12 ร้านดังในโตเกียว ที่มีราเมงวีแกน (อาหารมังสวิรัติ)

1. T's TanTan (อุเอโนะ, โตเกียว)

 

T's Tantan เป็นร้านราเมงวีแกนชื่อดังในกลุ่มคนกินวีแกนในโตเกียว ทุกเมนูในร้านล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ชาววีแกนกินได้ แถมยังแจกแจงส่วนประกอบเอาไว้ให้คุณได้เช็กดูได้เลยว่าทางร้านใส่อะไรลงไปบ้าง

นอกจากเมนูหลักอย่าง Tonkotsu Ramen (800 เยน) แล้ว ทางร้านยังมี White Sesame Tantan (850 เยน) และ Black Sesame Tantan (950 เยน) ที่หอมกลิ่นน้ำซุปงาอีกด้วย

 

นอกจากราเมงแล้ว ที่ร้านก็ยังมีเมนูข้างเคียงอย่างข้าวหน้าเนื้อเจ (380 เยน) และเกี๊ยวซ่า (300 เยน) ด้วย ร้านเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงดึกๆ แถมทางร้านยังมีเมนูอาหารเช้าให้เลือกด้วยนะ นอกจากสาขาตรงอุเอโนะแล้วก็มีที่สนามบินนาริตะอีกที่หนึ่ง ถ้าคุณแวะผ่านไปแถวนั้น ก็อย่าลืมแวะทานราเมงกันด้วยนะคะ

2. T's Restaurant (จิยูกาโอกะ)

T's Restaurant ไม่ใช่ร้านอื่นไกลที่ไหน แต่เป็นร้านดั้งเดิมของ T's Tantan ที่ขายราเมงวีแกนในย่านโตเกียวและอุเอโนะนั่นเอง ในขณะที่ T's Tantan มีเมนูน้อยกว่าและเน้นไปที่ราเมง T's Restaurant จะมีเมนูอาหารทุกแบบให้ได้เลือก อย่างเช่น พาสต้า ของหวาน แกงกะหรี่ แฮมเบิร์กสเต็กและพิซซ่า ทางร้านถึงขั้นมีคอร์สสำหรับจัดปาร์ตี้ให้ได้ด้วยนะ

แต่สำหรับราเมงแล้ว คุณสามารถลองชิม T's Tantan Noodle (1,050 เยน) หรือว่า Veg Tonkotsu Noodle (1,050 เยน) หรือไม่ก็ Yuzu Shoyu Noodle (1,200 เยน) ดูก็ได้ ซึ่งทั้ง 3 ตัวนี้จะรสชาติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย นอกจากนี้คุณยังสามารถเปลี่ยนเส้นราเมงให้เป็นเส้นข้าวกล้องปลอดกลูเตนได้โดยเพิ่มเงิน 300 เยน หรือถ้าอยากเพิ่มเส้น ก็จ่ายเพิ่มอีก 150 เยน แต่ตอนมื้อเย็น ราคาราเมงจะปรับสูงขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ประมาณ 1,280 เยนนะคะ

3. Noodle Stand Tokyo (ฮาราจูกุ)

Noodle Stand Tokyo เป็นร้านราเมงเล็กๆ ใกล้กับสถานีฮาราจูกุ ร้านอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่งเลยสามารถแทรกไว้ในตารางเที่ยวของคุณได้ไม่ยาก ที่ร้านมีราเมงให้เลือก 4 แบบ หนึ่งในนั้นคือ Coconut Miso Ramen (1,100 เยน) ที่ใช้น้ำมันมะพร้าวกับมิโซะขาวมาทำให้น้ำซุป ตัวเส้นราเมงเป็นแบบโลว์คาร์บ โปะหน้าด้วยหมูแดงเจ นมถั่วเหลืองและผักอีกเพียบ

วันศุกร์จะมีราเมงเพิ่มมาอีก 4 แบบสำหรับวันราเมงน้ำข้น ซึ่งเมนูที่เพิ่มมาก็จะเป็นวีแกนเหมือนกับเมนูหลัก Vegan Dandan Noodles (900 เยน) มาพร้อมกับน้ำซุปสุดเข้มข้น เหยาะหน้าด้วยน้ำมันพริก เหมาะสำหรับคนที่ชอบให้เผ็ดแบบนิดๆ

4.Kyushu Jangara (ฮาราจูกุ)

Kyushu Jangara คือร้านราเมงทงคตสึชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วโตเกียว ถึงความพิเศษของร้านนี้จะอยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้น แต่ทางร้านก็มีเมนูวีแกนสำหรับลูกค้าที่เป็นมังสวิรัติด้วย ซึ่งจะมีอยู่สองรสให้เลือกคือโชยุกับชิโอะ

Vegan Shoyu Ramen (1,000 เยน) เป็นราเมงสูตรคลาสสิกที่มาพร้อมกับน้ำซุปเต้าเจี้ยวสุดเข้มข้น และ "หมูแดงสไลซ์" ของทางร้านก็ทำมาจากยูบะ (ฟองเต้าหู้ตากแห้ง)

ส่วน Vegan Shio Ramen (1,000 เยน) ตัวน้ำซุปจะใส่เกลือกับส้มยูซุฝานลงไปทำให้สดชื่นแบบสุดๆ แถมนอกจากเนื้อ "ยูบะ" แล้ว คุณก็จะยังได้ผักในชามเยอะมากเลยด้วย สั่งสองเป็นเมนูพิเศษที่มีขายในช่วงเวลาที่กำหนดกับสาขาที่ระบุไว้เท่านั้น อย่าลืมตรวจสอบที่หน้าเว็บไซต์อีกครั้งเพื่อความแน่ใจนะคะ

5. Olu'olu Cafe (Sangenjaya)

Olu'olu Cafe เป็นคาเฟ่สไตล์ฮาวายที่คัดสรรเมนูวีแกนและออร์แกนิกมากมายมาจัดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนที่เป็นมังสวิรัติ อาหารแต่ละจานจะถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม อัดแน่นไปด้วยอาหารที่คุณดูแล้วแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะไม่มีเนื้อสัตว์หรือปลาอยู่จริงๆ

Vegan Ramen (980 เยน) ของที่ร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เพราะฉะนั้น คุณต้องไปดูเองว่าราเมงแสนอร่อยที่คุณจะได้ลองชิมนั้นคือตัวไหน ส่วนในรูปด้านบนคือ Cold Dandan Noodles ที่รสชาติเข้มข้นแบบจัดเต็ม

นอกจากนี้ หากคุณอยากลองราเมงแบบใหม่ๆ ก็ลองสั่ง Tomato & Basil Ramen (980 เยน)  มาชิมดูสิคะ แต่ระวังจะติดใจนะ!

6. Chabuton (ชิโมกิตาซาวะ)

Chabuton เป็นร้านที่ถือกำเนิดโดย Yasuji Morizumi เชฟราเมงคนแรกที่ได้รับมิชลินสตาร์ นอกจากที่โตเกียวแล้วก็ยังมีสาขาที่คันไซ และถึงขั้นมีที่ไทยกับสิงคโปร์ด้วย

ในบรรดาเมนูราเมงทั้งหมดที่ทางร้านมี คุณจะเห็นรูปหนึ่งที่มีเขียนกำกับไว้เป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจนเลยว่า "Only-Vegetable-Rahmen" (770 เยน) ราเมงสีสันสดใสที่มีแต่ผักชามนี้เป็นสีเขียวใสๆ แทนที่จะเป็นน้ำซุปกระดูกสีขุ่นก็เป็นน้ำซุปผักใสๆ แทน ส่วนเมนูข้างเคียงที่เราอยากแนะนำก็คือเกี๊ยวซ่าผัก (5 ชิ้น 320 เยน) ซึ่งมันจะเป็นสีเขียวอย่างที่คุณคิดไว้ไม่ผิดเลยล่ะ

7. Gavy Setagaya (คามิมาจิ)

เจ้าของร้านเคยเปิดร้านราเมงสมุนไพรมาก่อนแล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นร้าน Gavy Setagaya ที่มุ่งเม้นไปที่การกินเพื่อความงามผ่านการทำอาหารอิตาเลียนจากถั่วเหลือง ที่ร้านยังมีอาหารวีแกน ราเมงปลอดกลูเตน ที่บางเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย

Vegan Ramen (1,300 เยน) ของทางร้านจะออกรสเผ็ดนิดๆ จากงาและน้ำมันพริก หรือถ้าคุณอยากลองอะไรที่ต่างออกไปสักหน่อย ก็ลอง Hot Pot Spicy Taste Soy Pasta (1,200 เยน) ของทางร้านดูก็ดีนะ แต่อย่าลืมจองร้านก่อนไปนะคะ!

8. Afuri (เอบิสึ)

หากคุณไม่ใช่คนที่ชอบทงคตสึราเมง (ราเมงซุปกระดูกหมู) แล้วล่ะก็ AFURI ก็เป็นทางเลือกที่ใช่สำหรับคุณแล้วล่ะค่ะ! ร้านนี้เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องราเมงซุปไก่ที่มีรสชาติเบาๆ สดชื่น ปกติแล้วทางร้านจะใส่ส้มยูซุลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความสดชื่นขึ้นไปอีก

อย่าลืมลองชิม Season Vegan Ramen (1,350 เยน) ที่มาพร้อมกับน้ำซุปผักดูสิคะ ส่วนผักหลากหลายชนิดที่ใส่มาในชามก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ร้านนี้มีหลายสาขาทั่วโตเกียว ถ้าเกิดเจอร้านนี้แล้วก็อย่าลืมไปลองราเมงเบาๆ เพื่อสุขภาพกันนะคะ!

9. KICK BACK CAFE (Sengawa)

คาเฟ่แห่งนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศสดใสแถมยังกว้างขวางพอที่จะจัดคอนเสิร์ตได้เลยทีเดียว ที่นี่มีเมนูวีแกนให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ของกินเล่นไปจนเบอร์เกอร์และแกงกะหรี่เลยทีเดียว

ราเมงวีแกนที่เป็นหนึ่งในเมนูขายดีของที่ร้านชื่อว่า Soy Milk Ramen (1,050 เยน) น้ำซุปนมถั่วเหลืองเข้มข้น โปะหน้าด้วยถั่วงอกกรอบๆ กับสเต็กเต้าหู้เทริยากิ แถมทางนั้นยังมีแบบไซส์มินิที่ชื่อ Shime Mamera (680 เยน) ให้สั่งได้หลังหกโมงเย็นด้วยนะ เผื่อว่าคุณจะไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ยังไงล่ะ

10. Soranoiro (Kojimachi)

Soranoiro มีอีกสองสาขาที่ขายราเมงวีแกน แต่ที่สาขานี้ได้รับเลือกให้ลงมิชลินไกด์ถึง 3 ปีซ้อน! เมนูที่เด็ดที่สุดของร้าน คือ Veggie Soba (990 เยน) ตัวเส้นมีส่วนผสมของพริกหวานเลยทำให้เป็นสีส้ม และน้ำซุปผักที่ทำจากกะหล่ำปลีและแครอท ได้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่ลองไม่ได้แล้ว! 

Vegan Veggie Soba (1,100 เยน) เป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดของ Veggie Soba ที่จะไม่ใส่ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์เลย ส่วนผักที่เป็นท็อปปิ้งของจานนี้ก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

11. Loving Hut (Jimbocho)

Loving Hut เป็นร้านอาหารวีแกนที่มาไกลจากไต้หวัน แถมยังมีสาขามากกว่า 300 แห่งทั่วโลก ทุกเมนูของร้านนี้จะเป็นวีแกนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นติ่มซำ อาหารประเภทข้าว หรืออาหารทานเล่นอย่าง เต้าหู้โคยะทอด (500 เยน) หรือ ผักเสียบไม้ (500 เยน) สำหรับเมนูราเมงนั้น ถ้าคุณชอบทานเผ็ด ก็จะต้องถูกใจ Mala Spicy Dandan Ramen (800 เยน) อย่างแน่นอน!

นอกจากเมนูทั่วไปแล้ว ทางร้านยังมี Specialty Noodles (800 เยน) ที่เป็นราเมงซุปสมุนไพรสำหรับคนที่รักสุขภาพอีกด้วย คุณจะรู้สึกสดชื่น เต็มเปี่ยมด้วยพลังทั้งกายและใจเลยทีเดียว!

12. Shinjuku Gyoen Ramen Ouka (Shinjuku-gyoemmae)

ร้านราเมงแห่งนี้ มีชื่อเสียงเป็นพิเศษด้านราเมงฮาลาล แต่ทางร้านก็มี Vegan Ramen (เซ็ตละ 3,500 เยน) ขายด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณจะสามารถเลือกได้ว่าอยากได้แบบเผ็ดหรือไม่เผ็ด แต่ระวังนะคะ ซอสพริกของที่นี่อาจเผ็ดกว่าที่คุณคิดไว้ก็ได้

ถึงราเมงของร้านนี้จะราคาสูงกว่าร้านอื่นอยู่นิดหน่อย แต่จานที่จัดตกแต่งมาอย่างสวยงามด้วยผักสีสันสดใสจะทำให้คุณอยากถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนลงมือกินอย่างแน่นอน  ส่วนเรื่องน้ำซุป แน่นอนว่าต้องอร่อยและเต็มไปด้วยรสชาติอันซับซ้อน ถ้าได้ไปแถวนี้แล้วก็อย่าลืมไปลองดูนะคะ!

จากน้ำซุปเข้มข้นจนถึงซุปใสแสนกันสดชื่น ในญี่ปุ่นยังมีราเมงอีกมากมายให้คุณได้เลือกสรรลองชิม แม้แต่ชาวมังสวิรัติก็ด้วยนะคะ อย่าลืมใช้บทความนี้เป็นไกด์ตอนเลือกอาหารญี่ปุ่นระหว่างทริปของคุณนะ!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !