รวม 6 จุดชมซากุระสุดปังใน 6 จังหวัดภูมิภาคโทโฮคุ

บทความนี้จะมาแนะนำจุดชมซากุระ 6 จุดจาก 6 จังหวัดของภูมิภาคโทโฮคุที่คุณไม่ควรพลาด ไปพบกับความสวยงามของธรรมชาติที่จะมาอวดโฉมให้ได้ชื่นชมกันในฤดูใบไม้ผลิ ความสดชื่นที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในสายลม และเพลิดเพลินกับบรรยากาศของฤดูแห่งการเริ่มต้นใหม่ ณ จุดชมซากุระเหล่านี้กันเลย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

โทโฮคุเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด แน่นอนว่าในฤดูใบไม้ผลิที่มีซากุระเป็นตัวชูโรง ที่นี่ก็มีสถานที่ชมซากุระสวยๆ อยู่มากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน วันนี้เราขอเสนอ 6 จุดชมซากุระสวยๆ จากพื้นที่ 6 จังหวัดในโทโฮคุให้ทุกคนได้ดูเป็นตัวอย่างกันว่าฤดูใบไม้ผลิทีนี่นั้นสดใสสวยงามขนาดไหน

1. สวนปราสาทฮิโรซากิ

สวนปราสาทฮิโรซากิตั้งอยู่ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ที่นี่เป็นสถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ เนื่องจากความสวยงามของต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์ที่มีอยู่นับพันต้น เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิทั้งหมดก็จะพร้อมใจกันอวดโฉมด้วยดอกสีชมพูสดใส สวนนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรและมีจุดถ่ายรูปอยู่เยอะมากๆ เรียกได้ว่าเดินถ่ายรูปกันเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดวันแล้ว จุดถ่ายรูปเด่นๆ ก็จะมีปราสาทฮิโรซากิ ซึ่งนอกจากจะเข้าไปด้านในเพื่อชมวิวสวนจากด้านบนปราสาทได้แล้ว ยังสามารถถ่ายรูปวิวปราสาทที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นซากุระและภูเขาอิวากิเป็นฉากหลัง แถมยังมีแท่นสำหรับถ่ายรูปเพื่อให้ได้มุมที่สวยที่สุดอยู่ข้างๆ ปราสาทด้วยค่ะ

อีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด คือ บริเวณคูน้ำที่ล้อมรอบสวนอยู่ ทั้งสองฝั่งจะมีต้นซากุระยืนเรียงรายอยู่ริมน้ำ เมื่อซากุระบานเต็มที่ คุณก็จะได้ชมวิวต้นซากุระเรียงที่เรียงกันเป็นแนวยาว มีกลีบซากุระที่ร่วงลงไปในน้ำทำให้คูน้ำนั้นเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนสวยงามด้วย

นอกจากนี้ เราก็อยากจะขอแนะนำให้คุณใช้เวลาอยู่ที่นี่ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะช่วงที่ซากุระบานจะมีเทศกาลซากุระที่ขายอาหารแผงลอยแบบญี่ปุ่นอยู่มากมาย รวมไปถึงของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริกับเกมสไตล์งานวัดญี่ปุ่นที่จะทำให้เราได้เพลิดเพลินกันตลอดทั้งวัน และในตอนกลางคืน สวนแห่งนี้ก็จะมีการประดับไฟให้กับต้นซากุระในสวน ซึ่งจะทำให้คุณได้ชมความสวยงามของซากุระยามค่ำคืนที่สวยจับตาไม่แพ้ตอนกลางวันเลยค่ะ

2. เขตซามูไรเก่าคาคุโนดาเตะ

คาคุโนดาเตะตั้งอยู่ในเมืองเซมโบคุ จังหวัดอาคิตะ ที่นี่เป็นเขตซามูไรเก่าแก่ที่ยังคงรักษาอาคารและสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเอาไว้ มีต้นกำเนิดมาจากการที่ซามูไรท้องถิ่นในอดีตได้นำเอาสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมหลายๆ อย่างมาจากเกียวโตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน ทำให้ที่นี่ได้ฉายาว่าเป็น “Little Kyoto” หรือเกียวโตน้อย

สิ่งที่ถูกนำมานั้นไม่ได้มีเพียงตึกรามบ้านช่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้นชิดาเระซากุระ (ซากุระพันธุ์ Weeping Cherry Tree) ที่ยังคงผลิดอกสีชมพูสดใสให้เราได้ชมกันอยู่ทุกๆ ปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อผนวกเข้ากับพื้นหลังที่เป็นเมืองแบบญี่ปุ่นโบราณก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมซากุระและจุดถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว

ในเขตเมืองซามูไร เปิดให้เราเข้าไปเยี่ยมชมด้านในอาคารเก่าบางแห่งได้ และยังมีร้านค้าที่ขายงานหัตถกรรมท้องถิ่น ของฝากขึ้นชื่อ และอาหารประจำถิ่นมากมาย นอกจากนี้ ยังมีบริการรถลากพร้อมการบรรยายโดยคนท้องถิ่น ทำให้เราสามารถนั่งชิลล์ๆ ชมวิวสองข้างทาง และถ่ายรูปมุมสวยๆ ได้อีกด้วยค่ะ

3. ซากุระทลายหิน

ชื่ออาจจะฟังดูแปลกอยู่สักหน่อย แต่รับรองว่าหากได้มาเห็นก็จะต้องร้องว้าวทีเดียว เพราะอย่างที่ชื่อบอกว่า เป็นต้นซากุระทลายหินที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี (Ishiwari Sakura) คุณสามารถไปชมได้ในบริเวณหน้าศาลแขวงเมืองโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะ ความพิเศษของมันก็คือ เป็นต้นซากุระขนาดมหึมาที่งอกออกมาจากรอยแยกของหิน! โดยแรกเริ่มนั้นมันเป็นเพียงเมล็ดที่อยู่ในรอยแตกของหินขนาดใหญ่ แต่แล้วกลับสามารถงอกและดันตัวเองออกมาจากรอยแยกนั้นและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีความสูงกว่า 10 เมตรและเส้นรอบวงราว 4.3 เมตรได้อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน

ยิ่งไปกว่านั้น ในอดีตมันยังเคยถูกไฟไหม้ครั้งหนึ่งจนหลายคนคิดว่าคงไม่รอดแล้ว แต่ในฤดูใบไม้ผลิปีถัดมา ซากุระต้นนี้ก็ยังคงผลิดอกให้ได้ชมเหมือนเดิม ทำให้ต้นซากุระทลายหินนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง รวมถึงได้ลงทะเบียนเป็นสมบัติของชาติในปีค.ศ. 1923 อีกด้วยค่ะ ปัจจุบันซากุระต้นนี้ก็ยังคงผลิดอกให้พวกเราได้ตกตะลึงไปกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ หากใครได้มาเมืองโมริโอกะ นอกจากซากุระบริเวณรอบปราสาทโมริโอกะแล้ว เราก็อยากให้แวะมาชมต้นซากุระต้นนี้ด้วยค่ะ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. สวนคาโจ

สวนคาโจเป็นสวนที่อยู่บริเวณเชิงปราสาทยามากาตะ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1592 โดยตระกูลโมกามิซึ่งกุมอำนาจในสมัยนั้น ที่นี่มีรูปปั้นของ Yoshiaki Mogami เจ้าเมืองคนหนึ่งในอดีต ที่นี่มีต้นซากุระถึง 1,500 ต้นอยู่ทั่วสวน สร้างทิวทัศน์ที่สดชื่นสวยงามสมกับเป็นฤดูใบไม้ผลิ จุดที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ วิวของปราสาทคู่กับซากุระที่บานสะพรั่งอยู่รอบๆ  และวิวคูน้ำรอบสวนที่มีต้นซากุระยืนเรียงรายกันเป็นแถว เมื่อถึงเวลาบานก็จะบานพร้อมกันเกิดเป็นภาพที่สวยงามมากๆ ค่ะ

ในเวลากลางคืน ที่นี่ยังมีการประดับไฟไลท์อัพดอกซากุระที่บานสะพรั่งอยู่เต็มสวน กลายเป็นวิวซากุระยามค่ำคืนที่สวยงามจับตา ดอกซากุระสีชมพูอ่อนที่ถูกขับเน้นให้ส่องสว่างด้วยแสงไฟ ตัดกับท้องฟ้ายามราตรีสีดำสนิท เป็นภาพที่ควรมาชมด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ สำหรับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ในสวนคาโจยังมีพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดที่เก็บเอกสารและวัตถุโบราณซึ่งบอกเล่าประวัติศาสตร์ ประเพณี และวัฒนธรรมของเมืองไว้ให้ศึกษาอีกด้วย

Klook.com

5. ฮิโตเมเซมบงซากุระ

ชื่อของที่นี่แปลว่า “ซากุระพันต้นในชั่วพริบตา” ซึ่งเป็นคำที่บรรยายสถานที่แห่งนี้ได้ดีมากๆ เพราะสถานที่แห่งนี้มีต้นซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะมากมายนับไม่ถ้วน เพียงแค่ปรายตามองก็ราวกับสามารถเห็นซากุระนับพันต้นได้ในครั้งเดียว หากใครอยากมาที่นี่ เราขอแนะนำให้ตั้งต้นจากสถานีโอกาวาระ จังหวัดมิยากิ เพียงเดินออกมาราว 3 นาทีก็จะพบกับต้นซากุระที่ยืนเรียงรายสุดลุกหูลูกตาได้ในทันที คุณสามารถเลือกซื้ออาหารจากแผงลอยที่ตั้งขายอยู่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิ แล้วไปนั่งพักผ่อนรับประทานอาหารพร้อมชมซากุระที่บานสะพรั่งอยู่ริมน้ำ เสร็จแล้วก็เดินไปตามทางเดินเลียบแม่น้ำเพื่อชมต้นซากุระที่เรียงรายแถวอยู่ริมฝั่งแม่น้ำได้ด้วย

ที่ปลายทาง คุณจะได้พบกับสวนปราสาทฟุนาโอกะซึ่งก็มีต้นซากุระมากมายอยู่ คุณสามารถเดินทางขึ้นไปยังสวนด้านบนได้ด้วยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ลอดอุโมงค์ซากุระ พร้อมๆ กับชมวิวซากุระริมฝั่งแม่น้ำจากมุมสูงด้านบนไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวที่ทำให้เราได้เห็นภาพต้นซากุระเรียงรายเป็นแถว โอบล้อมภูเขาซาโอที่ยังมีหิมะอยู่บนยอดเป็นฉากหลัง

แล้วก็อย่าเพิ่งรีบกลับนะคะ! เพราะตอนค่ำที่นี่ก็จะมีการประดับไฟรอบสวนและตามต้นซากุระริมฝั่งแม่น้ำด้วย คุณจะได้ชมความสวยงามของซากุระยามค่ำคืนอีกต่อหนึ่ง แถมเวลาเดินทางกลับก็ไม่จำเป็นต้องเดินย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟเดิมด้วย เพราะสามารถเดินไปขึ้นสถานีฟุนาโอกะที่อยู่ใกล้ๆ ได้เลย คนรักซากุระไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ค่ะ

6. ฮานามิยามะ

จุดนี้เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุชิมะ ที่จริงแล้วเป็นที่ดินส่วนบุคคลแต่มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกจังหวัดได้เข้าชมความสวยงามของมันอยู่ทุกๆ ปี ฮานามิยามะมีต้นซากุระนับสิบพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นโซเมอิโยชิโนะ, ยาเอะซากุระ, โทคาอิซากุระ, ชิดาเระซากุระ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน เช่น ดอกบ๊วย, ดอกท้อ, ดอกสึบากิ, ดอกซาซังกะ, ดอกฮาคุโมคุเร็น เป็นต้น ทำให้ภูเขาแห่งนี้ราวกับถูกห่อหุ้มไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้ผลิ การชมดอกไม้ที่นี่อาจจะต้องออกแรงกันสักหน่อยเพราะต้องเดินขึ้นเนินเขา แต่รับรองว่าความสวยงามของดอกซากุระและดอกไม้ชนิดอื่นๆ ที่เราจะได้ชมตลอดทางจะทำให้เราเพลิดเพลินจนลืมความเหนื่อยไปเลยล่ะค่ะ เพราะรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่บนยอดเขาเรียบร้อยแล้ว 

จากยอดเขาเราจะสามารถมองเห็นวิวของดอกไม้นานาพันธุ์บริเวณเชิงเขาและวิวของเมืองฟุกุชิมะรอบๆ ได้ รับรองว่าคุ้มมากๆ ที่เดินขึ้นมา นอกจากนี้ บริเวณเชิงเขายังมีการขายของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดให้ได้ซื้อกลับไปลิ้มลองกันด้วย แถมยังมีร้านขายอาหารแผงลอยมากมายให้ได้เติมพลังกัน ต้องบอกว่าฮานามิยามะเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติที่แท้จริงเลยล่ะค่ะ

ส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับสถานที่ชมซากุระที่เราได้นำเสนอไปในครั้งนี้ อย่างลืมว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ภูมิภาคโทโฮคุยังมีความสวยงามที่เป็นของขวัญจากธรรมชาติให้ชมได้อีกมากมายในฤดูใบไม้ผลิ ลองมาตามหาความสวยงามเหล่านั้นและชื่นชมพวกมันด้วยตาของตัวเองกันให้ได้นะคะ

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์โทโฮคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Wee-chan
Wee-chan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร