10 ที่เที่ยวห้ามพลาดในจังหวัด 'ยามากาตะ' ที่คนรักธรรมชาติต้องไปโดน!

จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่กว่า 70% ในจังหวัดปกคลุมด้วยป่า สมชื่อดินแดนแห่งภูเขา (ยามะ แปลว่า ภูเขา) และมีน้ำตกอยู่กว่า 230 แห่ง ซึ่งนับว่ามากที่สุดในญี่ปุ่น บางทีจึงถูกเรียกว่า "อาณาจักรแห่งน้ำตก" ด้วย แถมนอกจากธรรมชาติสวยๆ แล้วก็ยังมีสิ่งปลูกสร้างเชิงประวัติศาสตร์อยู่มากมายให้คุณได้ไปสำรวจกัน ในคราวนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดยามากาตะที่เราเลือกเฟ้นมาแล้วอย่างดี ถ้ามีโอกาสก็ลองไปสักครั้งดูสิ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. วัดโฮชูยามะ ริชชาคุ (เขตยามากาตะ)

"วัดโฮชูยามะ ริชชาคุ  (宝珠山立石寺)" สร้างขึ้นระหว่างสมัยเฮอันในปี 860 มีอีกชื่อหนึ่งว่า "ยามาเดระ (山寺)" ที่แปลว่าวัดภูเขา โดยพระอุโบสถหลัก "คมปงจูโด (根本中堂)" ตั้งอยู่ที่จุดสูง 538 เมตรของภูเขา และมีสถานที่สำคัญของวัดอีกหลายแห่งตั้งอยู่โดยรอบ

อุโบสถสีแดง "โนเคียวโด (納経堂)" ที่ตั้งอยู่บนก้อนหินสูงชันเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในภูเขาลูกนี้ และมักจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปเนื่องจากทำเลที่ตั้งที่แปลกใหม่ของมัน

คุณสามารถขึ้นไปที่ยอดเขาได้โดยขึ้นบันได 1,015 ขั้น ระหว่างที่ขึ้นบันไดก็จะมีอาคารต่างๆ ของวัด พระพุทธรูป และศิลาจารึกในกำแพงหินจำนวนมากให้ชื่นชมตลอดทาง

2. กินซังออนเซ็น (เขต Obanazawa)

"กินซังออนเซ็น (銀山温泉)" เป็นแหล่งออนเซ็นที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ช่วงปี 1740 นอกจากแช่ออนเซ็นฟินๆ แล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์เมืองที่มีเรียวกังกว่า 10 แห่งตั้งเรียงรายอยู่ได้ด้วย

แถบนี้มีที่พักหลายแห่งที่ให้เข้าแช่ออนเซ็นได้โดยไม่ต้องเข้าพัก  และยังมีร้านที่จำหน่ายของกินและของฝากอยู่ด้วย ถ้ามาในฤดูหนาวก็จะมีหิมะปกคลุมตามหลังคาและพื้นดิน ให้ความรู้สึกแตกต่างจากฤดูอื่นไปอีกแบบ

เมื่อเข้าไปยังส่วนลึกของเมือง คุณจะพบกับ "น้ำตกชิโรงาเนะ (白銀の滝)" ที่มีน้ำตกสองสายเล็กและใหญ่สูง 22 เมตร โดยสองฝั่งของน้ำตกจะมีทางเดินให้คุณสามารถชมวิวได้จากหลายๆ มุม

3. ศาลเจ้าอิเดฮะ (เขต Tsuruoka)

"ศาลเจ้าอิเดฮะ (出羽神社)" สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 1,400 ปีก่อน ตั้งอยู่บน "ภูเขาฮากุโระซัง (羽黒山)" ซึ่งเป็นหนึ่งใน "เดวะซันซัง (出羽三山)" หรือสามภูเขาเดวะที่เรียงรายอยู่ในพื้นที่ใจกลางจังหวัดยามากาตะ ในบรรดาศาลเจ้าทั้งสามแห่งในเดวะซันซัง มีเพียงศาลเจ้าอิเดฮะแห่งนี้เท่านั้นที่สามารถมานมัสการได้ตลอดทั้งปี

 

เส้นทางไปยังศาลเจ้าที่อยู่บนยอดเขามีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร เป็นบันได 2,446 ขั้น ต้นสุงิ (ซีดาร์ญี่ปุ่น) ที่เติบโตอย่างหนาแน่นอยู่ในภูเขานั้นมีอายุ 300 - 500 ปี และกล่าวกันว่าในภูเขานั้นมีต้นที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีอยู่ด้วย

ระหว่างทางไปยอดเขาเราจะพบกับ "เจดีย์ห้าชั้นฮากุโระซัง (羽黒山五重塔)" ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างในจังหวัดยามากาตะเพียงแห่งเดียวที่เป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น และยังมีทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอื่นๆ อีกหลายแห่ง เป็นที่เที่ยวยามากาตะที่จะพลาดไม่ได้เลย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. โกดังซันเคียว (เขตเมือง Sakata)

"โกดังซันเคียว (山居倉庫)" เป็นโกดังเก็บข้าวที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1893 และยังถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน มีอยู่รวมทั้งหมด 9 หลัง สามารถเก็บข้าวได้มากที่สุดถึง 10,800 ตันเลยทีเดียว

คุณสามารถเลือกซื้อของฝากได้ที่ "ซากาตะ ยูเมะโนะคุระ (酒田夢の倶楽)" ศูนย์รวมสินค้าและการท่องเที่ยวเมืองซากาตะ หรือไม่ก็เยี่ยมชมการจัดแสดงต่างๆ ได้ที่ "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ข้าวโชไน (庄内米歴史資料館)" ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน

ด้านหลังของโกดังปลูกต้นเคยากิ (เซลโควาญี่ปุ่น) ไว้เพื่อให้ร่มเงา โดยมีต้นเคยากิที่มีอายุมากกว่า 150 ปีเรียงรายอยู่กว่า 36 ต้น นับเป็นจุดชมวิวยอดนิยมแห่งหนึ่ง

Klook.com

5. Tsuruoka City Kamo Aquarium (เขต Tsuruoka)

"Tsuruoka City Kamo Aquarium (鶴岡市立館加茂水族館)" เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวชื่อดังของยามากาตะด้วยจัดแสดงแมงกะพรุนอยู่กว่า 50 ชนิด นับเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จัดแสดงแมงกะพรุนจำนวนมากที่สุดอันดับหนึ่งในโลกเลยทีเดียว 

จุดที่น่าสนใจที่สุดของที่นี่ได้แก่ "Jellyfish Dream theatre (クラゲドリームシアター)" แทงก์แมงกะพรุนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 เมตร ซึ่งมีแมงกะพรุนพระจันทร์ประมาณ 2,000 ตัวลอยล่องอยู่ และ "Jellyfish Illumination" ซึ่งเป็นการฉายไฟไลท์อัพสีสันต่างๆ เข้าไปในแทงก์น้ำ ให้เราสามารถไปถ่ายรูปสวยๆ กันได้

นอกจากแมงกะพรุนแล้ว ภายในอควาเรียมยังมีการจัดแสดงพวกปลาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น โชว์สิงโตทะเล กิจกรรมให้อาหารนกนางนวลหางดำ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

6. ศาลเจ้ากัซซัง (เขต Nishimurayama)

"ศาลเจ้ากัซซัง (月山神社)" ตั้งอยู่บนยอดเขา "กัซซัง (月山)" ซึ่งเป็นหนึ่งในเดวะซันซังเช่นเดียวกับเขาฮากุโระซังอันเป็นที่ตั้งของเขาอิเดฮะที่แนะนำไปเมื่อสักครู่

ยอดเขานี้สูงถึง 1,984 เมตร หากเป็นวันที่อากาศดีฟ้าใส ก็จะสามารถมองลงไปเห็นวิวก้อนเมฆได้ ภายในตัวศาลเจ้าถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หลังผ่านประตูโทริอิ (ซุ้มประตูของศาลเจ้า) ไปแล้วจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูป

ระหว่างทางไปยอดเขานั้นจะมี "ที่ราบน้ำขังมิดางาฮาระ (弥陀ヶ原湿原)" ตั้งอยู่ที่จุดความสูงที่ 8 เป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์ที่แปลกตาหายาก ในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ที่ราบแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานแผ่กว้างไปทั่วบริเวณ เป็นภาพที่สวยงามมาก

7. รูปปั้นหินสิบหกพระอรหันต์ (เขต Akumi)

ในทางภาคเหนือของจังหวัดยามากาตะจะมีพระพุทธรูป 22 องค์ถูกแกะสลักอยู่บนหน้าผาชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น เรียกว่า "รูปปั้นหินสิบหกพระอรหันต์ (十六羅漢岩)" กล่าวกันว่ารูปปั้นเหล่านี้ใช้เวลาแกะสลักอยู่ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 1864 โดยมีจุดประสงค์เพื่ออธิษฐานให้เดินทางบนทะเลอย่างปลอดภัย และอุทิศส่วนกุศลให้ชาวประมงที่เสียชีวิตจากคลื่นแรงของทะเล

รูปปั้นสลักดูสวยงามแปลกตา จึงเป็นหนึ่งในที่เที่ยวยามากาตะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากทีเดียว มีคนที่มาวางเงินบนพระพุทธรูปแล้วขอพรกันอยู่ไม่น้อยเลย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. สวนสาธารณะคะโจ (เขตยามากาตะ)

"สวนสาธารณะคะโจ  (霞城公園)" เป็นสวนสาธารณะที่ซ่อมบำรุงมาจากซากปรักหักพังของ "ปราสาทยามากาตะ (山形城)" หนึ่งใน 100 ปราสาทเลื่องชื่อของญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1356

กล่าวกันว่าในช่วงสงคราม ปราสาทยามากาตะซ่อนตัวอยู่ในหมอก (คาสึมิ) จนมองไม่เห็น ทำให้ ปราสาทแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า "ปราสาทคาสึมิงะโจ (霞ケ城)" และเป็นที่มาของชื่อสวนสาธารณะคะโจในปัจจุบัน

ภายในและภายนอกสวนสาธารณะมีสถานที่เชิงวัฒนธรรมอยู่หลายแห่ง อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์พื้นเมืองยามากาตะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะยามากาตะ เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ชมซากุรขึ้นชื่อ ในฤดูใบไม้ผลิซากุระนับ 1,500 ต้นจะผลิดอกเบ่งบานอย่างสวยงาม และในช่วงเวลาเดียวกันก็จะมีการขึ้นไลท์อัพฉายไฟด้วย ให้คุณเพลิดเพลินไปกับซากุระยามค่ำคืนได้จากทั้งในและนอกสวนสาธารณะ

9. หุบเขาทาคาเสะ (เขต Akumi)

"หุบเขาทาคาเสะ (高瀬峡)" อยู่ทางภาคเหนือของจังหวัดยามากาตะ เป็นที่เที่ยวที่มักจะมีผู้แวะมาเยือนเพื่อชมสีเขียวชอุ่มในช่วงต้นฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

ในภูเขามีสิ่งมีชีวิตต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย เช่น "แมลงปอฮัจโจ (ハッチョウトンボ)" แมลงปอที่ตัวเล็กที่สุดในโลก, อิวานะ (ปลาเทราต์) และยามาเมะ (ปลาแซลม่อนชนิดหนึ่ง) เป็นต้น

ในภูเขานี้ยังมีน้ำตกอยู่อีก 2 แห่ง ได้แก่ "น้ำตกคาเงะโนะทากิ (蔭ノ滝)" ที่มีรูปทรงเป็นสายฟ้า และน้ำตก "โอทากิ (大滝)" ที่เป็นเส้นแนวตรง

10. แม่น้ำโมงามิ (เขตโมงามิ)

"แม่น้ำโมงามิ  (最上川)" เป็นหนึ่งในสามแม่น้ำที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นแม่น้ำที่ไหลอยู่ภายในจังหวัดเดียวที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นด้วย บริเวณรอบๆ ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา ซึ่งในแต่ละฤดูก็จะมีทิวทัศน์ที่ต่างกันไป

คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับความเขียวขจีในต้นฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะละลานตาในฤดูหนาว อีกทั้งยังมีบริการล่องเรือท่องเที่ยวไปตามแม่น้ำ โดยสามารถเลือกขึ้นจากท่าเรือได้หลายจุด นอกจากนี้ ยังมีเรือรูปทรงต่างๆ และเส้นทางท่องเที่ยวรอบแม่น้ำหลากหลายรูปแบบให้เลือกกันได้ตามใจคุณด้วย

ที่ฝั่งริมแม่น้ำนี้มี "น้ำตกชิราอิโตะ ( 白糸の滝)" ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกขึ้นชื่อของญี่ปุ่น และยังมีมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ กระจายตัวอยู่ด้วย ซึ่งคุณจะสามารถมองเห็นได้จากบนเรือตามเส้นทางท่องแม่น้ำที่คุณเลือกนั่นเอง

เราได้แนะนำที่เที่ยวที่น่าแวะไปเยือนในจังหวัดยามากาตะเป็นที่เรียบร้อย มีที่ไหนถูกใจคุณบ้างไหม? จังหวัดยามากาตะมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ทัศนียภาพเปลี่ยนไปตามฤดูกาลอยู่มากมายไม่ว่าคุณจะมาไปสักกี่ครั้งก็จะมีอะไรใหม่ๆ ให้คุณได้เพลิดเพลินอย่างแน่นอน!

มนต์เสน่ห์โทโฮคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Takumi
Takumi Matsumoto
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร