10 ที่พักหรูหรา พักผ่อนสบายๆ ในจังหวัดอิชิคาวะ!

จังหวัดอิชิคาวะตั้งอยู่ในภูมิภาคโฮคุริคุของญี่ปุ่น นอกจากเมืองคานาซาว่าที่โด่งดังในฐานะเมืองเก่าในบรรยากาศที่ต่างไปจากเกียวโตแล้ว บริเวณรอบๆ ก็มีเสน่ห์อยู่มากมายเช่นกัน มีประสบการณ์ที่หากไม่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองก็จะไม่มีทางเข้าใจ เช่น ออนเซ็นที่เป็นผลจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ขุมทรัพย์ของวัตถุดิบอย่างอาหารทะเลใหม่จากทะเลญี่ปุ่น และวัฒนธรรมการต้อนรับดูแลที่พัฒนาขึ้นโดยได้รับอิทธิพลจากขุนพลผู้ทรงอำนาจในอดีต ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับที่พักสุดหรูหราของอิชิคาวะที่ควรเข้าพักให้ได้สักครั้ง โดยเน้นไปที่ที่พักเด่นๆ ของแต่ละพื้นที่

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

10 ที่พักหรูหราที่ห้ามพลาดในจังหวัดอิชิคาวะ

1. Yamashiro Onsen Tachibana Shikitei (山代温泉 たちばな四季亭)

Tachibana Shikitei เปิดกิจการขึ้นเมื่อปี 1868 ในยามาชิโระออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์กว่า 1,300 ปี และได้ครองหัวใจของแขกที่มาเข้าพักอย่างเรื่อยมาด้วยจิตวิญญาณการดูแลเอาใจใส่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ยามาชิโระออนเซ็นได้รับเหรียญทองในการประกวดออนเซ็นนานาชาติที่จัดขึ้นในเยอรมันช่วงต้นยุคไทโช (ปี 1912-1926) ในบรรดาที่พักหลายแห่งที่อยู่ในออนเซ็นดังกล่าว Tachibana Shikitei เป็นที่พักส่วนน้อยที่มีความภาคภูมิใจเป็นการใช้น้ำออนเซ็นธรรมชาติจากแหล่งน้ำโดยตรง

เมื่อผ่านประตูห้องพักเคลือบแลคเกอร์ที่เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของจังหวัดอิชิคาวะเข้าไป คุณจะพบกับข้าวของเครื่องใช้ที่หรูหรามากมาย เช่น แจกันดอกไม้และด้ามจับที่เป็นเครื่องปั้นคุทานิ สามารถสัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่จากทุกรายละเอียดภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นพื้นจากไม้ตามธรรมชาติของต้นเพาโลว์เนียญี่ปุ่น ดอกไม้ประดับที่จัดแต่งไว้ในแจกันเครื่องปั้นคุทานิ หรือภาพแขวนผนังที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทั้งยังมีอาหารไคเซกิ (ชุดอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เสิร์ฟพร้อมน้ำชา) จากวัตถุดิบตามฤดูกาลให้รับประทานได้ที่ห้องอีกด้วย

ที่พักแห่งนี้ได้ผ่านการรีโนเวทมาเมื่อปี 2019 โดยคงบรรยากาศแบบโบราณไว้ และทำให้สามารถสัมผัสการเข้าพักที่แสนสงบได้อย่างสะดวกสบายขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากมีเวลาเช็คเอาท์อยู่ที่เที่ยงตรง ซึ่งช้ากว่าที่พักทั่วๆ ไป จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในช่วงเช้า และสามารถออกเดินทางได้อย่างสบายๆ

2. Matsusaki (まつさき)

Matsusaki ตั้งอยู่ในทัตสึโนะคุจิออนเซ็น (辰口温泉) ในส่วนลึกของคานาซาว่า เป็นเรียวกังเก่าแก่ที่เปิดกิจการเมื่อปี 1836 ผู้ที่ทำให้ที่แห่งนี้มีชื่อเสียงคือ อิซุมิเคียวกะ (泉鏡花) นักเขียนชื่อดังแห่งยุคเมจิที่เกิดในคานาซาว่า คุณเคียวกะได้เข้าพักที่นี่ประจำ ถึงขนาดที่ได้ใช้ที่พักแห่งนี้เป็นฉากในงานเขียนของเขา ภายในอาคารมีการประดับด้วยทันซาคุ (กระดาษยาวๆ สำหรับเขียนกลอนสั้นๆ) ที่คุณเคียวกะเขียนขึ้นเองกับมือ และกล่องใส่หินหมึกที่เขาเคยใช้งาน

สิ่งที่จะคอยต้อนรับคุณเป็นอันดับแรกคือ สวนกว้างขวางที่กินพื้นที่กว่า 1,500 สึโบะ (ประมาณ 5,000 ตารางเมตร) คุณจะได้เดินไปยังประตูหน้าของเรียวกังผ่านระเบียงที่ทอดข้ามบ่อโชเซนโกะ (松泉湖) ซึ่งมีปลาคาร์ปสีสันสดใสว่ายอยู่อย่างสง่างาม พลางตกตะลึงไปกับทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมของสี่ฤดูกาล

ห้องพักถูกจัดวางให้สามารถชื่นชมทิวทัศน์ของสวนที่จะแตกต่างไปตามฤดูกาล สำหรับ Hooh (鳳凰) ซึ่งเป็นอาคารที่แยกตัวออกไปและเป็นที่ตั้งของห้องพักที่มีเกรดหรูหราขึ้นมาหน่อยนั้น ห้องพักทุกห้องจะมาพร้อมกับออนเซ็นธรรมชาติ ทั้งแบบในร่มและแบบกลางแจ้ง

ออนเซ็นของที่นี่ใช้น้ำออนเซ็นที่ขุดพบขึ้นภายในสวน มีทั้งแบบห้องอาบน้ำรวม แบบบ่อกลางแจ้งสำหรับชมวิวสวน และบ่อแบบเช่าเหมา ทัตสึโนะคุจิออนเซ็นเป็นออนเซ็นชื่อดังที่มีประวัติศาสตร์กว่า 1400 ปี มีจุดเด่นเป็นสัมผัสที่นุ่มลื่น อ่อนโยนต่อผิว และให้ความอบอุ่นที่ยาวนานแม้ว่าจะขึ้นจากน้ำแล้ว

ที่พักแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเรียวกังที่มีอาหารอร่อย จึงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพของอาหาร คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับเมนูชั้นเลิศที่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้งสี่ โดยเน้นไปที่อาหารไคเซกิ (ชุดออาหารญี่ปุ่นที่เสิร์ฟพร้อมน้ำชา) จากวัตถุดิบในท้องถิ่น

3. Kagaya Bettei Matsunomidori (加賀屋別邸 松乃碧)

เรียวกังชื่อดังของวาคุระออนเซ็น (和倉温泉) Matsunomidori ถือกำเนิดขึ้นในฐานะอาคารหลังย่อยของ Kagaya เป็นที่พักที่สามารถดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาพิเศษๆ แบบผู้ใหญ่ ภายในอาคารตกแต่งด้วยงานฝีมือท้องถิ่นอย่างเครื่องปั้นคุทานิและเครื่องเคลือบวาจิมะ มีสวนที่เป็นที่ตั้งของห้องชาที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลมาเอดะ จะทำให้คุณรู้สึกราวกับได้เข้าพักในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเลยทีเดียว

ห้องพักของที่นี่จัดแต่งในแนวสมัยใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็คงบรรยากาศที่มีความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ ทุกห้องสามารถมองเห็นทะเลที่เงียบสงบของอ่าวนานาโอะ (七尾湾) ที่สวยงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้ยังเป็นที่พักหัวก้าวหน้าที่นำระบบอินคลูซีฟมาใช้เป็นแห่งแรกของภูมิภาคโฮคุริคุ เป็นระบบที่รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเครื่องดื่มภายในตู้เย็น ไว้กับค่าที่พักเลย ช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการเข้าพักได้อย่างสบายใจ

คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับบ่ออาบน้ำในร่มและกลางแจ้งที่ดึงน้ำมาจากวาคุระออนเซ็น ออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์กว่า 1,200 ปี ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็มีวิวทะเลแผ่กว้างอยู่เบื้องหน้า สามารถผ่อนคลายอย่างสบายๆ พลางดื่มด่ำไปกับความรู้สึกที่เป็นอิสระ

เมนูของที่นี่ทำขึ้นจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี และเทคนิคที่สั่งสมมาอย่างยาวนาวของ Kagaya ซึ่งเป็นเรียวกังชื่อดัง นอกจากเรื่องรสชาติแล้ว ภาชนะที่ใส่อาหารก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นการผสมผสานภาชนะออริจินัลของ Matsunomidori เข้ากับภาชนะดั้งเดิมอย่างเครื่องปั้นคุทานิและเครื่องเคลือบวาจิมะ ช่วยทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับมื้ออาหารโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างเต็มที่

4. Tadaya (多田屋)

Tadaya เปิดกิจการขึ้นในวาคุระออนเซ็นเมื่อปี 1885 เป็นเรียวกังเก่าแก่ที่สืบทอดเชื้อสายของหัวหน้าแคว้นนาเบจิมะ (บริเวณเมืองซากะในปัจจุบัน) สิ่งที่จะทำให้คุณตกตะลึงตั้งแต่ตอนเช็คอินคือ วิวพาโนราม่าของอ่าวนานาโอะที่สามารถรับชมได้ผ่านกระจกบานใหญ่ของล็อบบี้ ความต้องการให้แขกที่มาเข้าพักได้ชมทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมนี้ ส่งผลให้เมื่อ 50 ปีที่แล้วได้มีการย้ายตัวเรียวกังมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ท้องทะเลที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทุกๆ วินาที

ห้องพักของที่นี่มีอยู่หลากหลายสไตล์ มีทั้งห้อง VIP ที่มาพร้อมกับบ่ออาบน้ำกลางแจ้งและใกล้กับทะเลในระยะที่สามารถตกปลาได้จากระเบียงห้อง ห้องที่มาพร้อมกับบ่ออาบน้ำกลางแจ้งที่มีอ่างจากุซซี่ และห้องที่สามารถมองเห็นวิวอันยอดเยี่ยมของสวนและทะเล นอกจากนี้ ยังมีแพลนการเข้าพักที่มีมื้ออาหารให้รับประทานที่ห้องอีกด้วย วาคุระออนเซ็นมีความยอดเยี่ยมทั้งในด้านคุณภาพและสรรพคุณ ถึงขนาดที่ได้รับเลือกให้เป็น "ออนเซ็นจากแร่ธาตุที่ยอดเยี่ยมเป็นอันดับสามของโลก" ในการประกวดออนเซ็นนานาชาติที่ประเทศเยอรมัน ที่ Tadaya แห่งนี้ คุณสามารถดื่มด่ำออนเซ็นดังกล่าวผ่านบ่อกลางแจ้งและบ่อเช่าเหมาสำหรับครอบครัว โดยมีให้เลือกทั้งแบบที่ทำขึ้นจากหิน ไม้ฮิโนกิ และเครื่องเคลือบ

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของ Tadaya คือท่าเทียบเรือส่วนบุคคลที่หันหน้าเข้าหาอ่าวนานาโอะ สามารถแวะมาเดินเล่นในยามเช้าและชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น เป็นจุดเยียวยาจิตใจที่มีเสียงคลื่นและลมทะเลอ่อนๆ เนื่องจากสามารถตกปลาได้ด้วย จึงเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ในส่วนของมื้ออาหารนั้น เป็นอาหารไคเซกิที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นอย่างไม่หวง โดยมีลักษณะที่แตกต่างกับอาหารไคเซกิทั่วไป เป็น "อาหารญี่ปุ่นสไตล์ Tadaya" ที่เหล่านักท่องเที่ยวชื่นชอบเป็นอย่างมาก

5. Hyakurakuso (百楽荘)

เมื่อขับรถยนต์ออกจากเมืองคานาซาว่าประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงอ่าวสึคุโมะ (九十九湾) ที่เป็นหนึ่งในร้อยทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น บริเวณนี้เองที่เป็นที่ตั้งของ Hyakurakuso ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามของภูเขาและทะเล

ห้องพักทุกห้องเป็นห้องวิวทะเลที่สามารถชมทิวทัศน์ของอ่าวสึคุโมะได้อย่างกว้างขวาง สามารถผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศอันปลอดโปร่งที่งดงามด้วยเวิ้งน้ำน้อยใหญ่และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามฤดูกาล Suite Room ของที่นี่มีอยู่ทั้งหมด 9 ห้อง เป็นห้องที่สร้างขึ้นอย่างหรูหราโดยเน้นเรื่องความกว้างขวาง ตั้งแต่ส่วนห้องนอน บ่ออาบน้ำกลางแจ้ง ไปจนถึงระเบียงนอกห้อง

ห้องอาบน้ำของที่นี่ก็มีความพิเศษเช่นกัน ใช้น้ำทะเลลึกที่ตักขึ้นมาจากบริเวณที่ไกลออกไปจากชายฝั่งของอ่าวสึคุโมะ อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหาร ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มีบ่ออาบน้ำแบบถ้ำที่ไม่มีใครเหมือน สามารถผ่อนคลายพลางชมวิวอ่าวสึคุโมะ และถูกโอบกอดไปด้วยแสงและเสียงดนตรีที่น่าหลงใหล บ่ออาบน้ำชมวิวอีกบ่อหนึ่งของที่นี่เป็นแบบเปิดโล่งที่สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวพาโนราม่าของอ่าวสึคุโมะ

นอกจากนี้ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ สามารถสนุกไปกับการตกปลาที่ท่าเทียบเรือส่วนบุคคล เป็นที่พักที่รองรับทั้งการผ่อนคลายอย่างสบายๆ พลางพูดคุยกันในชุดยูกาตะ และการเล็งล่าปลาตามฤดูกาลอย่างจริงจัง ในส่วนของมื้ออาหาร คุณจะได้รับประทานที่ห้องอาหารที่สง่างามไม่แพ้กับอ่าวสึคุโมะ สามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูอันภาคภูมิใจจากวัตถุดิบตามฤดูกาลภายใต้บรรยากาศแสนโรแมนติก

Klook.com

6. Kanazawa Hakuchoro Hotel Sanraku (金沢白鳥路 ホテル山楽)

Kanazawa Hakuchoro Hotel Sanraku ตั้งอยู่บริเวณเชิงปราสาทคานาซาว่า (金沢城) โดดเด่นด้วยบรรรยากาศโรแมนติกแนวยุคไทไช บริเวณล็อบบี้ติดตั้งด้วยกระจกสีที่สื่อถึงฤดูกาลทั้งสี่ของคางะ (บริเวณภาคใต้ของอิชิคาวะในปัจจุบัน) ให้ความสวยงามแนวย้อนยุคจากการประดับประดาด้วยศิลปะกระดาษทอง เงิน ทองแดง และทองเหลือง โคมไฟจากเครื่องปั้นคุทานิ และ "ภาพยูเซ็นโรมัง" (友禅浪漫絵図) ที่ทำจากผ้าย้อมคางะยูเซ็น

ห้องพักของโรงแรมนี้ก็มีธีมโรแมนติกแบบยุคไทโชเช่นกัน เป็นพื้นที่หรูหราที่ผสมผสานความเป็นคานาซาว่าเข้ากับบรรยากาศแนวคลาสสิก รับรองได้ว่าจะทำให้ทริปของคุณสง่างามและเต็มไปด้วยความพิเศษ ส่วนเตียงก็ใช้หมอนและที่นอนของ airweave ผู้ผลิตเครื่องนอนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ช่วยทำให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายขึ้น

ห้องอาบน้ำรวมของที่นี่น่าชื่นใจไปด้วยออนเซ็นธรรมชาติ มีจุดเด่นเป็นน้ำสีกาแฟขุ่น ซึ่งหายากมากในบรรดาออนเซ็นธรรมชาติที่ผุดขึ้นบริเวณเชิงปราสาทคานาซาว่า กล่าวกันว่ามีสรรพคุณช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในรูขุมขนและเคราตินส่วนเกินในผิวหนัง หลังจากร่างกายได้อบอุ่นขึ้นมาจากภายในแล้ว การไปทำแฮนด์ทรีทเม้นท์ที่ซาลอนก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

ร้านอาหารของโรงแรมนี้มีรสชาติของท้องถิ่นให้คุณได้ลิ้มลอง โดยมีมื้อเช้าเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เป็นบุฟเฟ่ต์ที่เรียงรายไปด้วยอาหารญี่ปุ่น ยุโรป และจีนหลากหลายชนิด ทำขึ้นโดยใช้วัตถุดิบในพื้นที่อย่างไม่หวง ได้รับรางวัลที่ 1 ของจังหวัดอิชิคาวะติดต่อกัน 4 ปีในการประกวด Asagohan Festival (朝ごはんフェスティバル) ที่จัดขึ้นโดยบริษัทการท่องเที่ยว เป็นคุณภาพที่จะทำให้คุณพึงพอใจอย่างแน่นอน

นอกจากจะตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างสวนเคนราคุเอน (兼六園) ในระยะที่เดินถึงได้แล้ว ยังมีพนักงานต้อนรับที่สามารถปรึกษาเกี่ยวกับการเที่ยวคานาซาว่าอยู่อีกด้วย โดยจะแนะนำข้อมูลล่าสุดพร้อมให้แผนที่ท่องเที่ยวแบบออริจินัลที่มาพร้อมกับข้อมูลสุดคุ้มค่า

7. Higashiyama no Auberge Maki no Oto Kanazawa (東山のオーベルジュ 薪の音 金澤)

ที่พักที่รับแขกเพียง 4 กลุ่มต่อ 1 วัน ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิชายะ (ひがし茶屋街) ที่สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ของคานาซาว่า เนื่องจากเป็น Auberge (โรงแรมและร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส) อาหารของที่นี่จึงมีความพิเศษมากๆ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารเกรดพรีเมี่ยมในแบบปริมาณน้อยแต่มากจาน ปรุงขึ้นโดยผสมผสานวัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องที่เข้ากับวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากทั่วญี่ปุ่น สามารถเลือกรับประทานได้ทั้งแบบเป็นส่วนตัวที่ห้องเดี่ยว และแบบเคานเตอร์สไตล์ญี่ปุ่นพลางพูดคุยไปกับเชฟ นอกจากนี้ เนื่องจากมีความต้องการให้แขกที่มาเข้าพักได้รู้จักกับของอร่อยของคานาซาว่า จึงยินดีที่จะช่วยจองร้านอาหารที่จองยากๆ ให้กับแขกที่มาพักค้างคืนด้วย สำหรับมื้อเช้านั้น ที่พักแห่งนี้จะเสิร์ฟเมนูอัดแน่นไปด้วยผัก เช่น สมูทตี้ สลัด และซุปน้ำข้น

ห้องพักแบ่งออกเป็นห้องในอาคารหลักและห้องในอาคารย่อย คุณจะได้พักอย่างสะดวกสบายในห้องกว้างขวางที่มีฐานเป็นสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่ไม่โอ่อ่าจนเกินไป มีทั้งห้องที่แบ่งเป็นโซนเตียงนอนและโซนนั่งเล่นเสื่อทาทามิ และห้องที่โดดเด่นไปด้วยประตูบานเลื่อนแบบญี่ปุ่น

สมกับเป็นที่พักในย่านร้านน้ำชา จึงมีแพลนเข้าพักพิเศษๆ อย่างการชมการแสดงของเกอิชา เป็นอาคารหนึ่งหลังที่สามารถเพลิดเพลินไปกับความเป็นคานาซาว่าได้อย่างผ่อนคลาย

8. Awazu Onsen Houshi (粟津温泉 法師)

Houshi เป็นเรียวกังชื่อดังที่เก่าแก่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก เปิดกิจการขึ้นพร้อมๆ กับอาวาซึออนเซ็น (栗津温泉) เมื่อประมาณ 1,300 ปีที่แล้ว โดดเด่นด้วยการที่บริหารกันมากว่า 46 รุ่นโดยตระกูลเดียว สามารถสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจากเรื่องเล่าที่กล่าวกันว่า เป็นที่พักประจำของ โคโบริ เอนชู (小堀遠州) ผู้เป็นอาจารย์สอนศาสตร์การชงชาให้กับ อิเอมิสึ (家光) โชกุนรุ่นที่สามของตระกูลโทคุกาวะ

สวนญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์ก็เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของที่นี่ จัดวางไปด้วยหินรูปเต่าและนกกระเรียนที่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตยืนยาว บ่อน้ำที่มีปลาโคยว่ายอยู่ และเนินประดิษฐ์ที่อยู่ระหว่างต้นไม้น้อยใหญ่ที่ดูมีสไตล์ สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล สวนนี้ถูกล้อมรอบโดยอาคารที่พัก 4 หลังที่เรียงรายอยู่ต่อกัน แต่ละหลังมีชื่อตามฤดูกาลทั้งสี่ เช่น อาคารฤดูใบไม้ผลิ (春の館) และอาคารฤดูร้อน (夏の館) ส่วนอาคารจากไม้ฮิโนกิทั้งหลังที่อยู่ห่างออกไปนั้น เป็นห้องพักพิเศษที่ชื่อว่า Enmeikaku (延命閣) ซึ่งสร้างขึ้นโดยช่างไม้ชื่อดังแห่งยุคเมจิ (ปี 1868-1912) และได้รับการระบุให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของญี่ปุ่น เป็นห้องพักที่เหล่าเชื้อพระวงศ์และคนดังของวงการต่างๆ เลือกใช้บริการ

ห้องอาบน้ำรวมของที่นี่มีออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของโฮคุริคุให้คุณได้เพลิดเพลิน มีการใช้หินชาคุดะ (芍谷石) และหินทรายอินเดียในปริมาณมากเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ำออนเซ็น และยังสามารถจองล่วงหน้าเพื่อใช้บริการแบบเหมาได้อีกด้วย

คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับอาหารไคเซกิที่เสิร์ฟภายใต้ความภาคภูมิในฐานะเรียวกังเก่าแก่ที่มองว่า "มื้ออาหารก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทาง" มีแม้กระทั่งแพลนมื้ออาหารสุดหรูหราที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นปูหิมะ ราชาด้านรสชาติของโฮคุริคุ เป็นแพลนที่ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวสายกินต่างหลงใหล

9. Shirasagi no Yu Noto Kaishu (白鷺の湯 能登 海舟)

โรงแรมที่เพิ่งเปิดขึ้นเมื่อปี  2021 ในวาคุระออนเซ็นที่ดูมีระดับและให้ความสำคัญกับประเพณี หลายจุดภายในอาคารเป็นพื้นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิที่นิ่มสบาย สามารถผ่อนคลายไปกับทิวทัศน์ที่กว้างขวางของอ่าวนานาโอะจากระเบียงด้านนอกของล็อบบี้

ห้องพักพื้นฐานของที่นี่เป็นแบบเตียงคู่แนวญี่ปุ่นผสมตะวันตก ครบครันไปด้วยออนเซ็นกลางแจ้งที่ทำจากไม้ฮิโนกิ นอกจากนี้ก็มีห้องแบบอื่นๆ ให้เลือกได้ตามการใช้งาน เช่น ห้องพิเศษหันหน้าเข้าหาทะเลที่มีเพียง 3 ห้องต่อ 1 ชั้น และห้องแบบแยกที่เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน

ห้องอาบน้ำรวมของที่นี่มีอยู่ 2 บ่อ ได้แก่ บ่อแนวญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น และบ่อแนวญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตก ไม่ว่าจะเป็นบ่อไหนก็สามารถชมวิวอ่าวนานาโอะได้อย่างกว้างขวาง ในส่วนของบ่อกลางแจ้งแบบเช่าเหมานั้น ก็มีให้เลือกใน 3 สไตล์ที่ต่างกัน ได้แก่ แบบไม้ฮิโนกิ แบบหิน และแบบเครื่องเคลือบ หากว่างอยู่ก็สามารถใช้บริการได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า ทั้งยังมีจุดพักหลังแช่ตัวที่สามารถผ่อนคลายไปกับวิวทะเล ซึ่งจะมีไอติมคอยให้บริการในช่วงกลางคืน และนมกับสาเกหวานในช่วงเช้า

ในส่วนห้องอาหาร จะเปิดเพลงคลอจากวงดนตรีพื้นเมืองของโนโตะ (บริเวณภาคเหนือของอิชิคาวะในปัจจุบัน) และเสิร์ฟอาหารไคเซกิสีสันสดใสตามฤดูกาลที่เน้นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของคางะ มีเมนูโชยุราเมงที่ชื่อว่า Yonaki Soba (夜鳴きそば) ซึ่งเหมาะมากสำหรับการแก้หิวในช่วงกลางดึก

10. Hatori (葉渡莉)

Hatori ตั้งอยู่ในยามาชิโระออนเซ็น ออนเซ็นชื่อดังชั้นแนวหน้าของโฮคุริคุ เป็นออนเซ็นเรียวกังที่อ่อนโยนต่อทั้งคนและธรรมชาติ มีธีมใบไม้ตามธรรมชาติที่เป็นเหมือนรากฐานแนวคิดเรื่องความสงบของญี่ปุ่น เช่น ความอบอุ่นของต้นไม้ ความอ่อนโยน และความผ่อนคลาย ภายในอาคารมีงานศิลปะประดับอยู่ทุกซอกมุม เป็นเรียวกังที่แค่เพียงเดินเล่นก็น่าสนุกแล้ว

ห้องพักมีบรรยากาศแบบญี่ปุ่น สามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของไม้ธรรมชาติ มีห้องหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่ Suite Room ที่มาพร้อมกับบ่ออาบน้ำกลางแจ้งสุดหรูหรา ห้องญี่ปุ่นแนวเรียวกังดั้งเดิมที่ชวนให้นึกถึงวันวาน ไปจนถึงห้องที่เหมาะสำหรับการเข้าพักคนเดียว

ยามาชิโระออนเซ็นเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนดังมากมาย มีอีกชื่อหนึ่งว่า "น้ำพุของอีกา" (カラスの湯) เนื่องจากเมื่อ 1,300 ปีก่อนมีอีกามารักษาบาดแผลที่นี่ Hatori เป็นที่พักที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับห้องอาบน้ำรวม 2 แบบที่ใช้น้ำจากออนเซ็นดังกล่าว ได้แก่ ห้องที่ทำจากหินและห้องที่ทำจากไม้ฮิโนกิธรรมชาติ นอกเหนือจากบ่อกลางแจ้งแล้ว ก็ยังมีซาวน่าและจากุซซี่ให้ใช้บริการอีกด้วย หลังจากเสร็จจากการแช่ออนเซ็น ก็ไม่ควรพลาดเจลาโต้ที่มีให้รับประทานฟรีได้ที่บริเวณล็อบบี้

มื้อค่ำจะเสิร์ฟที่ห้องอาหารที่จัดแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และไม้ไผ่ เป็นอาหารไคเซกิออริจินัลที่อ่อนโยนต่อร่างกาย สามารถดื่มด่ำไปพร้อมๆ กับสาเกท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของโฮคุริคุ

ส่งท้าย

นอกเหนือจากคานาซาว่าแล้ว จังหวัดอิชิคาวะก็มีย่านที่พักที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กันอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณไหนก็อยู่ห่างจากคานาซาว่าเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง หากเลือกใช้บริการควบคู่ไปกับที่พักในคานาซาว่า ก็จะทำให้ทริปของคุณเป็นที่น่าจดจำมากขึ้นอย่างแน่นอน

มนต์เสน่ห์ชูบุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu japan_af
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร