รู้ไว้ใช่ว่า ! เบอร์รองเท้าของญี่ปุ่น และ 8 แหล่งช็อปปิ้งรองเท้าผู้หญิงต้องไปโดน !

anjuli_ayer/Flickr

ถ้าคุณมาญี่ปุ่นเพื่อช็อปปิ้งของแฟชั่น รับรองว่าคุณจะได้พบกับสวรรค์แน่นอนค่ะ เพราะคุณอาจจะอยากซื้อรองเท้าที่ญี่ปุ่นไปตลอดทางเลยก็ได้ ที่ญี่ปุ่นมีรองเท้าออกใหม่ทุกฤดูกาล แต่มีอุปสรรคอยู่แค่อย่างเดียว คุณจะรู้ได้อย่างไรว่ารองเท้ามันจะพอดีกับเท้าคุณ ถ้าซื้อไปผิดก็จะเจ็บปวดมากเลยนะคะ

วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีหารองเท้าที่จะโอบอุ้มเท้าของคุณได้อย่างพอดี แล้วก็มีร้านที่คุณน่าจะอยากไปซื้อรองเท้าอีกมากมาย ขอให้มีความสุขกับการช็อปปิ้งค่ะ !

จะรู้เบอร์ได้อย่างไร

วิธีกำหนดเบอร์ในญี่ปุ่นอาจจะแตกต่างจากวิธีของประเทศคุณแบบสิ้นเชิงเลยค่ะ สำหรับฉัน (คนอเมริกัน) ครั้งแรกที่ซื้อรองเท้าที่นี่ ฉันค่อนข้างจะแปลกใจเลยทีเดียว

แต่แท้จริงแล้วการวัดขนาดมันไม่ได้ยากขนาดนั้น อาจต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยอยู่สักหน่อย และในตอนแรกก็อาจจะหาได้ยากสักหน่อยว่าแบรนด์ไหนและรองเท้าแบบไหนที่ดีกับคุณที่สุด การซื้อสินค้าแฟชั่นในประเทศไหนๆ ก็ตามที่คุณไม่เคยซื้อเสื้อผ้าหรือรองเท้ามาก่อนจะกลายเป็นความท้าทาย แต่คุณก็จะรู้ได้เองค่ะ ! 

สำหรับผู้หญิง เบอร์รองเท้าที่ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในสองแบบนี้ 

1. ตัวเลข (เฉลี่ยจาก 22 หรือเบอร์ 3 ไปถึงประมาณ 27 หรือเบอร์ 8) 
2. ตัวหนังสือ (คล้ายกับไซส์ small, medium, large และ large-large หรือ S/M/L/LL) 

ถ้าคุณอยู่ในร้านที่ใช้ตัวเลข นี่เป็นตารางแบบคร่าวๆ เทียบกับเบอร์รองเท้าของอเมริกัน

เบอร์รองเท้าอเมริกัน	เบอร์รองเท้าญี่ปุ่น
5.5	22
6	22.5
6.5	23
7	23.5
7.5	24
8	24.5
8.5	25

ถ้าเท้าคุณใหญ่กว่าเบอร์ 7 อาจจะหารองเท้าที่พอดีใส่ยากหน่อยนะคะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเลย ฉันเท้าเบอร์ 7.5 และก็หารองเท้าได้ไม่ยากเลย แต่รองเท้าในญี่ปุ่นปกติแล้วจะเล็กกว่ารองเท้าของประเทศทางฝั่งตะวันตกค่ะ 

ถ้าคุณอยู่ในร้านที่ใช้ตัวหนังสือ ก็จะยากขึ้นมาสักหน่อยค่ะ ปกติแล้วไซส์ S จะอยู่ที่ประมาณ 5 หรือ 6 M จะอยู่ที่ประมาณ 6 หรือ 7 และ L จะอยู่ที่ประมาณ 7.5 ส่วน LL เป็นเท่าไหร่ก็ได้ที่ใหญ่กว่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็เคยอยู่ในร้านที่ขนาดไซส์ L แล้วก็ยังยัดเท้าเข้าไปไม่ได้ แต่ LL กลับใส่ได้พอดีเป๊ะ หรือ LL ใหญ่ไป M ก็คับไป แต่ L พอดีเป๊ะค่ะ 

สุดท้ายก็คือ ไม่มีวิธีที่สมบูรณ์แบบในการหารองเท้าในญี่ปุ่นค่ะ และคุณจะเข้าไปในร้านแล้วซื้อรองเท้าออกมาโดยไม่ลองก่อนไม่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องขนาดอย่างเดียวเท่านั้น แต่แน่นอนว่ารองเท้าบูทก็มีความกระชับต่างจากรองเท้าแตะด้วย 

8 ร้านรองเท้าที่ต้องลอง 

1. ORiental TRaffic 

คอนเซ็ปต์ของ ORiental TRaffic คือมีรองเท้าที่เข้าไปกับทุกชุดและ "ฉาก" ในชีวิตของคุณ คุณจึงไม่จำเป็นต้องสวมรองเท้าคู่เดิมทุกวัน ที่ร้านมีรองเท้าส้นเตี้ยแบบไม่มีสายคาด รองเท้าบูททุกแบบ รองเท้าส้นเตี้ยและรองเท้าแตะที่ล้วนแต่มีความเป็นผู้หญิงจ๋า ลำลอง แต่บางครั้งก็มีไอเท็มทรงสปอร์ตด้วยเหมือนกัน ราคานั้นจัดว่าสูงอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 เยน ถ้าเป็นรองเท้าบูทก็จะแพงกว่า แต่ที่ร้านก็ขายดีมากเลยค่ะ  

2. Esperanza 

Esperanza เน้นรองเท้าลำลองและรองเท้าแบบเป็นทางการมากกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นรองเท้าส้นเตี้ยแบบไม่มีสายคาด รองเท้าแตะและรองเท้าบูทแฟชั่น ราคาจัดว่าไม่แรงเลย แต่ก็สามารถพุ่งขึ้นไปถึง 9,000 เยนหรือสูงกว่าได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นรองเท้าบูท ที่บางร้านมีขายรองเท้าที่ราคาลงไปถึง 1,500 เยน ด้วยค่ะ 

3. Diana 

Diana เป็นร้านรองเท้าระดับไฮเอนด์ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 7,000 เยนและสูงทะลุ 10,000 เยนขึ้นไป สไตล์รองเท้าจะออกแนวชิคๆ มากกว่าลำลอง แล้วก็มักจะได้ไปลงนิตยสารสำหรับผู้หญิงที่มีรายได้สูงด้วยค่ะ แถมที่ร้านยังมีขายกระเป๋าถือด้วยนะ

4. Glitter 

Glitter ขายรองเท้าส้นเตี้ยแบบไม่มีสายคาด รองเท้าแตะและรองเท้าบูทสำหรับผู้หญิงอ่อนวัยและรองเท้าใส่สบายสำหรับผู้หญิงสูงวัยค่ะ สไตล์จะมีตั้งแต่แบบลำลองไปจนถึงแบบสุดภาพ แล้วก็มีรองเท้าบูทกันฝนทุกแบบขายด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกสำหรับร้านขายรองเท้าของญี่ปุ่นค่ะ (แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มเป็นเรื่องธรรมดากันไปแล้ว) ราคาจะอยู่ในช่วงกลางๆ ตั้งแต่ 5,000 เยน ขึ้นไป

5. ABC Mart 

ABC Mart เป็นร้านขายรองเท้าแฟรนไชส์สำหรับผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก ซึ่งขายรองเท้าหลากหลายประเภทมากๆ ตั้งแต่แบบลำลองไปจนถึงแบบสุภาพสำหรับใส่ไปทำงานที่ออฟฟิศ แต่ถึงอย่างนั้น ABC Mart ก็เป็นที่รู้จักกันดีเพราะรองเท้ากีฬาค่ะ ที่ร้านขายรองเท้าแบรนด์กีฬาทุกแบบ ตั้งแต่ Nike ไปจนถึง Adidas ไปยัน Converse จนถึง Vans มีครบจบในที่เดียวเลยทีเดียว

6. Asbee

Asbee เกือบจะเหมือน ABC Mart เปี๊ยบเลยเพราะที่ร้านขายรองเท้าสำหรับทั้งครอบครัวและมีรองเท้ากีฬาหลากหลายประเภทให้เลือก ปกติแล้วจะพบได้ที่ห้าง AEON Mall เท่านั้นค่ะ 

7. ห้างสรรพสินค้า

ปกติแล้วห้างสรรพสินค้าจะมีชั้นที่จัดไว้สำหรับรองเท้าอยู่ค่ะ ไม่ว่าคุณจะไปที่ห้างไหนก็ตาม ตั้งแต่ห้างที่สู้ราคาไหว (AEON หรือ Ito Yokado) ไปจนถึงห้างที่หรูกว่า (Tobu หรือ Seibu) ไปจนถึงห้างที่อยู่ในระดับไฮเอนด์มากๆ (Takashimaya หรือ Matsuzakaya) คุณสามารถหารองเท้าที่หลากหลายทั้งในเรื่องของสไตล์และราคาได้ที่ห้างสรรพสินค้าเลยค่ะ 

8. ร้านขายเสื้อผ้า 

แบรนด์แฟชั่นบางแบรนด์ อย่าง INDEX หรือ earth, music & ecology ก็มีรองเท้าขายเช่นเดียวกันค่ะ แต่แบรนด์พวกนี้จะเป็นที่รู้จักเพราะเสื้อผ้ามากกว่า ปกติแล้วจะมีรองเท้าวางโชว์เอาไว้ที่หน้าร้านเลย คุณจะมองเห็นโดยที่ไม่ต้องเดินเข้าไปในร้านนั่นเองค่ะ