5 สถานที่น่าเที่ยวในนิฮงบาชิ (โตเกียว) ย่านที่ความเก่าแก่เวียนมาบรรจบพบความทันสมัย

ในสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) นิฮงบาชิเคยเป็นศูนย์กลางการค้าอันคึกคักของญี่ปุ่น แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่ที่นี่ก็ยังมีร่องรอยของช่วงเวลาในอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ ทั้งอาคารที่ถูกเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทุกอย่างบนถนนนิฮงบาชิล้วนมีค่าน่าดูชม ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 จุดท่องเที่ยวน่าสนใจในนิฮงบาชิที่จะทำให้คุณมองย่านนี้ด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. รูปปั้นกิเลน (Kirin Statue)

สะพานนิฮงบาชิที่เชื่อมระหว่าง 2 ฝั่งของแม่น้ำนิฮงบาชิมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตของผู้คนในยุคเคโจ (ปี 1596 - 1615) ในปัจจุบันสะพานนี้ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายสำคัญในโตเกียว

ตรงกลางสะพานจะมีรูปปั้นกิเลนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนิฮงบาชิตั้งอยู่ ใครที่คุ้นเคยกับนิยายและภาพยนต์ของญี่ปุ่นอาจจะเคยเห็นหรือรู้จักเจ้ารูปปั้นทองสัมฤทธิ์นี้มาบ้างแล้ว และต่อให้เป็นคนที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนก็จะต้องหลงใหลไปกับความสวยงามของรูปปั้นรูป "กิเลน" สัตว์มีปีกในตำนานที่ว่ากันว่าจะนำพาความรุ่งโรจน์และความสุขสงบทางใจมาให้นี้

2. พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์มิตซุย (Mitsui Memorial Museum)

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์มิตซุยจัดแสดงงานศิลปะที่ตระกูลมิตซุยสะสมเอาไว้กว่า 4,000 ชิ้น มิตซุยเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในวงการอุตสาหกรรมและการค้าในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 300 ปีแล้ว จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือ มีงานสะสมที่ถูกจัดให้เป็นสมบัติประจำชาติหรือทรัพย์สินทางวัฒนธรรมเป็นส่วนใหญ่ นอกจากจะมีนิทรรศการหลักแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น นิทรรศการพิเศษที่มีช่วงเวลาการเข้าชมที่จำกัดอยู่เป็นประจำด้วย ความหลากหลายของการจัดแสดงเหล่านี้จะต้องทำให้คุณตื่นตาตื่นใจได้อย่างแน่นอน

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์มิตซุยตั้งอยู่บนชั้น 7 ของอาคารหลักมิตซุย (Mitsui Main Building) ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 1902

ในปี 1998 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้เลือกให้อาคารสไตล์นีโอคลาสสิกแห่งนี้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ นอกจากงานศิลปะที่จัดแสดงอยู่ด้านในแล้ว ตัวอาคารเองก็ยังควรค่าแก่การชมด้วย เมื่อตกกลางคืนก็ยากที่จะละสายตาไปจากภาพอันสวยงามของตัวอาคารที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟแห่งนี้

3. ห้างนิฮงบาชิมิตสึโคชิ สาขาใหญ่ (Nihonbashi Mitsukoshi Main Store)

ห้างนิฮงบาชิมิตสึโคชิ สาขาใหญ่ เปรียบเสมือนสาขาเรือธงของห้างมิตสึโคชิที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ห้างนี้ตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1673 โดยคนขายกิโมโนชื่อ เอชิโกยะ (Echigoya) ในเวลาต่อมา ห้างแห่งนี้ก็กลายเป็นห้างที่มีชื่อเสียงเพราะมีกลวิธีการขายที่นำสมัย ในปี 1904 ร้านมิตสึโคชิได้ประกาศตัวเป็นห้าง (Department Store) อย่างเป็นทางการ นับว่าเป็นจุดกำเนิดของห้างสรรพสินค้าในประเทศญี่ปุ่น เพียงแค่มองตัวอาคารที่ถูกสร้างขึ้นอย่างโอ่อ่าในสไตล์เรเนซองส์ก็สามารถบอกความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ของห้างนี้ได้แล้ว นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกให้ที่นี่เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ในปี 2016

ห้างนิฮงบาชิมิตสึโคชิ สาขาใหญ่ แห่งนี้มีทั้งร้านค้าที่เป็นแบรนด์ในประเทศและร้านค้าชั้นนำจากต่างประเทศ แถมยังมีการแสดงคาบูกิในโรงละครมิตสึโคชิ (Mitsukoshi Theater) ที่อยู่บนชั้น 6 และสถานที่เที่ยวชมที่ไม่เหมือนใคร อย่างศาลเจ้ามิเมกุริ (Mimeguri Shrine) ตั้งอยู่บนดาดฟ้าด้วย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. ศาลเจ้าฟุคุโตคุ (Fukutoku Shrine)

คุณสามารถเดินไปยังศาลเจ้าฟุคุโตคุได้ง่ายๆ โดยเริ่มจาก "สถานีนิฮงบาชิ" ของสายรถไฟใต้ดิน แล้วเดินไปทางศูนย์การค้า COREDO Muromachi 

เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 589 - 867 แม้แต่โชกุนโทคุกาวะ (รัฐบาลทหารญี่ปุ่นในช่วงปี 1600 - 1868 ที่ใช้ระบอบศักดินาในการปกครองประเทศ) ก็ยังเคยมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้

ศาลเจ้าฟุคุโตคุตั้งอยู่ในจุดที่เดินทางได้สะดวก หากคุณไปช็อปปิ้งใกล้ๆ อยู่แล้วก็สามารถแวะไปดูได้ง่ายๆ คุณจะประทับใจในความสวยงาม ความสะอาดและความทันสมัยที่มาพร้อมกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของมันแน่ๆ ยิ่งถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืนแบบนี้ก็ยิ่งเป็นภาพที่ดูสวยสะกดตา

Klook.com

5.ศูนย์การค้าโคเรโดะ มุโรมาจิ (COREDO Muromachi)

โคเรโดะ มุโรมาจิ เป็นศูนย์การค้าเชิงพาณิชย์ที่ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง (เรียกว่า มุโรมาจิ 1, 2 และ 3) ที่นี่ไม่ได้มีเพียงร้านค้าเก่าแก่จากทั่วญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีร้านอาหาร โรงหนัง สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอื่นๆ อีกมากมาย

ในสมัยก่อนย่านนิฮงบาชิเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของประเทศญี่ปุ่น และในปัจจุบันที่นี่ก็ยังคงมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์อยู่อีกมาก เพราะศูนย์การค้าโคเรโดะ มุโรมาจิแห่งนี้มีทั้งร้านขายเครื่องเขิน (งานหัตถกรรมประเภทหนึ่ง มักทำจากโครงไม้หรือโคตรจักสาน) มีด เครื่องเซรามิก ซอสถั่วเหลือง ชาและขนมหวาน เพื่อเป็นการสานต่อวัฒนธรรมและประเพณีเหล่านี้ไว้ นี่คือสิ่งที่ทำให้โคเรโดะ มุโรมาจิแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังมีการจัดงานประดับไฟต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลอีกด้วย หากคุณวางแผนจะไปศูนย์การค้าแห่งนี้แล้วล่ะก็ อย่าลืมเช็กข้อมูลการจัดแสดงในเว็บไซต์หลักก่อนไปด้วยนะ

เที่ยวนิฮงบาชิ ท่องโลกประเพณี ชมแสงสีและความทันสมัย!

นิฮงบาชิเป็นสถานที่ที่นำประเพณีอันเก่าแก่และความทันสมัยของญี่ปุ่นมารวมไว้ด้วยกัน ในบทความนี้ เราได้แนะนำให้คุณรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 แห่งแล้ว ครั้งหน้าที่คุณไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวนิฮงบาชิกันด้วยนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คันโต

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Nana26
Nana26
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร