แนะนำอาหารเด็ดฮอกไกโด เจาะลึก "ปลา และเมนูจากปลา" [อัพเดต 2021]

"ฮอกไกโด" มีปลาหายากชนิดต่างๆ อยู่มากมาย รวมถึงปลาแซลมอนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ครั้งนี้เราจะมาแนะนำปลาชนิดต่างๆ ที่หาทานในฮอกไดโดได้ไม่ยาก พร้อมบอกวิธีรับประทานให้อร่อยครบสูตร หากได้ไปเที่ยวฮอกไกโดแล้วก็อย่าลืมลิ้มลองความอร่อยของปลาเหล่านี้กันให้ได้นะ แล้วคุณจะติดใจ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. ปลาแซลมอนขาว (白鮭)

ฮอกไกโดเป็นเขตที่สามารถจับปลาแซลมอนขาวที่เรียกว่า "อาคิซาเกะ" (秋鮭) ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น โดยสามารถหาได้แทบจะในทุกพื้นที่ของฮอกไกโดเลยทีเดียว

เนื่องจากปลาแซลมอนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับมายังแม่น้ำที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน - ตุลาคม) ปลาแซลมอนที่ถูกจับได้ในช่วงนี้จึงมีชื่อว่า "อาคิซาเกะ" ที่แปลว่า "แซลมอนฤดูใบไม้ร่วง" นั่นเอง ปลาชนิดนี้สามารถรับประทานได้หลายวิธี มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ไข่ปลาแซลมอน หรือ อิคุระ (イクラ)

อิคุระ คือ ไข่ปลาแซลมอนแช่เกลือหรือโชยุ เพื่อป้องกันการเสียรูปทรง มีลักษณะเป็นเม็ดใสๆ สีแดงที่มีเปลือกบางๆ หุ้มอยู่

อิคุระที่อร่อยจะมีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ แนะนำให้ทานโดยราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ ซึ่งจะทำให้คุณได้ลิ้มรสอร่อยล้ำของอิคุระอย่างเต็มที่!

ซูชิ (寿司)

ซูชิแซลมอนเป็นซูชิที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แซลมอนของฮอกไกโดจะมีรสชาติกำลังดี ไม่เข้มข้นจนเกินไป ส่วนไขมันละลายในปากได้เลยทีเดียว หากมาถึงฮอกไกโดแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด!

จังจังยากิ (ちゃんちゃん焼き)

จังจังยากิเป็นอาหารท้องถิ่นของฮอกไกโดที่ปรุงโดยย่างปลาพร้อมๆ กับผักและปรุงรสด้วยเนยกับมิโซะ เป็นเมนูที่เข้ากับเบียร์ได้ดีมาก! รสชาติแสนอร่อยของปลาแซลมอนและมิโซะนั้นจะทำให้คุณหยุดทานไม่ได้เลยทีเดียว

อิชิคารินาเบะ (石狩鍋)

อิชิคารินาเบะเป็นอาหารท้องถิ่นประเภทหม้อไฟของฮอกไกโดเช่นเดียวกับจังจังยากิ ทำด้วยการนำปลาแซลมอนที่เป็นวัตถุดิบหลักมาต้มกับผักและเต้าหู้ในซุปสาหร่ายคอมบุที่ปรุงรสด้วยมิโซะ หากใส่เนยหรือกากเหล้าลงไปด้วยก็จะทำให้ได้รสชาติที่อร่อยเข้มข้นขึ้นด้วย!

 

2. ปลาซันมะ (秋刀魚)

เมื่อพูดถึงปลาในฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึงปลาซันมะเป็นอันดับแรก ปลาซันมะนี้มีลำตัวผอมยาวประมาณ 40 เซนติเมตร และมีปากที่ยาวแหลมเป็นเอกลักษณ์

สำหรับวิธีปรุงปลาซันมะ ส่วนใหญ่จะนำไปย่างเกลือเพราะจะทำให้หนังปลากรอบและเนื้อปลาหอมอร่อย เนื่องจากปลาชนิดนี้มีไขมันอยู่เยอะนั่นเอง แนะนำให้ทานพร้อมกับไชเท้าขูดฝอยและราดด้วยโชยุ

ซูชิ (寿司)

ปลาซันมะเป็นปลาที่มีวิตามิน D ที่จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่ 1 คนในแต่ละวันถึง 3 เท่า และมีวิตามิน A มากกว่าเนื้อวัวถึง 12 เท่า! นอกจากนี้ ปลาซันมะที่สดใหม่จริงๆ ก็จะไม่มีกลิ่นคาวด้วย สามารถรับประทานดิบๆ เป็นซูชิได้อย่างง่ายดาย

Klook.com

ทัตสึตะอาเกะ (竜田揚げ)

ทัตสึตะอาเกะ คือ ปลาซันมะทอด ที่ทำด้วยการนำปลาซันมะที่ล้างทำความสะอาดและเอาเครื่องในออกแล้วลงไปแช่ในส่วนผสมของโชยุ สาเก น้ำตาล และกระเทียมขูดฝอยประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงนำมาโรยแป้งบางๆ แล้วนำไปทอดน้ำมัน เนื้อปลาซันมะที่เต็มไปด้วยน้ำซอสชุ่มฉ่ำนั้นเข้ากันได้ดีกับข้าวสวย ใครได้กลิ่นก็ต้องน้ำลายไหลไปตามๆ กันแน่นอน

ปลาซันมะย่างซอสคาบายากิ (さんまの蒲焼)

วัตถุดิบในการทำคาบายากิ (蒲焼) จะค่อนข้างคล้ายกับการทำทัตสึตะอาเกะ คือ นำปลาซันมะที่ล้างทำความสะอาดและเอาเครื่องในออกแล้วมาโรยแป้งมันบางๆ ที่บริเวณหนังปลา แล้วนำไปย่างไฟปานกลางโดยวางหนังปลาลงบนกะทะ จากนั้นจึงราดซอสที่มีส่วนผสมของโชยุ สาเก น้ำตาล และกระเทียมขูดฝอยลงไป เพียงเท่านี้ก็ได้กับแกล้มจานเด็ดรสชาติเยี่ยมในเวลาอันรวดเร็ว!

 

3. ปลาคิงกิ (きんき)

ปลาคิงกิเป็นปลาเนื้อขาวที่มีลำตัวสีแดง ตาโตและปากใหญ่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีราคาสูง โดยมีการซื้อขายกันในราคาตัวละประมาณ 3,000 เยนขึ้นไปเลยทีเดียว (บางครั้งในโตเกียวก็ขายกันประมาณ 10,000 เยน) ปลาคิงกิสามารถจับได้มากในช่วงฤดูหนาว เป็นปลาที่มีไขมันมากกว่าโปรตีนจึงมีเนื้อนุ่มและรสชาติกลมกล่อมละมุนลิ้น

ปลาคิงกิต้มโชยุ (きんきの煮付け)

เนื่องจากเป็นปลาที่มีไขมันมาก เราจึงขอแนะนำให้ปรุงด้วยการย่างเกลือ หรือนำไปต้มโชยุ น้ำซุปรสหวานปนเค็มที่ได้จากการต้มปลาคิงกินี้จะมีไขมันปลาลอยอยู่ เมื่อนำมาราดข้าวแล้วจะทำให้อร่อยจนหยุดทานไม่ได้เลยทีเดียว!

 

4. ปลาซุเคโทดาระ (すけとうだら)

ปลาซุเคโทดาระ หรือ ปลาค็อดสายพันธุ์อลาสก้าพอลล็อคนี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่ลายเส้นยาวที่เรียงกันอยู่กลางลำตัว มี 3 ครีบ และมักจะมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะนิยมนำไปแปรรูป เพราะไม่นิยมทานดิบ โดยทั่วไปแล้วคนจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อของปลาชนิดนี้ แต่หากนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปแล้วล่ะก็ คุณจะได้เห็นมันอยู่บนโต๊ะอาหารของคนญี่ปุ่นทั่วไปเลยล่ะ

ไข่ปลาทาราโกะ (たらこ)

ทาราโกะ คือ ไข่ปลาปลาซุเคโทดาระแช่น้ำเกลือ แต่หากมีการปรุงรสพริกลงไปด้วยก็จะถูกเรียกว่า "เมนไทโกะ" (明太子) จะกินสดๆ หรือนำไปย่างก็น่าลอง หรือจะนำไปทำเป็นสปาเก็ตตี้ซอสทาราโกะ หรือทำเป็นข้าวแช่ญี่ปุ่นที่เรียกว่า "โอฉะซึเกะ" (お茶漬け) ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

คามาโบโกะ (かまぼこ)

คามาโบโกะ เป็นอาหารแปรรูปที่ทำโดยการนำปลาเนื้อขาวไปบดให้ละเอียด ผสมกับเครื่องปรุง ฯลฯ แล้วนำไปนึ่งหรือรมควัน มีรสชาติคล้ายลูกชิ้นปลาบ้านเรา เนื้อมีความยืดหยุ่นทำให้ยิ่งเคี้ยวยิ่งได้รสชาติ มีโปรตีนสูง อีกทั้งยังย่อยง่ายด้วย

 

5. ปลาชิชาโมะ (ししゃも)

ปลาชิชาโมะมีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร สามารถจับได้เพียงในพื้นที่เล็กๆ ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของฮอกไกโดเท่านั้น ปลาชิชาโมะที่มีไข่จะมีรสอร่อยเป็นพิเศษ และเข้ากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ด้วยความที่เนื้อปลามีรสเค็มอยู่แล้ว จะทานโดยบีบมะนาวหรือจิ้มมายองเนสเฉยๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน!

 

6. ปลาฮอกเกะ (ほっけ)

ปลาฮอกเกะสามารถจับได้มากในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม อุดมไปด้วยไขมันจึงมีรสอร่อยเป็นพิเศษ และเนื่องจากปลาชนิดนี้เป็นปลาที่รักษาความสดได้ไม่นาน คุณจึงสามารถทานปลาฮอกเกะดิบได้เฉพาะในฮอกไกโดเท่านั้น

เนื้อปลาฮอกเกะจะมีความแน่นและมีไขมันคลุมอยู่ทั่วตัว จึงมักจะนำไปทำเป็นเมนูย่างเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อนำไปตากแห้งก็จะได้รสชาติที่ละมุนและทานง่ายยิ่งขึ้นด้วย จะนำไปทำเมนูจังจังยากิ หรือนำปลาสดๆ ไปทอดก็อร่อยเช่นกัน!

 

7. ปลามาดาระ (真だら)

ปลามาดาระเป็นปลาขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 1 เมตร เนื้อสีขาวอ่อนนุ่มและมีไขมันน้อย จึงสามารถนำไปทำได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นหม้อไฟนาเบะ, ย่างเกลือ, ย่างน้ำมัน, ทอด ฯลฯ

ชิราโกะ (白子)

ชิราโกะ คือ ท่อเก็บน้ำอสุจิของปลามาดาระ หน้าตาอาจจะดูไม่ค่อยน่าทานสักเท่าไร แต่ก็เป็นที่นิยมอย่างมากเพราะมีวิตามินและคุณค่าทางโภชนาการสูงมากในหมู่ปลาเนื้อขาวด้วยกัน ลองจิ้มซอสพอนสึ (ซอสถั่วเหลืองรสเปรี้ยว) ดูสักครั้ง คุณอาจจะติดใจก็ได้!

 

8. ปลานิชิน (にしん)

ปลานิชินมีปริมาณของ DHA และ EPA ที่เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวอยู่มาก นอกจากนี้ ยังมีวิตามิน A D และ E อีกด้วย นับเป็นปลาที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยรังไข่ของปลานิชินนี้จะเรียกว่า "คาสุโนโกะ" (カズノコ) เป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นจะทานกันในช่วงปีใหม่เป็นบางครั้ง

ปลานิชินย่างเกลือ (塩焼き)

เมื่อนำไปย่างเกลือก็จะได้เนื้อปลาที่ฟูนุ่มชุ่มฉ่ำ ตรงนี้มีเทคนิคการย่างอยู่เล็กน้อย คือ ควรอุ่นเตาย่างให้ร้อนก่อน และหลังจากย่างเสร็จให้ปล่อยทิ้งไว้ในเตาประมาณ 1 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้เนื้อปลาที่ฟูนุ่มชุ่มฉ่ำมาทานกันแล้ว!

นิชินโซบะ (にしんそば)

"นิชินโซบะ" เป็นอาหารชื่อดังของเมืองเกียวโต ทำโดยการนำเนื้อปลานิชินที่ต้มและปรุงรสให้หวานมาเป็นท็อปปิ้งของโซบะร้อน ซึ่งให้รสชาติที่เข้ากันได้ดีมาก เป็นวิธีปรุงที่ให้คุณค่าทางโภชนาการอย่างสมดุล คนญี่ปุ่นมักจะทานในช่วงปีใหม่

 

9. ปลาคาเร (カレイ)

ปลาคาเรเป็นปลาที่มีเอกลักษณ์อยู่ในลำตัวที่แบน และมีตาทั้งสองข้างอยู่ทางด้านขวาของลำตัว ปลาคาเรมีอยู่หลายสายพันธุ์ แค่ในฮอกไกโดก็สามารถจับได้ถึง 10 กว่าสายพันธุ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็น "อาคาคาเร" (あかがれい) "อาสะบาคาเร" (あさばがれい) ฯลฯ เนื้อปลาที่สดใหม่จะมีรสละมุนกลมกล่อมเป็นพิเศษ

Klook.com

คาราอาเกะปลาคาเร (カレイの唐揚げ)

แน่นอนว่าทั้งเมนูซาชิมิ เมนูย่าง เมนูต้ม ฯลฯ ล้วนอร่อยเด็ดไม่แพ้กัน แต่เมนูที่เราอยากแนะนำที่สุด คือ "คาราอาเกะปลาคาเร" หรือปลาคาเรทอดนั่นเอง เป็นเมนูที่คุณจะสามารถทานได้ทั้งก้างปลาเลยทีเดียว

เนื่องจากปลาชนิดนี้มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ จึงไม่ต้องกังวลถึงแม้จะเป็นเมนูทอดก็ตาม ลองชิมรสชาติที่แตกต่างกันของปลาคาเรในแต่ละฤดูกาลแล้วคุณจะติดใจ!

 

10. ปลาฮิราเมะ (ヒラメ)

ปลาฮิราเมะที่คนส่วนใหญ่มักจะสับสนแยกไม่ออกกับปลาคาเร มีลำตัวเป็นรูปวงรียาว หัวใหญ่ และมีตาทั้งสองข้างอยู่ด้านซ้ายของลำตัว เป็นปลาราคาแพงที่คนญี่ปุ่นมักจะรับประทานกันในรูปแบบของซาชิมิหรือซูชิ

ปลาฮิราเมะอุดมไปด้วยโปรตีน มีไขมันน้อย และมีครีบที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน! โดยเฉพาะปลาที่จับได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาวนั้นจะมีไขมันมากกว่าปกติ เมื่อนำไปทำเป็นซาชิมิหรือซูชิแล้วจะได้รสชาติที่อร่อยเหาะมากๆ เลยทีเดียว

 

11. มิซุดาโกะ (みずだこ)

มิซุดาโกะหรือหมึกยักษ์แปชิฟิกชื่อดังของฮอกไกโด เป็นปลาหมึกยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีน้ำหนักถึง 20 กิโลกรัม สามารถจับได้มากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

เมนูยอดนิยมของมิซุดาโกะ คือ ชาบูชาบู เนื้อปลาหมึกยักษ์ที่มีไขมันน้อยและย่อยง่ายนี้ถือเป็นอาหารสุขภาพชนิดหนึ่ง แม้ว่าจะยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในประเทศแถบยุโรป (นอกจากสเปนและอิตาลี) แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองชิมดูสักครั้งอย่างแน่นอน!

ซาชิมิ (刺身)

เราขอแนะนำให้รับประทานเป็นซาชิมิ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความกรุบกรอบของเนื้อปลาหมึกยักษ์นี้อย่างเต็มที่ จะรับประทานคู่กับน้ำมะนาว หรือโชยุกับวาซาบิก็เข้ากันได้ดีเช่นกัน

คาราอาเกะปลาหมึกยักษ์ (タコのから揚げ)

"คาราอาเกะปลาหมึกยักษ์" เป็นเมนูกับแกล้มที่อร่อยไร้ที่ติ และเนื่องจากเนื้อปลาหมึกยักษ์มีไขมันน้อยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนรักของทอดสามารถทานได้โดยไม่ต้องกังวลใจ! 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์ฮอกไกโด
เช่ารถได้ในราคาที่คุณต้องการ รถเช่า หากคุณต้องการเช่ารถในญี่ปุ่น ต้องที่นี่เลย! ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Seira
Seira
ปัจจุบันดิฉันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยในเขตโตเกียวค่ะ ดิฉันต้องการจะนำเสนอจุดท่องเที่ยว ของแฟชั่นยอดฮิต ฯลฯ ที่เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ มหาวิทยาลัยผ่านทางบทความที่นี่ วิดีโอใน tsunagu japan นั้นดิฉันโพสท์เองค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร