้องเตรียมใจพบกับฝนที่ตกลงมาพร้อมอากาศที่ร้อนชื้นของหน้าร้อนเอาไว้ด้วย

รายละเอียดด้านล่างคือระยะเวลาโดยเฉลี่ยของวันที่ฝนตกช่วงหน้าฝนตามเมืองยอดนิยมในญี่ปุ่น และอีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรทราบไว้คืออาจจะมีฝนตกในช่วงผลัดฤดูในเดือนกันยายนและตุลาคมเช่นกัน

โอกินาว่า: 9 พฤษภาคม - 23 มิถุนายน
ฟุกุโอกะ: 5 มิถุนายน - 19 กรกฎาคม 
เกียวโต/โอซาก้า: 7 มิถุนายน - 21 กรกฎาคม
โตเกียว: 8 มิถุนายน - 21 กรกฎาคม
นาโกย่า: 8 มิถุนายน - 21 กรกฎาคม
เซ็นได: 12 มิถุนายน - 25 กรกฎาคม
ฮอกไกโด: ไม่มีฤดูฝน

คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุกเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูฝน รวมไปถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุดในฤดูฝนได้ที่เรื่องควรรู้ก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูฝน!

 

สภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วของช่วงกลางฤดูร้อนและกลางฤดูหนาว

สภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณควรทราบ โดยทั่วไปสภาพอากาศของประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ร้อนที่สุดของฤดู อุณหภูมิในโตเกียวและโอซาก้าจะสูงถึง 30 องศาเซลเซียส (80 องศาฟาเรนไฮต์) บวกกับความชื้นที่สูงด้วยแล้วทำให้อากาศที่สัมผัสได้นั้นร้อนมากกว่าเดิม ในทางกลับกันอุณหภูมิในฤดูหนาวนั้นต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส (32 องศาฟาเรนไฮต์) แม้จะไม่ถือว่าเป็นประเทศที่จัดอยู่ในเขตร้อนจัดหรือหนาวจัดแต่ความแตกต่างของอุณหภูมิของฤดูถือว่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว

สำหรับความทนทานต่อสภาพอากาศนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณเกิดและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบใด หากคุณมาจากประเทศเขตร้อน ฤดูหนาวของญี่ปุ่นอาจทำให้คุณประสบกับปัญหาการปรับตัวกับสภาพอากาศ การหาซื้อเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับฤดูหนาวซึ่งอาจไม่จำเป็นสำหรับประเทศบ้านเกิดของคุณ และถึงอย่างนั้น ฤดูร้อนของญี่ปุ่นที่มีสภาพร้อนชื้นนั้นก็อาจไม่ได้เป็นมิตรต่อผู้ที่มาจากประเทศเขตร้อนเช่นกัน หากคุณมาจากประเทศเขตหนาว ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงน่าจะเป็นสภาพอากาศที่ดีต่อคุณมากกว่า

ฤดูมรสุม

ฤดูไต้ฝุ่นที่พีคที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน ในด้านของอาคารสถานที่และที่พักต่างๆ คุณไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเลยเนื่องจากการก่อสร้างตึกรามบ้านช่องของญี่ปุ่นนั้นจะมีข้อบังคับอาคารและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อรองรับการเกิดไต้ฝุ่นโดยเฉพาะ แต่สิ่งที่คุณควรระวังหากคุณจะไปญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมคือการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยวอาจปิดให้บริการชั่วคราวหากมีการคาดการณ์ว่าจะเกิดไต้ฝุ่น ในกรณีรุนแรงอาจเกิดกระแสไฟขัดข้องและปัญหาอื่นๆ

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เราแนะนำให้คุณทำการโหลดแอปพลิเคชัน Safety Tips app จากสำนักการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ โดยแอปพลิเคชันนี้จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว สึนามิ และเหตุการณ์จากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่างๆ ในหลากหลายภาษา

วันตรุษจีน

นอกจากวันหยุดราชการของประเทศญี่ปุ่นเองแล้ว อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือวันหยุดยาวของประเทศอื่นๆ  ตัวอย่างเช่นในปี 2019 นักท่องเที่ยวมากกว่า 50% มาจากประเทศจีน ฮ่องกงและไต้หวัน ซึ่งเป็นประเทศที่มีวันหยุดตรงกันคือวันตรุษจีนในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังคงมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลไปเยี่ยมชมแม้จะไม่ใช่วันหยุดราชการของญี่ปุ่นก็ตาม

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ช่วงที่ค่าใช้จ่ายถูกที่สุดในการไปเที่ยวญี่ปุ่นพร้อมเคล็ดลับในการเที่ยวช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว

ช่วงเวลาที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นอย่างฤดูดอกซากุระบานอาจทำให้คุณต้องรับมือกับขบวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากและจ่ายค่าเครื่องบินและที่พักในราคาที่สูงกว่าปกติ แต่ในทางกลับกัน ช่วงนอกฤดูเที่ยวที่ผู้คนจำนวนหนึ่งเบื่อหน่ายกับการออกไปเที่ยวในวันฝนพรำ ก็ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ชอบท่องเที่ยวในฤดูฝนเพื่อไปดูดอกไฮเดรนเยียที่แข่งกันชูช่อสวยงามและใบไม้เขียวขจีแลกกับการไม่ต้องเบียดเสียดกับคนจำนวนมาก

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายและให้ความสำคัญกับช่วงที่อยู่ในและนอกฤดูท่องเที่ยวของแต่ละภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น ก็อาจจะทำให้คุณค้นพบอะไรใหม่ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นฤดูเล่นสกีที่เจแปนแอลป์นั้นจะแออัดไปด้วยผู้ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาวอย่างแน่นอน แต่หากคุณไปในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่สวยงามจนแทบหยุดหายใจพร้อมกับบ่อน้ำพุร้อน นอกจากนี้คุณยังสามารถพักในรีสอร์ตหรูได้ในราคาที่ต่ำกว่าปกติได้อีกด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสกีรีสอร์ตหลายแห่งได้มีการนำเสนอกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการตั้งเต็นท์หรือกีฬาผจญภัยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย

หน้าหนาวในโอกินาว่านั้นเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีในการหลีกหนีความหนาว แถมตั๋วเครื่องบินและที่พักยังมีราคาถูกกว่าช่วงเวลาปกติอีกต่างหาก แม้สภาพอากาศอาจจะหนาวกว่าปกติสำหรับการลงเล่นน้ำ แต่คุณก็ยังสามารถดื่มด่ำบรรยากาศระหว่างรับประทานอาหารทะเลสดๆ พร้อมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมของอาณาจักรริวกิว (ชื่อเก่าของเกาะโอกินาว่า) และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรได้ รวมถึงยังได้ชมต้นซากุระที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นได้อีกด้วย โดยคุณสามารถหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ 50 สิ่งที่ต้องทำในโอกินาว่า 2020 

ช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวเป็นช่วงเวลาที่คุณจะสามารถเที่ยวญี่ปุ่นได้ในราคาที่ถูกที่สุด ลองคิดนอกกรอบเพื่อประหยัดเงินส่วนหนึ่งไว้ซื้อของฝากแทนดูนะ!

Klook.com

การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นหลังโรคระบาด COVID-19

จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 นั้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก มีการห้ามเดินทางในหลายประเทศ รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่นเองก็มีระงับไม่ให้ชาวต่างชาติที่มีการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อเข้าประเทศด้วยเช่นกัน ปัจจุบันผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าสู่ญี่ปุ่นต้องทำการกักตัวเองเป็นเวลาสองสัปดาห์

ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลกจึงบอกได้ยากว่าเมื่อไหร่ทุกอย่างถึงจะกลับสู่สภาวะปกติ ดังนั้นก่อนวางแผนท่องเที่ยว เราแนะนำให้คุณตรวจสอบสถานะ การท่องเที่ยว วีซ่า และการกักตัวที่ เว็บไซต์นี้ ก่อน

นอกจากนี้เราได้รวบรวมสถานการณ์ของ COVID-19 ในประเทศญี่ปุ่นไว้ในหน้าเพจ รวมบทความและข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการภาคพื้น รวมไปถึงมาตรการสาธารณสุข การปิดให้บริการชั่วคราวและมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นทางการเป็นภาษาไทย

เที่ยวอย่างฉลาดเพื่อประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

ด้วยวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นนั้นเอื้อต่อการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  ดังนั้นหากจะวางแผนท่องเที่ยว คุณควรคำนึงถึงสภาพอากาศว่าเป็นช่วงร้อนหรือหนาว และอะไรในญี่ปุ่นที่ดึงดูดให้คุณอยากไปเห็นและสัมผัส หากเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามอาจจะลองพิจารณาช่วงดอกซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี หากคุณสนใจในวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น การเดินทางที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรี การเต้นรำและประเพณีท้องถิ่นในช่วงเทศกาลฤดูร้อนของญี่ปุ่นน่าจะเป็นที่ถูกใจคุณ หรือหากคุณต้องการไปผ่อนคลายโดยไม่อยากพบเจอกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก บางทีคุณอาจจะสนใจไปญี่ปุ่นในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวแทนก็ได้เช่นกัน

เอาล่ะ เมื่อคุณอ่านจนถึงตรงนี้ เราเชื่อว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปญี่ปุ่นแล้วล่ะ ลำดับต่อไปคือการกำหนดสถานที่ที่จะไป และหากคุณยังลังเลอยู่ว่าจะไปที่ไหนดี ลองดูคู่มือเที่ยวที่ต่างๆ ที่เรารวบรวมข้อมูลอย่างครบถ้วนเหล่านี้ หวังว่าจะสามารถเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของคุณได้นะ

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Rebecca
Rebecca
นักเขียนและนักแปลชาวออสเตรเลียที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเกียวโต มีงานอดิเรกเป็นการเดินทางโดยรถไฟ ร้องคาราโอเกะ และดูหนังสยองขวัญ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร