5 วิธีที่ดีที่สุดในการใช้เงิน 1,000 เยนสุดท้ายในกระเป๋าคุณอย่างคุ้มค่า!

เมื่อเวลาของการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นใกล้จะถึงเวลาปิดฉากลง หากคุณยังมีเงินญี่ปุ่นเหลืออยู่ในกระเป๋าอยู่บ้าง แทนที่จะนำเงินกลับประเทศเป็นของที่ระลึกและนำไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งในบ้าน ทำไมถึงไม่นำเงินที่เหลือนี้มาเปลี่ยนเป็นของฝากน่ารักๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน ใช้ซื้อของอร่อยให้อิ่มท้อง หรือใช้ซื้อประสบการณ์ความเป็นญี่ปุ่นๆ ดูล่ะ! ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการใช้เงิน 1,000 เยนสุดท้ายของคุณอย่างไรให้คุ้มค่า!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. จับจ่ายใช้สอยในร้านร้อยเยน

Daiso ร้านร้อยเยนชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีสาขามากมายทั้งในและต่างประเทศ เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของผลิตภัณฑ์น่าสนใจในราคาถูก มีตั้งแต่ขนมขบเคี้ยว ตะเกียบหน้าตาน่ารักๆ แม้กระทั่งอุปกรณ์ขนาดพกพาสำหรับกำจัดฝุ่นบนแจ็กเก็ตของคุณ ที่นี่คุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ น่าสนใจได้ในราคาเพียง 100 เยน แต่อาจมียกเว้นกับสินค้าบางตัวที่มีราคามากกว่า 100 เยน ด้วยสินค้าน่ารักๆ มีประโยชน์ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่ถือเป็นสุดยอดสถานที่ในการใช้เวลาซื้อของฝากให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆ ก่อนที่คุณจะกลับประเทศเป็นที่สุด!

2. อิ่มหนำสำราญที่ร้านซูชิสายพาน

หนึ่งในอาหารยอดนิยมของทุกเพศทุกวัยและทุกวาระโอกาสพร้อมทั้งราคาที่แสนจะน่ารัก ซูชิ อาหารขึ้นชื่อที่สุดของประเทศและเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติในด้านความสดใหม่และอร่อย หากคุณต้องการกินซูชิส่งท้ายก่อนกลับบ้านอย่างคุ้มค่าและคุ้มราคา ร้านซูชิสายพานถือเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ร้านซูชิสายพานนั้นทั้งรวดเร็ว สะดวก และที่สำคัญที่สุดราคาไม่แพง Sushiro และ Kura Sushi สองร้านซูชิสายพานเจ้าใหญ่ของญี่ปุ่น ราคา 100 เยน เกือบทุกจาน เสิร์ฟจานละสองคำในปริมาณที่คุ้มราคา ซึ่งคุณจะสามารถเลือกหยิบจานที่คุณอยากรับประทานบนสายพานที่ลำเลียงซูชิมาก็ได้ หรือจะกดสั่งจากจอมอนิเตอร์ที่โต๊ะก็ได้ ที่ Kura Sushi คุณลูกค้าสามารถลุ้นรางวัลเล็กๆ ได้เมื่อคุณกินครบทุกๆ 5 จานอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการใช้เงิน 1,000 เยนอย่างไรให้ทั้งสนุกและอิ่มท้องไปพร้อมๆ กัน

 

3. เสี่ยงโชคกับกาชาปอง

หากคุณเป็นผู้ที่ชอบสะสมของน่ารักๆ และพอมีเศษเหรียญเหลืออยู่ในกระเป๋าละก็ เครื่องกาชาปองเหล่านี้จะทำให้คุณทั้งลุ้นทั้งเพลิดเพลินได้เลยทีเดียว คุณสามารถพบเจอเจ้าตู้กาชาปองนี้ได้เกือบทุกที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามจุดท่องเที่ยวและร้านเกม ตู้กาชาหรือคนญี่ปุ่นมักเรียกว่า "กาชาปอง" เป็นตู้หยอดเหรียญที่มีของน่ารักมากมาย เมื่อหยอดเหรียญไปแล้ว คุณจะสามารถบิดเพื่อสุ่มของข้างในออกมาได้ครั้งละหนึ่งชิ้น โดยแต่ละตู้จะมีธีมที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นฟิกเกอร์ตัวการ์ตูน ฟิกเกอร์สัตว์น่ารักๆ พวงกุญแจ ไฟฉายหรือแม้แต่หมวกน้องแมว

ที่หน้าตู้จะมีบอกรายละเอียดของกาชาปองในตู้ว่ามีอะไรบ้างและหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่คุณจะหมุนออกมาได้จะเป็นอันไหน มีหลายตู้ที่จะใส่สินค้าหายากลงไปในจำนวนที่จำกัด ยิ่งทำให้เป็นที่ดึงดูดใจของผู้สะสมกาชาปองเป็นอย่างมาก และนี่คือเสน่ห์ของกาชาปองที่จะทำให้คุณตื่นเต้นเหมือนการเล่นพนัน แต่เป็นการพนันที่ไม่มีคำว่าเสียเปล่า ตู้กาชาปองส่วนมากราคาอยู่ที่ 100 ถึง 300 เยน ที่จะทำให้คุณได้ของฝากน่ารักๆ กลับบ้านเป็นของฝากให้เพื่อนๆ ได้อีกด้วย

4. ผ่อนคลายร่างกายไปกับการแช่บ่อน้ำร้อน

หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบ่อน้ำร้อนอีกล่ะ และเพื่อให้ได้สัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง คุณลองแวะไปออนเซ็นข้างนอกแทนอ่างอาบน้ำในโรงแรมดูสิ ออนเซ็นโดยส่วนมากมักตั้งอยู่ในที่ๆ คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ซึ่งคุณจะได้ใช้เวลาในการผ่อนคลายร่างกายได้นานเท่าที่คุณต้องการภายใต้ความสงบและเป็นธรรมชาติ ข้อดีอีกอย่างของการแช่ออนเซ็นคือสรรพคุณของน้ำร้อนธรรมชาติเหล่านี้ว่ากันว่าเต็มไปด้วยแร่ธาตุบำรุงผิวมากมาย ที่จะช่วยให้ผิวของคุณนุ่มลื่นสุขภาพดี และยังมีโรงอาบน้ำสาธารณะ (Sento) ที่ตั้งอยู่ในโตเกียวและพื้นที่นครหลวงโดยรอบ ค่าใช้จ่ายไม่แพงเหมาะแก่คนที่ไม่มีเวลามากพอจะออกไปเที่ยวนอกเมือง

ในขณะที่ค่าบริการของสปาชั้นนำอยู่ในราคาที่สูง ออนเซ็นโดยส่วนมากมีค่าเข้าใช้บริการเพียง 500 - 800 เยนเท่านั้น เป็นราคาที่คุ้มค่าน่าลองเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม รอยสักยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างในประเทศญี่ปุ่นเท่าไร ออนเซ็นบางที่ยังคงไม่รับผู้ที่มีรอยสักให้เข้าใช้บริการ ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ที่มีรอยสัก ให้ลองตรวจสอบกับทางออนเซ็นที่จะเข้าใช้บริการก่อน

5. ทดสอบฝีมือของคุณที่เกมเซ็นเตอร์

ในบรรดาวิธีใช้เงิน 1,000 เยนสุดท้ายของคุณก่อนกลับประเทศ คงไม่มีทางไหนที่จะมอบความบันเทิงให้คุณได้เท่ากับการเข้าเกมเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน! ไม่ว่าคุณจะมีความชอบแบบไหน เกมเซ็นเตอร์ที่ญี่ปุ่นมักมีสิ่งที่ดึงดูดความเป็นเด็กภายในตัวคุณออกมาได้เสมอ คุณอยากได้ตุ๊กตาปิกาจูตัวยักษ์ที่หน้าตาแสนน่ารักกลับบ้านสักตัวไหม? เพียงลองเล่นดูสักเกมสองเกมสิ หรืออยากลองประชันความเร็วไหมล่ะ? ที่เกมเซ็นเตอร์มีให้คุณเลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ หรือแม้แต่เกม Mario Kart หรือหากคุณอยากปลดปล่อยพลัง ที่นี่ยังมีเกมอีกมากมายให้คุณได้มาสัมผัส

ทั้งนี้ ยังมีเกมอีกแนวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือเกมดนตรีที่เป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น มีตั้งแต่เกมเต้นที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ไปจนถึงเกมตีกลองที่ชื่อว่า Taiko no Tatsujin ที่มีเพลงฮิตมากมายให้ทุกคนได้เล่นกัน เกมจับจังหวะนี้เป็นวิธีแสนสนุกที่ทำให้คุณสามารถทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของคุณอีกด้วย ดังนั้นเงิน 1,000 เยนสุดท้ายของคุณอาจหมดไปอย่างเร็วโดยที่คุณไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ!

อย่าให้ 1,000 เยนสุดท้ายของคุณต้องสูญเปล่า!

ธนบัตร 1,000 เยน ถือเป็นธนบัตรที่มีค่าน้อยที่สุด แต่จริงๆ แล้วสามารถทำอะไรได้มากมาย ลองใช้มันตามไอเดียที่เสนอมาในบทความนี้ หรือใช้แบบวางแผนให้ดี คุณจะสามารถใช้ซื้อประสบการณ์ที่น่าจดจำในญี่ปุ่นได้ในราคาแค่ 1,000 เยนเท่านั้น! ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ก็ทำให้คุณได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่าแน่นอน! 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

Header Image: soi7studio / Shutterstock

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Matt
Matt Vachon
Matt Vachon <https://www.mattvachon.com/> เป็นช่างภาพจากโตเกียว และนักเขียน ชอบที่จะค้นพบร้านอาหารใหม่ๆ และชอบหลงทางอยู่ในเมืองขณะที่มีกล้องอยู่ในมือ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร