9 จุดชมวิวที่พลาดไม่ได้ของโทยามะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยตัวคุณเอง !

จังหวัดโทยามะเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สวยงามที่จะทำให้คุณแทบหยุดหายใจ ตั้งแต่ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มในช่วงฤดูร้อน ไปจนถึงกำแพงหิมะขนาดใหญ่แสดงให้เห็นปริมาณหิมะที่ตกลงมาอย่างมหาศาล รวมไปถึงหมู่บ้านที่ได้กลิ่นอายดั้งเดิมของญี่ปุ่น ถึงเวลาแล้วที่จะออกเดินทางสู่ 9 จุดชมวิวของโทยามะ ที่แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่งดงามที่สุดของทัศนียภาพที่ถือเป็นสมบัติของประเทศญี่ปุ่น

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. เขื่อนคุโรเบะ (黒部ダム)

เขื่อนคุโรเบะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรจะต้องไปเยือนให้ได้ ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของจังหวัดโทยามะ
เขื่อนรูปทรงโค้งที่สวยงามและสูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 186 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 200 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังมีหอสังเกตุการณ์ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,508 เมตร จากตรงนั้นคุณสามารถมองเห็นโครงสร้างขนาดมหึมาของเขื่อนและทะเลสาบที่สวยงามได้

นอกเหนือจากนั้นคุณยังสามารถมองเห็นความสวยงามของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ รวมไปถึงยอดเขาทาเทยามะได้อีกด้วย ซึ่งพูดได้เลยว่านี่คือจุดชมวิวที่ผสมผสานธรรมชาติและสิ่งก่อนสร้างได้อย่างลงตัวที่สุด!

จุดดึงดูดที่เป็นไฮไลท์ของเขื่อนคุโรเบะคือความน่าตื่นตาของทางน้ำล้น ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 10 ตันถูกระบายออกจากวาล์วประตูน้ำ 1.5 เมตร ทุกวินาที มีจุดชมวิวมากมายที่จะมองเห็นทางน้ำล้น แต่จุดที่ดีที่สุดคือบริเวณเขื่อนที่มีความยาว 492 เมตร ซึ่งคุณสามารถมองเห็นทางน้ำล้นจากด้านบนโดยตรงและสามารถสัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของสายน้ำได้
ถ้าคุณโชคดีได้ไปเยือนในวันที่อากาศเป็นใจ คุณจะสามารถมองเห็นสายรุ้งได้อีกด้วย และถ้าหากต้องการดูทางน้ำล้นที่ใกล้ขึ้นอีกนิดก็สามารถขับรถไปดูได้ที่หอสังเกตการณ์ใหม่

2. โกคายามะ (五箇山)

โกคายามะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโทยามะ โดยมีหมูบ้านเล็กๆ กว่า 40 หมู่บ้านรายล้อม บ้านหลังต่างๆถูกสร้างในสไตล์กัสโซซุคุริ (合掌造り) ซึ่งเป็นลักษณะหลังคามุงจากที่มีรูปร่างเหมือนการพนมมือภาวนา แต่เดิมถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยเอโดะและเมจิ และยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน โดยที่บ้านบางหลังถูกทำให้เป็นร้านค้า และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ด้วยความที่หมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาที่เงียบสงบทำให้ได้บรรยากาศที่ชวนให้หวนรำลึกถึงอดีต

ซึ่งหมู่บ้านไอโนะคุระ หมูบ้านสุกานุมะ ในโกคายามะ รวมถึงหมู่บ้านชิราคาวะโกะ ในจังหวัดกิฟุนั้น ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1995 และด้วยบรรยากาศแบบดั้งเดิม ทำให้หมู่บ้านในหุบเขาโกคายามะชนะใจผู้คนที่มาเยือนจากทุกมุมโลก

 

หมู่บ้านสุกานุมะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโชกาวะ ส่วนอีกด้านทางฝั่งหมู่บ้านไอโนะคุระนั้นเป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่แยกตัวออกมา ประกอบไปด้วยบ้านสไตล์กัสโซซุคุริดั้งเดิมถึง 20 รูปแบบ ทั้งสองหมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาสูงชัน ดังนั้นเพื่อป้องกันหมู่บ้านจากภูเขาหิมะถล่ม จึงเก็บต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นบีชญี่ปุ่นหรือต้นเกาลัดไว้เพื่อใช้เป็นกำแพงป้องกันหิมะที่ถล่มลงมา หากคุณต้องการเห็นวิวของหมู่บ้าน จะมีจุดชมวิวใกล้เคียงสามจุดที่จะทำให้คุณได้ชื่นชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบ

ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ทิวทัศน์ของหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยความรู้สึกเบิกบานสดใส แต่บ้านแบบกัสโซซุคุรินั้น สร้างมาเพื่อให้ทนทานต่อหิมะ ดังนั้นคุณต้องห้ามพลาดที่จะไปเห็นทิวทัศน์หมู่บ้านที่ถูกหิมะปกคลุมจนขาวโพลนด้วยตาของคุณเอง!

3. ที่ราบสูงมิดางาฮาระ (弥陀ヶ原高原)

ที่ราบสูงมิดางาฮาระ ที่ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง นี่คือที่ราบสูงที่ลาดเอียงทอดตัว 3 กิโลเมตรจากเหนือจรดใต้ และ 9 กิโลเมตรจากตะวันออกถึงตะวันตก ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,600 - 2,000 เมตรตามเส้นทางเจแปนแอลป์ทาเทยามะ คุโรเบะ (立山黒部アルペンルート) ลุ่มน้ำที่นี่ได้ถูกกำหนดให้เป็นแรมซาร์ไซต์ (Ramsar site พื้นที่ลุ่มน้ำที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สำคัญระดับสากลภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์) และถ้าคุณเดินไปตามเดินที่ทำจากไม้ คุณจะได้พบกับแหล่งน้ำขนาดเล็กคล้ายบ่อน้ำมากมาย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "กะคิ โนะ ทะ"(ガキの田) ในช่วงฤดูร้อนสั้นๆ คุณจะได้เห็นพืชซึ่งเจริญเติบโตบนภูเขาสูงอย่างสวยงาม และในฤดูใบไม้ร่วงที่ราบสูงจะถูกประดับไปด้วยสีสันสดใสของใบไม้ที่เปลี่ยนสี

ฤดูร้อนบนที่ราบสูงมิดางาฮาระนั้นเผยให้เห็นถึงขุมทรัพย์ของพืชอัลไพน์ และทัศนียภาพที่เหมือนล่องลอยอยู่ในฝันด้วยดอกไม้สีขาวน่ารักของต้นฝ้ายหางกระต่าย ทำให้พื้นดินดูเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ สายลมที่พัดผ่านที่ราบสูงนั้นแสนสดชื่นและนุ่มนวล นักปีนเขามากมายมาเดินทางมายังที่แห่งนี้เพื่อตามหาทัศนียภาพอันน่าทึ่งนี้ ไม่มีคำใดจะสามารถอธิบายถึงความงดงามในฤดูร้อนที่ซ่อนอยู่ภายภูเขาแห่งนี้ได้ ซึ่งทิวทัศน์อันแสนงดงามนี้จะทำให้คุณได้เข้าใจถึงความสง่างามของธรรมชาติ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. บ่อน้ำมิคุริกะอิเคะ (みくりが池)

พื้นผิวน้ำอันบริสุทธิ์ของทะเลสาบสีฟ้าที่สะท้อนภาพภูเขา 3,000 เมตรของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่สามารถพบเห็นได้ที่ระดับความสูง 2,400 เมตร จะทำให้คุณต้องมนต์เสน่ห์ในทันที ทะเลสาบที่มีบรรยากาศลึกลับแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณมุโรโดะบนเส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเทยามะ คุโรเบะ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยสามารถเดินไปได้จากสถานีมุโรโดะ และเนื่องจากพื้นที่แถบนี้จะถูกหิมะปกคลุมจนมิดในฤดูหนาวดังนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง

Klook.com

5. กำแพงหิมะ ทาเทยามะ มุโรโดะ (立山室堂 雪の大谷)

ถือว่าที่ โทยามะ เปรียบเสมือน "เมืองหิมะ" ของญี่ปุ่น ซึ่งกำแพงหิมะมุโรโดะแห่งนี้เป็นจุดที่สูงที่สุดตามเส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเทยามะ คุโรเบะ ที่ความสูง 2,450 เมตร ซึ่งมีหิมะตกหนักเกิน 20 เมตรในทุกปี ดังนั้นหุบเขาที่มุโรโดะจึงกลายเป็นกองหิมะ และต้องใช้เครื่องกวาดหิมะเพื่อเคลียร์ทางให้รถสามารถวิ่งผ่านหุบเขานี้ได้ ซึ่งที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ยูกิ โนะ โอทานิ (หุบเขาหิมะ) โดยใช้เวลาจัดการเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน และแน่นอนว่ากำแพงหิมะของที่นี่จะทำให้คุณประทับใจเมื่อได้มาเยือนอย่างแน่นอน !

ยูกิ โนะ โอทานิ เป็นถนนยาวประมาณ 500 เมตรที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เปิดให้บริการในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางมิถุนายนช่วงเวลาเดียวกับการเปิดเส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเทยามะ คุโรเบะ และจะปิดในช่วงฤดูที่มีหิมะตกและมีเส้นทาง Panorama Course ที่สามารถเดินเข้าชมได้เฉพาะช่วงที่มีหิมะตกหนาเท่านั้น หากคุณใช้เส้นทางนี้คุณจะสามารถมองเห็นยอดเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะของทาเทยามะ สภาพแวดล้อมของสถานีมุโรโดะที่มุ่งหน้าไปยัง ยูกิ โนะ โอทานิ ยังคงถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะได้เห็นทิวทัศน์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทอดยาวตรงหน้า พร้อมกับยอดเขาทั้งสามของทาเทยาม่าอีกด้วย 

6. หุบเขาคุโรเบะ (黒部峡谷)

รูปร่างตัว V ของหุบเขาคุโรเบะถือเป็นหุบเขาที่ลึกที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยความสูงชันสุดลิบตาแต่ยังสามารถเผยให้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทั้งสี่ฤดูกาลได้ในบางครั้งบางคราว หากคุณต้องการเห็นหุบเขาคุโรเบะด้วยตาของคุณเอง เราแนะนำให้คุณนั่งรถไฟ Kurobe Gorge Railway รถไฟนำเที่ยวมีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า "Trolly train" หรือ "รถราง" เป็นระยะทาง 20.1 กิโลเมตรจาก สถานีอุนาซุกิ ถึง สถานีเคยาคิไดระ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เมื่อรถไฟโผล่พ้นออกจากอุโมงค์ ในจังหวะที่รถไฟข้ามสะพาน ทัศนียภาพที่ชวนดึงดูดสายตาของหุบเขาคุโรเบะจะปรากฎสู่สายตาคุณ หนึ่งในนั้นคือสะพานยามาบิโกะที่ตั้งอยู่ใกล้กับอุนาซากิออนเซ็นซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้โดยรถรางไฟฟ้า หากคุณไปท่องเที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของฤดูใบไม่ร่วงนั้น คุณจะต้องได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามจนแทบหยุดหายใจระหว่างรถไฟข้ามสะพานแน่นอน

ห้องโดยสารบนรถรางไฟฟ้ามีอยู่สองประเภท คือประเภทที่มีหน้าต่างและไม่มีหน้าต่าง ห้องที่ไม่มีหน้าต่างนั้นจะเปิดโล่ง ซึ่งคุณสามารถสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ของหุบเขาไปพร้อมกับชื่นชมทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ในทางฝั่งห้องกระจกนั้นจะเหมาะกับอากาศช่วงฤดูหนาวหรือช่วงฝนตก เมื่อไรก็ตามที่คุณข้ามสะพานคุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาด้านล่าง ทันทีที่คุณก้าวลงจากรถไฟคุณจะตกหลุมรักกับทิวทัศน์ของหุบเขาคุโรเบะแทบในทันที

7. สวนทิวลิปโทนามิ (砺波チューリップ公園)

หนึ่งในความพิเศษของภูมิภาคโทนามิ นั่นคือดอกทิวลิป ทัศนียภาพที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้แสดงให้เห็นว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาเยือนที่ราบโทนามิแล้ว เยี่ยมชมส่วนทิวลิปโทนามิเพื่อเพลิดเพลินไปกับดอกทิวลิปกว่า 650 สายพันธุ์รวมทั้งหมดกว่า 2.5 ล้านดอก พื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยดอกทิวลิปคือทิศนียภาพอันงดงามที่ถูกระบายด้วยสีแดง เหลืองและชมพู จนเต็มบริเวณ ซึ่งนิทรรศการดอกทิวลิปจะถูกจัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี

ในภาษาดอกไม้ ดอกทิวลิปเป็นตัวแทนของความรักและความเมตตา และแต่ละสีจะมีความหมายแตกต่างกันออกไปอย่างเช่นสีชมพูเป็นตัวแทนของความรักที่เบิกบาน เป็นต้น การเรียนรู้ภาษาดอกไม้เป็นอีกสิ่งที่สนุกสนานเช่นกัน  
ซึ่งดอกไม้สีสว่างไสวสามารถทำให้ผู้พบเห็นมีความสุขได้เช่นกัน ด้านข้างสวนจะเป็นแกเลอรี่ทิวลิปสี่ฤดู (Tulip Four Seasons Gallery) ที่ดอกทิวลิปเบ่งบานทั้งปี ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลยว่าจะพลาดการได้ชมทิวลิป นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์การเพาะปลูกทิวลิปได้อีกด้วย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. ชายหาดอามาฮาราชิ (雨晴海岸)

ชายหาดอามาฮาราชิเป็นที่รู้จักจากหนึ่งในบทกวี มังโยชู (万葉集) ที่มีชื่อเสียงที่สุดของ โอโทโมะ โนะ ยาคาโมจิ (大伴家持) ที่รวบรวมความงดงามและบทกวีมากมายเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ สถานที่อันงดงามที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวโทยามะ มีหาดทรายสีขาว ต้นสนเขียวขจีและโขดหิน หากคุณไปในวันที่อากาศเป็นใจ คุณจะสามารถมองเห็นแนวภูเขาทาเทยามะที่ยังมีหิมะปกคลุมได้จากชายหาดนี้ ทิวทัศน์ที่แสนวิเศษถือเป็นความงดงามที่แสนมหัศจรรย์อย่างแท้จริง และการที่สามารถมองเห็นภูเขาสูง 3,000 เมตรจากชายหาดนั้นเป็นสิ่งที่ถือว่าหาได้ยากมากในโลกนี้อีกด้วย

 

บางทีทัศนีย์ภาพที่ดีที่สุดของชายหาด อามาฮาราชิ คือรถไฟที่วิ่งไปตามเส้นทางของ สาย JR ฮิเมะ รถไฟสายนี้วิ่งระหว่างสถานีเอ็ตจู-โคคุบุ (越中国分駅) และ สถานีอามาฮาราชิ (雨晴海岸駅) ด้วยวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่จะสร้างความประทับใจเป็นฉากหลัง อีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนคาดหวังจากวิวทิวทัศน์อันมีชื่อเสียงของชายหาดอามาฮาราชิ คือหินที่เรียกว่าหินโยชิสึเนะ (義経岩) โอโตโกะอิวะ (男岩) หินผู้ชาย และอนนะอิวะ (女岩) หินผู้หญิง ตามเรื่องเล่าในตำนาน หินโยชิสึเนะเป็นหินที่ มินาโตะ โนะ โยชิสึเนะ ซามูไรผู้ยิ่งใหญ่ใช้เป็นเกราะกำบังในการหลบพายุ และเป็นที่มาของชื่อชายหาดแห่งนี้ และ อามาฮาราชิ แปลว่า “ชำระล้างฝน” ซึ่งมัตสึโอะ บะโช  นักกวีไฮกุอันโด่งดัง ยังใช้ภาพทิวทัศน์นี้เป็นฉากในบทกวีเรื่อง “The Narrow Road to The Deep North” หรือ “Oku no Hosomichi” (おくのほそ道) อีกด้วย

9. เซ็นกังเค (千巌渓)

พื้นที่ของโออิวะ (大岩) ในคิมิอิจิจะเป็นพื้นที่หินซะส่วนใหญ่ ซึ่งมีวัดโออิวะยามะ นิซเซคิจิ (大岩山日石寺) ตั้งอยู่ที่นี่  นอกจากนี้คุณจะสามารถหาหุบเขา "เซ็นกังเค" (千巌渓) ที่หมายความว่า "หุบเขาของหินร้อยพัน" ได้ใกล้ๆ นอกจากนี้ที่หุบเขานี้ยังมีอีกชื่อเรียกอีกชื่อว่า "ฮยัคคุทาคิ" (百滝渓) หรือหุบเขาร้อยน้ำตก โดยจะมีหินรูปร่างต่างๆ เรียงรายตามทางน้ำตก น้ำที่ไหลผ่านก้อนหินขนาดต่างๆ ที่ถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำทำให้น้ำสาดกระเซ็นสร้างบรรยากาศวิเศษให้ผู้พบเห็นราวกับต้องมนตร์สะกด เซ็นกังเคเป็นสถานที่มอบความสดชื่นให้แก่ผู้มาเยือนด้วยอากาศที่เย็นสบายแม้ในหน้าร้อน ด้วยแนวคิดของ "ป่าไม้บำบัด" และช่วยผ่อนคลายจิตใจและร่างกายของคุณด้วยทิวทัศน์แสนวิเศษนี้

เพลิดเพลินไปกับความงดงามของธรรมชาติอันแสนวิเศษ

ให้เมืองโทยามะเป็นจุดหมายปลายทางของทริปครั้งต่อไปของคุณ ภาพวิวทิวทัศน์ที่มีสีสันมากมายตั้งแต่ภูเขาและช่องเขาไปจนถึงที่ราบและชายทะเล รวมไปถึงเส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเทยามะ คุโรเบะที่ตระการตากำลังรอคุณอยู่

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทาง เฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

 


บทความนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการแปลและเผยแพร่จาก SPIRA (ในอดีตคือ Relux Magazine)
คุณสามารถจองโรงแรมผ่าน Relux (บริหารจัดการโดย SPIRA) ได้ ที่นี่!!
มนต์เสน่ห์ชูบุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Tsunagu
Tsunagu En
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร