เหนือสุดแดนญี่ปุ่น! 10 ที่เที่ยวแนะนำของ ”เมืองวักกะไน” ในฮอกไกโด

1. แหลมโซยะ (Cape Soya)

houroumono/Flickr

แหลมโซยะ (宗谷岬) คือจุดที่อยู่สุดขอบทางทิศเหนือของญี่ปุ่น อนุสาวรีย์หินที่หันหลังให้กับทะเลนี้เป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บริเวณข้างๆ กันมีรูปปั้นทองเหลืองของ Mamiya Rinzo นักสำรวจในยุคเอโดะที่กำลังทำท่าทางราวกับกำลังมองไปที่อนุสาวรีย์ดังกล่าวตั้งไว้ด้วย หากคุณวางแผนที่จะไปสถานที่นี้ ขอแนะนำให้ไปในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าที่แผ่กว้างอยู่ด้านหน้าจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีม่วง ไล่สีกันอย่างสลับซับซ้อน เกิดเป็นภาพทิวทัศน์ที่เหนือคำบรรยาย อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ที่ตั้ง: Soyamisaki, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

2. สวนสาธารณะโซยะฟุเรไอ (Soyafureai Park)

สวนสาธารณะกว้างใหญ่ในเมืองวักกะไนแห่งนี้เปิดให้ทุกคนได้มาเพลิดเพลินไปกับการตั้งแคมป์และย่างบาร์บีคิวตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ส่วนช่วงฤดูหนาวนั้นคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่หาได้เฉพาะในพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักอย่างฮอกไกโดเท่านั้น เช่น เจ็ตสกีหิมะ ล่องแก่งหิมะ และสไลด์เดอร์น้ำแข็งขนาดยักษ์ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสกีง่ายๆ ให้บริการอยู่ด้วย ทำให้เหมาะที่จะพาเด็กไปเที่ยวด้วยกันเป็นครอบครัว

เว็บไซต์: soyafureaikoen.com (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: Koetoi Koetoimura, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

3. ทะเลสาบโอนุมะ (Onuma Lake)

ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะถิ่นอพยพของนกหงส์ขาว ทุกๆ ปีในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม และเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน หงส์ขาวหลายพันตัวจะพากันบินอพยพเข้ามา จำนวนที่มากมายและเสียงร้องที่ดังกึกก้องของพวกมันจะทำให้คุณต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน แม้ว่าหงส์ขาวจะดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่ห้ามนักท่องเที่ยวให้อาหารหงส์เป็นอันขาด เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของหงส์ได้ นอกจากหงส์ขาวแล้วก็ยังมีนกชนิดอื่นๆ บินอพยพมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ด้วย ทำให้ทะเลสาบโอนุมะกลายเป็นสถานที่ที่สามารถชมนกได้ตลอดทั้งปี

เว็บไซต์: w-shinko.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: Onuma, Koetoi Koetoimura, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

4. สวนสาธารณะวักกะไน (Wakkanai Park)

 

นอกจากนี้สวนสาธารณะวักกะไนยังมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมซากุระอีกด้วย คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับซากุระกว่า 800 ต้น ที่จะบานสะพรั่งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งนับว่าเป็นซากุระที่บานช้าที่สุดในญี่ปุ่น ซากุระของที่นี่ไม่ใช่ซากุระ 5 กลีบอย่างที่เห็นได้ทั่วไปทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นยาเอะซากุระ (八重桜) ที่มีกลีบดอกไม้จำนวนมากจับกลุ่มกันเป็นก้อน เป็นซากุระที่ดูโดดเด่นสะดุดตายิ่งนัก

ที่ตั้ง: 1 Chuo, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

5. ชายฝั่งวักกะไนตะวันตก (Wakkanai West Coast)

หากคุณเดินทางในฮอกไกโดโดยรถยนต์ ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปยังชายฝั่งวักกะไนตะวันตก (稚内西海岸) ถนนสายยาวที่แผ่ขนานไปกับทะเลญี่ปุ่นที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการขับรถเล่นในวันอากาศดีๆ ถนนสายนี้เป็นเส้นตรงที่ไม่ค่อยมีรถขับผ่าน ดังนั้นถึงแม้ว่าจะขับรถไม่ค่อยแข็งก็สบายใจได้ บริเวณชายฝั่งมีดอกไม้หายากบานอวดโฉมกันเต็มไปหมด อาทิ ดอกเอโซคันโซและดอกฮานะมาซุ ซึ่งเป็นดอกกุหลาบสายพันธุ์ท้องถิ่นของญี่ปุ่น จากถนนสายนี้คุณยังสามารถชื่นชมภูเขาริชิริที่ได้การขนานนามว่าเป็นภูเขาฟูจิของฮอกไกโดได้อีกด้วย

6. KITAcolor (キタカラ)

tabibird/Flickr

KITAcolor เป็นอาคารสถานีของสถานีวักกะไน สถานีที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น เนื่องจากตัวอาคารมีทางเชื่อมเข้าสู่ตัวสถานีโดยตรง แม้ในวันที่อากาศไม่ดีหรือวันที่อากาศหนาวก็ไม่ต้องกังวล ส่วน 'Wakkanai Select' ที่อยู่ภายในอาคารนั้นเรียงรายไปด้วยสินค้าเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชผักที่ปลูกในฮอกไกโด ขนม หรือผงใส่อ่างอาบน้ำสูตรออนเซ็นวักกะไน ท่านยังสามารถทานอาหารต่างๆ ที่นี่ได้ด้วย เช่น ซุปแกงกะหรี่ แฮมเบอร์เกอร์ และฟิชแอนด์ชิพที่ปรุงด้วยวัตถุดิบในฮอกไกโด

เว็บไซต์: www.kitacolor.com (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 3-6 Chuo, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

7. เส้นทางสายเปลือกหอยสีขาว (The Path of White Seashells)

ในวักกะไนมีถนนที่ถูกเรียกว่า 'ถนนสีขาว' ซึ่งเป็นถนนยาว 2 กิโลเมตรตั้งอยู่ตรงส่วนสุดท้ายของเส้นทางเดินป่า (เทรคกิ้ง) เนินโซยะที่เป็นหนึ่งในคอร์สเดินเป่าโซยะฟุตพาส เป็นถนนที่สวยงามจนเป็นที่พูดถึงในโลกอินเตอร์เน็ต ทว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่าถนนสายนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากขยะ โดยการนำเอาเปลือกของหอยเชลล์ที่ถูกทิ้งมาบดให้ละเอียดแล้วปูลงไปบนถนน นอกจากจะเป็นถนนสำหรับคนเดินแล้ว รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ก็สามารถวิ่งบนถนนนี้ได้เช่นกัน

เว็บไซต์: www.wakkanai-cci.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: Soyamura, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

8. โดมกันคลื่นฝั่งเหนืออ่าววักกะไน (Wakkanai North Port Breakwater Dome)

สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับวิหารกรีกนี้คือเขื่อนกันคลื่นที่ตั้งอยู่ในเมืองวักกะไน มีความสูง 14 เมตร และทอดยาวถึง 427 เมตร นอกจากจะสามารถใช้กันคลื่นได้จริงแล้ว ยังมีความสวยงามในเชิงศิลป์อีกด้วย ในตอนกลางคืนตัวโดมจะส่องแสงระยิบระยับไปด้วยไฟประดับ แล้วถ้าเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ล่ะก็จะมีการจุดเทียนหิมะ ซึ่งถือเป็นบรรยากาศที่น่าหลงใหลยิ่งนัก ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ที่เข้าถึงได้ง่ายโดยเดินจากสถานีวักกะไนมาเพียง 10 นาทีเท่านั้น

ที่ตั้ง: 1-2-2 Kaiun, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

9. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโนชัปปุ (Noshappu Aquarium)

พิพิธภัณฑ์ที่อยู่เหนือสุดแดนญี่ปุ่นแห่งนี้ เน้นการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในฝั่งขั้วโลกเหนือ เป็นสถานที่ที่คุณจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตแปลกๆ น่ารักๆ เช่น ปลาบอลลูนที่ดูเหมือนก้อนโฟมกลมๆ และคลีโอเน่ สิ่งมีชีวิตที่มีฉายาว่า 'นางฟ้าแห่งธารน้ำแข็ง' นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การชมการแสดงของเพนกวินและแมวน้ำ สัมผัสประสบการณ์การให้อาหารแมวน้ำ และเยี่ยมชมตู้ปลาที่สามารถลองสัมผัสหอยเม่นและปลาดาวได้

เว็บไซต์: www.city.wakkanai.hokkaido.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 2-2-17 Noshappu, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

10. ศาลเจ้าโคฮุมง (Kohumon Shrine)

ศาลเจ้าโฮคุมง (北門神社) ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 และถูกย้ายมายังตำแหน่งปัจจุบันเมื่อประมาณครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 แม้ว่าจะมีประวัติศาสตร์ไม่ยาวนานนักเมื่อเทียบกับศาลเจ้าแห่งอื่นๆ แต่ก็เป็นสถาปัตยกรรมอันน่าประทับใจที่ควรมาชมให้ได้สักครั้ง ตัวศาลเจ้าอยู่ในละแวกเดียวกับสวนสาธารณะวักกะไนจึงง่ายที่จะเพิ่มเข้าไปเป็นจุดแวะเที่ยวในระหว่างทริป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำเป็นต้องขึ้นบันไดไปยังศาลเจ้า หากมาเที่ยวในช่วงที่หิมะตกก็ต้องระวังลื่นด้วย

ที่ตั้ง: 1-1-21 Chuo, Wakkanai-shi, Hokkaido (Google Map)

 

จบไปแล้วสำหรับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในวักกะไน เมืองเหนือสุดในญี่ปุ่นที่คุณจะจดจำไม่รู้ลืม 

หากใครเบื่อเมืองหลักของฮอกไกโดที่มีผู้คนพลุกพล่านแล้ว ก็ขอชวนให้ไปเที่ยวที่เมืองแห่งนี้กัน รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครแน่นอน พร้อมแล้วก็จัดกระเป๋าเตรียมไปผจญภัยในเขตหนาว และสัมผัสเอกลักษณ์สุดพิเศษของเมืองวักกะไนกันได้เลย!