12 ที่เที่ยวลับแลในโทโฮคุ ที่คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด

ประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคโทโฮคุมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย บางแห่งก็มีชื่อเสียงมากและบางแห่งก็ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่การที่มันไม่มีชื่อเสียงก็ไม่ได้แปลว่าสถานที่ท่องเที่ยวนั้นไม่น่าไปนะคะ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว “ลับแล” ที่คนไม่ค่อยรู้จักหรือมักจะถูกมองข้าม ผู้คนอาจจะไม่ค่อยได้ไปกันเพราะข้อจำกัดในด้านการเดินทาง แต่เชื่อเถอะค่ะว่าสถานที่เหล่านี้ก็สวยงามและน่าไปไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเลยล่ะ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. เมืองฟูกาอูระ (Fukaura Town)

เมืองฟูกาอูระ (深浦町) เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันตกสุดของจังหวัดอาโอโมริในภูมิภาคโทโฮคุ จึงเป็นเมืองที่มีชายฝั่งติดกับทะเลญี่ปุ่น จนเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลเลยทีเดียว ที่นี่มีหินรูปร่างหน้าตาต่างๆ ตลอดแนวชายฝั่งทั้งเล็กใหญ่ บางก้อนก็ถูกตั้งชื่อตามหน้าตาของมันที่ดูคล้ายกับสัตว์ต่างๆ ทำให้เราสามารถเดินเล่นไปตามแนวชายฝั่งได้อย่างเพลิดเพลิน ถ่ายรูปคู่กับทะเลสวยๆ ท้องฟ้าใสๆ และโขดหินมากมายที่เปี่ยมไปด้วยความสวยงามตามธรรมชาติ

นอกจากนี้ ด้วยความที่เมืองฟูกาอูระนี้อยู่ทางชายฝั่งตะวันตก จึงทำให้ที่นี่มีวิวพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมากๆ ด้วย แม้จะต้องใช้เวลาเดินทางนานสักหน่อยจนทำให้คนมาที่นี่ไม่มากนัก แต่รับรองว่ามาแล้วคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

2. ลำธารโออิราเสะ (Oirase River)

ลำธารโออิราเสะ (奥入瀬渓流) อยู่ในจังหวัดอาโอโมริ ภูมิภาคโทโฮคุ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมใบไม้แดงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอาโอโมริ เพราะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีลำธารไหลลงมาตามชั้นหินได้อย่างเหมาะเจาะสวยงาม ทำให้มีผู้คนเดินทางมาชมทัศนียภาพและความงามของมันอย่างล้นหลามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 

ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่นี่จะมีคนค่อนข้างน้อย แต่วิวธรรมชาติก็สวยไม่แพ้กันเลย เพราะเราจะได้เห็นธรรมชาติสีเขียวชอุ่มยาวไปตลอดระยะทาง 9 กิโลเมตรของเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ฟังดูเหมือนจะยาวแต่ด้วยความร่มรื่นของที่นี่จะทำให้คุณเดินเล่ยได้อย่างสบายๆ เลยล่ะค่ะ

3. ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada)

ทะเลสาบโทวาดะ (十和田湖) เป็นจุดท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อกับลำธารโออิราเสะที่เพิ่งกล่าวถึงไปเมื่อครู่นี้ ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของทั้งจังหวัดอาโอโมริและจังหวัดอาคิตะ เป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยมากอีกจุดหนึ่ง เพราะมีวิวทะเลสาบสีน้ำเงินเข้มที่ตัดกับภูเขาและบรรดาใบไม้แดงสีสันสดใส คุณอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร แต่รับรองว่าถ้าได้มาเห็นแล้วจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแน่นอนค่ะ คุณสามารถเลือกชมทิวทัศน์ของที่นี่ได้จากบนเรือเฟอร์รี่ และจากการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนแบบสบายๆ ไม่รีบร้อน

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. หุบเขาดากิกาเอริ (Dakigaeri Valley)

ต้องบอกว่า หุบเขาดากิกาเอริ (抱返り渓谷) แห่งนี้เป็นสถานที่ลับแลของแท้เลยค่ะ เพราะแม้แต่คนญี่ปุ่นก็ยังไม่ค่อยจะรู้จักกัน หุบเขาแสนสวยแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดอาคิตะ มีที่มาของชื่อมาจากเรื่องเล่าในสมัยก่อน ว่ากันว่าทางเดินบริเวณนี้แคบมากจนคนเดินสวนกันไม่ได้ จึงต้องกอดอีกฝ่ายและหมุนตัวเพื่อสลับที่กันจึงจะสวนกันได้นั่นเอง

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะเต็มไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้สีส้ม แดงและเหลืองของต้นไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นอยู่ในหุบเขา เป็นภาพที่สวยงามจับตาและทำให้รู้สึกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสะพานคามิ โนะ อิวาฮาชิ (神の岩橋) ซึ่งเป็นสะพานสีแดงขนาดใหญ่ เหมาะที่จะใช้เป็นจุดถ่ายรูปมากๆ ภาพของทัศนียภาพที่ประกอบไปด้วยหุบเขา ลำธารและสะพานแบบนี้ บอกเลยค่ะว่าเป็นสิ่งที่ต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิตจริงๆ 

Klook.com

5. ทะเลสาบทาซาวะ (Lake Tazawa)

ทะเลสาบทาซาวะ (田沢湖) ตั้งอยู่ในจังหวัดอาคิตะ เป็นทะเลสาบที่มีความลึกมากที่สุดของญี่ปุ่นด้วยความลึก 423 เมตร ซึ่งบริเวณที่ลึกไม่เท่ากันในทะเลสาบจะทำให้เห็นเป็นสีเข้มอ่อนไม่เท่ากัน ทำให้เกิดภาพวิวที่แตกต่างกันไปตามจุดที่เรามองไปในทะเลสาบ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีรูปปั้นของทัตสึโกะ ซึ่งเป็นหญิงสาวในตำนานที่ถูกสาปให้เป็นมังกรที่ทะเลสาบแห่งนี้ รูปปั้นของเธอเป็นสีทองงดงามที่เข้ากับภาพวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบ ภูเขา และท้องฟ้ามากๆ นอกจากนี้เรายังสามารถชมวิวได้ด้วยการนั่งเรือเฟอร์รี่ในทะเลสาบได้อีกด้วย

6. หาดโจโดกาฮามะ (Jodogahama Beach)

การเดินทางไปยัง หาดโจโดกาฮามะ (浄土ヶ浜) อาจจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ! เพราะเป็นชายหาดที่สวยมากๆ เมื่อคุณไปถึงก็จะได้พบกับหาดหินสีขาวสะอาด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวสดใส เมื่อมองออกไปก็จะเห็นโขดหินอันสวยงามที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับทิวทัศน์ของชายหาดแห่งนี้ คุณจะเดินชมวิวไปตามแนวหาด หรือจะขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปชมวิวรอบๆ และให้อาหารนกนางนวลบนเรือก็ได้ (บนเรือจะมีขนมปังสำหรับนกขายค่ะ) เพียงคุณบิขนมปังแล้วชูขึ้นสูงๆ นกนางนวลก็จะบินมากินจากมือเลยล่ะค่ะ เป็นประสบการณ์ที่สนุกและน่าประทับใจมากจริงๆ

7. หุบเขาเกนบิเคอิ (Genbi Valley)

หุบเขาเกนบิเคอิ (厳美渓) เป็นหุบเขาที่มีชื่อคล้ายกับเกอิบิเคอิ (猊鼻渓) นอกจากชื่อจะคล้ายแล้ว ทั้งสองที่นี้ยังอยู่ในเขตอิจิโนเซกิของจังหวัดอิวาเตะเหมือนกัน และอยู่ไม่ไกลกันอีกด้วย ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ผู้คนเกิดความสับสนได้ในบางครั้ง เกนบิเคอิอาจจะได้รับความนิยมน้อยกว่าเกอิบิเคอิอยู่สักหน่อย แต่บอกเลยค่ะว่าทัศนียภาพของที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน คุณสามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ทุกฤดูและจะได้ชมภาพวิวที่แตกต่างกันออกไป

ที่นี่มีทางเดินที่ลัดเลาะไปตามแม่น้ำระยะทางราว 2 กิโลเมตร ที่คุณจะได้เดินชมความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่ และยังมีไฮไลท์อีกอย่างหนึ่ง คือ "ดังโงะบิน" ซึ่งเป็นการขายขนมดังโงะโดยใช้ตะกร้าที่ห้อยไว้กับเชือกที่ขึงพาดจากร้านขนมไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ เวลาจะซื้อก็เพียงใส่เงินลงไปแล้วสั่นกระดิ่ง พนักงานก็จะสาวเชือกเพื่อดึงตะกร้าขึ้นไป แล้วเสิร์ฟขนมกลับลงมาในตะกร้าใบเดิม ถือเป็นสีสันของการขายที่จะทำให้การกินขนมและการชมวิวของคุณสนุกสนานขึ้นไปอีก

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. โอโมชิโรยามะ (Omoshiroyama)

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อยามาเดระ (山寺) ซึ่งเป็นวัดที่อยู่บนภูเขาในจังหวัดยามากาตะ แต่อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อโอโมชิโรยามะ (面白山) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินเขาแบบเบาๆ และการชมใบไม้แดง ปกติแล้วคนที่มาเที่ยวยามาเดระมักจะมุ่งตรงไปยังตัววัดเลย แต่เราแนะนำว่าให้นั่งรถไฟไปลงสถานี Omoshiroyama – Kogen ก่อน แล้วเดินลัดเลาะไปตามหุบเขาก็สนุกไม่แพ้กันค่ะ เพราะคุณจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ ลำธารและโขดหิน ไปตามเส้นทางเดินเขา และต้องบอกเลยว่าใบไม้แดงของที่นี่ก็สวยมากๆ ไม่แพ้ที่ไหนเลย 

เส้นทางก็จะนำคุณไปถึงวัดยามาเดระในที่สุดค่ะ ได้ไปเที่ยว 2 ที่ในครั้งเดียวแบบนี้เยี่ยมไปเลยจริงไหมคะ

9. ทะเลสาบโกชิกินูมะ (Goshikinuma Ponds)

โกชิกินูมะ (五色沼) หรือ ทะเลสาบห้าสี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดฟุกุชิมะ ที่ได้ชื่อว่าทะเลสาบห้าสีเป็นเพราะสีของทะเลสาบที่นี่ ซึ่งจริงๆ แล้วประกอบด้วยทะเลสาบหลายๆ แห่งเรียงกัน ในทะเลสาบมีแร่ธาตุหลายชนิด ทำให้สีของมันเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ เวลา อุณหภูมิและปัจจัยทางธรรมชาจิอื่นๆ

ที่นี่มักจะมีคนเยอะในช่วงชมใบไม้แดง หากคุณอยากมาชมแบบสบายๆ หน่อยก็สามารถมาในฤดูกาลอื่นได้เช่นกัน เพราะการมาชมทะเลสาบห้าสีในฤดูกาลที่ต่างกันก็จะได้เห็นวิวที่ไม่ซ้ำกันไปด้วย นั่นจะทำให้คุณมาเที่ยวที่นี่ได้ไม่รู้เบื่อแม้แต่ในช่วงฤดูกาลที่คนน้อย นอกจากการเดินชมรอบๆ ทะเลสาบแล้ว คุณยังสามารถพายเรือในทะเลสาบเพื่อชมวิวได้ด้วยนะคะ

10. เมืองชิจิกาชูกุ (Shichikashuku Town)

เมืองชิจิกาชูกุ (七ヶ宿町) เป็นเมืองลับแลในจังหวัดมิยากิที่คนอาจจะไม่รู้จักกันเท่าไร แต่ที่นี่ก็มีอะไรดีๆ เยอะทีเดียวค่ะ อย่างทะเลสาบโชโร (長老湖) ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้แดงที่สวยมากๆ เพราะมีวิวธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์กับทะเลสาบสีน้ำเงิน ซึ่งคุณสามารถเดินชมไปได้ตามทางเดินรอบๆ ทะเลสาบที่ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร

นอกจากนี้ คุณยังสามารถพายเรือชมวิวในทะเลสาบได้ด้วยค่ะ และในเมืองนี้ก็ยังมีโซบะเป็นอาหารขึ้นชื่ออีกด้วย เราขอแนะนำให้คุณมาเที่ยวแล้วลองชิมโซบะอร่อยๆ แกล้มไปกับเครื่องเคียงที่ทำจากวัตถุดิบจากท้องถิ่นดูนะคะ นอกจากจะสดใหม่แล้ว ยังมีวัตถุดิบบางอย่างที่ไม่สามารถหาทานได้ที่อื่นด้วย

11. เขื่อนนารูโกะ (Naruko Dam)

พูดถึงนารูโกะ ทุกคนอาจจะนึกถึงแต่หุบเขานารูโกะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตโดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แต่แถวนี้ยังมีที่เที่ยวน่าไปอีกที่หนึ่งด้วยค่ะ นั่นก็คือ เขื่อนนารูโกะ (鳴子ダム) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณหุบเขานารูโกะ

เมื่อไปถึงจะเห็นภาพของแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ ในแต่ละฤดูกาลก็จะมีวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างในช่วงหน้าร้อนก็จะเป็นพืชพันธุ์เขียวชอุ่ม และในฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้เป็นสีแดงส้มสดใสของเหล่าใบไม้เปลี่ยนสี เป็นต้น นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีป้ายบรรยายกลไลการทำงานของเขื่อน และมีจุดชมวิวที่คุณสามารถชมโครงสร้างของเขื่อนได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

Klook.com

12. เกาะฟูกูอูระ (Fukuurajima Island)

พูดถึงเซนไดหรือจังหวัดมิยากิ หลายๆ คนน่าจะนึกถึงอ่าวมัตสึชิมะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดมิยากิ ผู้คนจึงมักจะมองข้ามเกาะฟูกูอูระ (福浦島) แห่งนี้ไป เกาะนี้เป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ มีสะพานสีแดงยาวเชื่อมต่อกับบริเวณชายฝั่ง เมื่อเราขึ้นไปบนเกาะจะได้พบกับพืชพันธุ์นานาชนิด และทางเดินเขาที่เดินไม่ยากให้เราได้ใช้เดินชมธรรมชาติบนเกาะได้อย่างสบายๆ ไม่รีบร้อน

นอกจากนี้ บนเกาะยังมีจุดชมวิวที่ทำให้คุณเห็นทะเลและหมู่เกาะอันเป็นเอกลักษณ์ของอ่าวมัตสึชิมะได้ด้วย เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากๆ และไม่ควรพลาดเมื่อมาที่มัตสึชิมะค่ะ

เปิดประสบการณ์ใหม่กับที่เที่ยวลับแลในโทโฮคุ!

การไปสถานที่ท่องเที่ยวที่คนน้อยมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ คุณสามารถเที่ยวได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องไปเบียดกับใคร เดินเล่นได้สะดวก ถ่ายรูปได้สบาย หากคุณเคยไปท่องเที่ยวตามสถานที่ชื่อดังจนเบื่อแล้ว ก็ลองพิจารณาที่เที่ยวลับแลเหล่านี้ไว้เป็นตัวเลือกดูนะคะ รับรองว่าจะทำให้คุณได้เห็นโทโฮคุในมุมใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนแน่นอน
 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์โทโฮคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Wee-chan
Wee-chan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร