แนะนำคิทแคทที่หาซื้อได้แค่ในญี่ปุ่น! รวมรสชาติประจำท้องถิ่น และแบบลิมิเต็ดพิเศษสุดๆ!

แตงโม วาซาบิ เครื่องดื่มชูกำลัง ไซรัปบราวน์ชูการ์...หากคุณเคยไปญี่ปุ่นหรือมีคนรู้จักที่ไปเที่ยวมา คุณอาจได้เห็นหรือได้รับคิทแคทรสแปลกๆ แต่อร่อยที่หาทานที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ความหลากหลายของคิทแคทในญี่ปุ่นนั้นนำหน้าประเทศอื่นๆ ไปไกลมาก และส่วนใหญ่ก็เป็นรสชาติที่สามารถหาซื้อได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น หากคุณสนใจเรื่องเหล่านี้ การตามล่าคิทแคทรสชาติต่างๆ ระหว่างเที่ยวในญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆ ที่ไม่ควรพลาด ไปดูกันว่าคิทแคทรสพิเศษเหล่านี้มีอะไรบ้างและเราจะหาซื้อมันได้จากที่ไหน!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

เล่าสั้นๆ ประวัติของคิทแคทในญี่ปุ่น - จากขนมยามว่างสู่ความคลั่งไคล้

คิทแคทปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 1935 แรกเริ่มมีชื่อว่า "Chocolate Crisp" โดยชื่อ "Kit Kat" นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "Kit Cat Club" คลับที่เหล่าผู้ก่อตั้งคิทแคทเป็นขาประจำ และถูกนำมาใช้ในปี 1937

คิทแคทถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นเมื่อปี 1973 เป็นขนมที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่หลังจากนั้นไม่นาน Nestle Japan ก็ได้ทดลองสร้างความแตกต่างด้วยการผลิตคิทแคทรสสตรอว์เบอร์รี่ออกวางจำหน่ายในฮอกไกโด ซึ่งบังเอิญไปตรงกับฤดูเก็บสตอเบอร์รี่ของฮอกไกโดพอดี

นับจากนั้นเป็นต้นมา คิทแคทก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฝีมือการตลาดของบริษัท Nestle Japan ที่ปรับตัวให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมการให้ของฝากของคนญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันสินค้ารุ่นลิมิเต็ดต่างๆ ก็ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ทำให้คิทแคทดูเป็นของหายาก และดูมีคุณค่ามากขึ้นในสายตาของผู้บริโภค ช่วงเวลาประมาณ 20 ปีหลังจากนั้น มีคิทแคทที่ถูกพัฒนาขึ้นกว่า 400 รสชาติ โดยในแต่ละปีจะมีประมาณ 40 รสออกมาวางขาย รวมกับรสใหม่ๆ อีก 20-30 รสชาติที่จะมาวางขายสลับกันไปเรื่อยๆ

แม้แต่คิทแคทชาเขียวที่เรียกได้ว่าเป็นรสประจำชาติของญี่ปุ่นก็ยังแตกเป็นรสย่อยๆ ได้อีกกว่า 10 ชนิด และยังมีคิทแคทรสเหล้าญี่ปุ่นอีก 4 อย่าง คือ ไวน์ข้าว ไวน์พลัม ไวน์โยเกิร์ต และไวน์ส้มยูซุที่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเช่นกัน และในขณะเดียวกันก็มีสชาติแปลกใหม่แบบอื่นๆ ผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากรสชาเขียวแล้วที่ญี่ปุ่นยังมีคิทแคทรสอื่นๆ อีกมากมาย

อย่างแรกที่ต้องรู้เลย คือ คิทแคทจะมีรสปกติอยู่ 6 รสชาติที่สามารถหาซื้อได้ตลอดทั้งปี ได้แก่ รสออริจินัลช็อกโกแลต ดาร์กช็อกโกแลต ชาเขียว ชาเขียวเข้มข้น ชาเขียวคั่ว (โฮจิฉะ) และราสเบอร์รี่

แล้วก็จะมีรสประจำฤดูกาล เช่น รสซากุระที่วางจำหน่ายในช่วงซากุระบานของฤดูใบไม้ผลิ หรือรสช็อกโกแลตมิ้นต์ที่มักจะออกมาให้เห็นในช่วงต้นฤดูร้อน ถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่รสชาติเหล่านี้จะเหมือนๆ กันทุกปี แต่บางครั้งก็มีการดัดแปลงเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้างเพื่อให้คิทแคทดูน่าสนใจและแปลกใหม่อยู่เสมอ

ถัดมาก็จะเป็นคิทแคทรสชาติใหม่ๆ ที่มักจะออกมาให้เห็นทุกๆ 2-3 เดือน ในช่วงที่กำลังเขียนบทความนี้ มีรสชาติลิมิเต็ดที่ออกใหม่เป็นรสซากุระโมจิ สาเกซากุระ อีสเตอร์บานาน่าและยูซุมัทฉะ

นอกจากนี้ยังมีคิทแคทรสประจำถิ่นของแต่ละพื้นที่ด้วย คิทแคทกลายเป็นของฝากยอดนิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เพราะเขาถือว่าการนำของฝากจากการเดินทางมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และครอบครัวถือเป็นมารยาททางสังคมอย่างหนึ่งที่สำคัญมาก

รสชาติเหล่านี้ทำขึ้นผ่านการคัดสรรวัตถุดิบในแต่ละท้องถิ่นอย่างพิถึพิถัน เพื่อให้สามารถแสดงเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น รสอิโตคิวเอมอนมัทฉะของเกียวโต รสโมมิจิมันจูของฮิโรชิม่า รสเบนิอิโมะ (มันม่วง) ของโอกินาว่า และรสแซนด์วิชถั่วอะซูกิของนาโกย่า ไม่ว่าจะเป็นชิ้นไหนก็ล้วนแต่มีพื้นฐานมาจากรสชาติของอาหารในพื้นที่ทั้งนั้น

เกือบทุกพื้นที่ในญี่ปุ่นจะมีคิทแคทของตัวเองอยู่ และบางพื้นที่ก็อาจมีมากกว่า 1 รสชาติ นอกจากนี้ คิทแคทยังมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กพกพาสะดวก มีแพ็กเกจที่สวยงาม และยังแบ่งกันทานได้ง่ายๆ ทำให้มันเป็นขนมที่เหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝาก

สุดท้ายคือ ซีรี่ส์ช็อกโกแลตสุดหรูที่ชื่อว่า "Kit Kat Chocolatory" คิทแคทสุดเก๋ไก๋ที่ออกแบบโดยคุณ Yasumasa Takagi ผู้เป็นนักทำขนมระดับโลก ทำด้วยช็อกโกแลตคุณภาพสูงและวัตถุดิบอื่นๆ อย่างผลไม้อบแห้งประจำฤดู แม้ว่าคิทแคทซีรี่ส์นี้จะมีวางขายในประเทศอื่นอยู่บ้าง แต่ก็มีบางรสที่สามารถหาซื้อได้แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น เช่น รสแคสซิส ยูซุและเสาวรส นอกจากนี้ ยังมีคิทแคทที่ใช้โกโก้จากพื้นที่พิเศษต่างๆ อย่าง วานูอาตูและปาปัวนิวกินีด้วย

รสชาติของคิทแคทที่คุณสามารถพบได้ในญี่ปุ่น แปลกยิ่งกว่าวิลลี่วองก้า!

Nestle Japan ไม่เคยหยุดที่จะค้นหาความแปลกใหม่ ทั้งรสชาติแปลกๆ อย่างมันฝรั่งอบ ยาแก้ไอ พริกญี่ปุ่น หรือเอดามาเมะ (ถั่วแระญี่ปุ่น) หรือรสชาติที่แม้แต่วิลลี่วองก้ายังต้องกุมขมับ เช่น รสเครื่องดื่มชูกำลัง น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ส้มยูซุผสมพริก โชยุ ซุปมิโซะ จินเจอร์เอล หรือแม้แต่ถั่วเขียวต้มบด...ทำให้คุณอาจสงสัยว่าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Nestle Japan กำลังเมาชาเขียวและของหวานจากตู้อัตโนมัติกันอยู่หรือเปล่า

บางครั้งก็มีคิทแคทรสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้จากการร่วมมือกับแบรนด์สินค้าอื่นๆ ด้วย เช่น "Tokyo Banana" ขนมสุดฮิตของฝากประจำโตเกียวที่เป็นเค้กรูปกล้วยสอดไส้ครีม หรือ "Jujitsu Yasai" รสน้ำผักรวมที่พัฒนาร่วมกับน้ำผักรวมชื่อดังของ Ito En หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยตัวคิทแคทนั้นจะมีส่วนผสมของครีมที่ทำจากผงน้ำผักของ Ito En เคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลตรสแอปเปิ้ลผสมแครอท

ในปี 2018 ได้มีการจัดกิจกรรมฉลองการครบรอบ 45 ปีที่คิทแคทได้เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น บริษัท Nestle Japan ได้จัดประกวดออนไลน์ให้ผู้คนจากทั่วโลกนำเสนอและโหวตคิทแคทรสชาติใหม่ๆ ภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า "New Flavor World Summit" ซึ่งไอเดียที่ถูกนำมาเสนอก็มีทั้งรสนมแม่ สโตรปวาเฟิล และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Mi Goreng หลังจากที่มีการโหวตกันถึงกว่าครึ่งล้านเสียงจาก 81 ประเทศทั่วโลก ก็ได้ผู้ชนะเป็น "รสสตอเบอร์รี่ทีรามิสุ" ซึ่งนับว่ามีความแปลกใหม่ที่ไม่เลวเลยทีเดียว

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

คิทแคทแปลกประหลาดแบบอื่นๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

บางครั้งคิทแคทก็ผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ขึ้นเพื่อรวบรวมเงินไปสมทบทุนช่วยเหลือภัยพิบัติต่างๆ ในญี่ปุ่น โดย 10 เยนจากทุกๆ ห่อที่จำหน่ายได้จะถูกนำไปบริจาคเพื่อใช้ในการเยียวยาภัยพิบัติ ตัวอย่างเช่น "อิกินาริดังโงะ" ซึ่งเป็นคิทแคทที่ทำจากมันหวานและถั่วอะซูกิที่เป็นของขึ้นชื่อของคุมาโมโตะ ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยในการบูรณะจังหวัดคุมาโมโตะจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2016 และคิทแคทไซส์มินิรส "โมมิจิมันจู" ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยเหลือบริเวณตอนเหนือของฮอกไกโดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนมิถุนายนปี 2018 กับบริเวณฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกัน

นอกจากรสชาติที่แปลกประหลาดแล้ว บางครั้งคิทแคทเหล่านี้ยังมาพร้อมกับคำแนะนำเรื่องวิธีการกินด้วย อย่างเช่น รสโยเกิร์ตถั่วผสมแครนเบอร์รี่นั้นแนะนำให้นำไปแช่ตู้เย็นก่อนกินจะอร่อยยิ่งขึ้น ส่วนรสไอศกรีมก็มีคำแนะนำว่าให้นำไปปิ้งบนเครื่องปิ้งขนมปัง (!?)

ในช่วงปลายปี 2019 Nestle ได้เปิดตัวคิทแคทรสผลโกโก้ขึ้น ซึ่งจะมีการใช้เนื้อของผลโกโก้แทนน้ำตาล ส่งผลให้เมนูคิทแคทในญี่ปุ่นมีความแปลกประหลาดยิ่งขึ้นไปอีก

Klook.com

คู่มือการช้อป - คิทแคทพวกนี้หาซื้อได้ที่ไหน?

คิทแคทแบบญี่ปุ่นๆ เหล่านี้มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านของฝาก ร้ายขายยา หรือแม้แต่ในที่ทำการไปรษณีย์บางแห่ง ที่ Don Quijote ร้านขายสินค้าลดราคาชื่อดังก็มีคิทแคทจากหลากหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นวางจำหน่ายอยู่ในราคาถูกเช่นกัน คุณจะพบคิทแคทเหล่านี้ได้มากที่สุดที่สนามบิน สถานีรถไฟ และจุดขึ้นรถบัสหลักๆ รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่มีร้านขายของฝากตั้งอยู่

ในการเดินทางตามล่าคิทแคทในญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คือ ร้าน Kit Kat Chocolatory ที่ตั้งอยู่ในโตเกียวและโอซาก้า คุณจะได้สัมผัสกับคิทแคทสุดหรูที่เราได้พูดถึงไปเมื่อสักครู่ กล่องของขวัญหน้าตาสวยงามที่ประกอบไปด้วยคิทแคทซีรี่ส์ Chocolatory หลากหลายรสชาตินั้นเหมาะแก่การซื้อกลับไปเป็นของฝากมากๆ เลยทีเดียว

เนื่องจากรสชาติลิมิเต็ดนั้นเป็นสินค้ายอดนิยมจึงทำให้ขายหมดเร็วมาก โดยเฉพาะตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ คิทแคทหลายรสมีให้สั่งซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ แต่ก็มีบางรสที่จำเป็นต้องเดินทางไปซื้อด้วยตัวเองเท่านั้น หากเจอรสชาติที่ถูกใจก็ควรซื้อเก็บไว้ก่อนโดยไม่ต้องลังเล!

สรุป

ผลิตภัณฑ์คิทแคทในญี่ปุ่นนั้นมีการบริหารจัดการที่ชาญฉลาด ทำให้มันเป็นสินค้าที่ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างพากันหลงใหลแม้ว่าในประเทศของนักท่องเที่ยวเหล่านั้นจะมีคิทแคทขายอยู่แล้วก็ตาม หากคุณเคยเดินทางไปตามล่าคิทแคทในญี่ปุ่น หรือรู้สึกสนใจคิทแคทรสชาติแปลกๆ เหล่านี้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองคิทแคทให้หลากหลายที่สุดเท่าที่จะทำได้ในทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปของคุณ!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Samantha
Samantha
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร