ทริปสัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่เป็นเหมือนศิลปะเฉพาะตัวของญี่ปุ่น

วันเผยแพร่: Nov 29 2024

Miho Sasaki
Panawat

ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะที่ทอดยาวไปทางเหนือและใต้ ทั้งยังอุดมไปด้วยฤดูกาลทั้งสี่ ส่งผลให้แต่ละพื้นที่มีธรรมชาติที่งดงามและยิ่งใหญ่ให้เพลิดเพลินแตกต่างกัน ภายใน "โกลเด้นรูทแห่งตะวันตก" ก็มีจุดชมทิวทัศน์ที่น่าสนใจอยู่มากมายเช่นกัน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับเนเจอร์สปอตอันยอดเยี่ยมซึ่งเติบโตขึ้นท่ามกลางวัฒนธรรมและภูมิลักษณ์ของญี่ปุ่น（รูปปก / เอื้อเฟื้อภาพโดย : ยาชิมะ เมืองทาคามัตสึ จังหวัดคางาวะ）　

*บทความนี้ได้รับการสนับสนุนโดย GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN

ค้นพบญี่ปุ่นในมุมที่คุณไม่เคยรู้จัก !

เมื่อพูดถึงทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่น หลายคนก็อาจนึกถึงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต ภูเขาไฟฟูจิ และฮอกไกโด แต่จริงๆ แล้วญี่ปุ่นก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ ญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก "GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN" ที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวพากันจับตามอง เป็นบริเวณที่มีสภาพอากาศอบอุ่น สามารถสัมผัสกับประสบการณ์แบบญี่ปุ่นได้อย่างหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเมนูอร่อย นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่เดินทางมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกแล้ว ยังสามารถมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ที่เคยมาญี่ปุ่นได้ด้วย

ดูข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ : https://japan-west-goldenroute.com/

โกเบ เมืองสุดคอมแพคที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศต่างแดน

โกเบเป็นมหานครที่อยู่ทางตะวันตกของโอซาก้า ได้พัฒนาขึ้นมาในฐานะเมืองท่า เป็นหนึ่งในท่าเรือที่ญี่ปุ่นเปิดขึ้นในปี 1869 เพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนกับต่างชาติหลังจากปิดประเทศมากว่า 200 ปี ด้วยเหตุนี้จึงเปรียบเหมือนประตูหน้าที่เปิดรับชาวต่างชาติ กลายเป็นเมืองที่รับวัฒนธรรมต่างชาติไว้มากมาย ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีอาคารทรงตะวันตกจากยุคดังกล่าวหลงเหลืออยู่มากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศต่างแดน นอกจากทะเลแล้วก็ยังล้อมรอบไปด้วยภูเขามากมาย เป็นเมืองสุดคอมแพคที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งธรรมชาติและตัวเมือง

▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Kobe ได้ที่นี่
https://www.feel-kobe.jp/en/

ภูเขา Rokko สัมผัสธรรมชาติโดยไม่ต้องเดินทางออกจากตัวเมือง

ภูเขา Rokko ตั้งอยู่ในย่านตัวเมืองของโกเบ มีเสน่ห์เป็นการที่มีธรรมชาติให้สัมผัสได้ง่ายๆ ในขณะที่อยู่ในตัวเมือง สามารถเดินทางถึงได้โดยเดินเท้ามุ่งหน้าไปยังน้ำตก Nunobiki no Taki ที่เป็นหนึ่งในสามน้ำตกใหญ่แห่งญี่ปุ่น แล้วนั่งรถรางขึ้นไปบนภูเขา บริเวณยอดเขากระจัดกระจายไปด้วยจุดน่าสนใจมากมาย เช่น จุดชมวิวพาโนราม่า สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ สวนสไตล์อังกฤษ คาเฟ่ ร้านอาหาร และฟาร์ม Rokkosan Bokujo ที่สามารถสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด การันตีว่าจะเที่ยวได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ เหมาะมากสำหรับการเยียวยาความเหนื่อยล้าจากชีวิตประจำวัน หรือจะเลือกไปเสียเหงื่อที่คอร์สสิ่งกีดขวางก็ได้ ในฤดูหนาวจะสามารถเล่นสกีได้ด้วย ส่งผลให้น่าแวะไปทั้งสี่ฤดูกาล ช่วงกลางคืนของภูเขา Rokko ก็ห้ามพลาดเช่นกัน จากจุดชมวิวเหนือระดับน้ำทะเล 700 เมตร Mayasan Kikuseidai จะแผ่กว้างไปด้วยวิวพาโนราม่าอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่โกเบไปจนถึงอ่าวโอซาก้า เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสามสุดยอดทิวทัศน์ยามค่ำคืนของญี่ปุ่น และมีชื่อเล่นว่า "วิวค่ำคืนมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์" การันตีว่าจะได้สัมผัสกับช่วงเวลาแสนโรแมนติกอย่างแน่นอน

Nada แหล่งผลิตสาเกอันดับหนึ่งของโลกที่สืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

บริเวณที่ผลิตและวางจำหน่ายสาเกญี่ปุ่นมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ Nadagogo เป็นชื่อเรียกแหล่งผลิตสาเก 5 แห่งในบริเวณนี้ หนึ่งในนั้นก็มีเมืองโกเบรวมอยู่ด้วย สาเกที่ผลิตขึ้นใน 5 แหล่งผลิตนี้เรียกว่า Nada no Sake ซึ่งกล่าวกันว่าได้ทำการผลิตมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 700 ปีก่อน
Nadagogo อุดมไปด้วยน้ำ ข้าว และสายลม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้สำหรับการผลิตสาเก ประกอบกับเป็นที่ตั้งของอ่าวโกเบที่สะดวกต่อการส่งออกทางเรือ สาเกของที่นี่จึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น ปัจจุบันมีโรงสาเกถึง 26 แห่งที่สืบทอดกรรมวิธีผลิตสาเกแบบดั้งเดิมไว้ Nada มีไฮไลท์เป็น Kiku Masamune Shuzo และ Hakutsuru Shuzo ที่สามารถเข้าไปชมโรงเก็บสาเกและพิพิธภัณฑ์ รวมถึงมีสาเกให้ลองชิม เป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ชื่นชอบสาเกญี่ปุ่น กรณีที่ต้องการลิ้มรสสาเกของ Nadagogo ควบคู่ไปกับวัตถุดิบท้องถิ่น ก็ขอแนะนำให้แวะไปที่ Nadagogo Sakedokoro ร้านอาหารที่รีโนเวทมาจากโรงเก็บสาเกของโรงผลิตประวัติศาสตร์กว่า 500 ปี รับรองว่าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สาเกที่ลุ่มลึกอย่างแน่นอน

จังหวัดทตโตริ ดื่มด่ำธรรมชาติอันยิ่งใหญ่จากทะเลญี่ปุ่นทางทิศเหนือและแนวเขาทางทิศใต้

จังหวัดทตโตริล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสิ่งให้เพลิดเพลินมากมาย ทั้งกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ ออนเซ็น และวัตถุดิบอร่อยๆ จากธรรมชาติ ชายฝั่ง Sanin ที่หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นนั้นได้รับการระบุให้เป็นอุทยานธรณีแห่งโลกโดยยูเนสโก เป็นจุดชมวิวชายฝั่งที่สวยงามอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่รู้จักในฐานะบ้านเกิดของผู้แต่ง "GeGeGe no Kitaro" และ "Meitantei Conan" ดึงดูดให้มีแฟนอนิเมะแวะมาเที่ยวชมมากมาย ด้านของอร่อยก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน มีชื่อเสียงโด่งดังมากจากราเมงกระดูกวัวทตโตริ ลูกแพร์ Nijuseki และปู Matsuba

▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือ Tottori ได้ที่นี่
https://www.tottori-tour.jp/th/

เนินทรายทตโตริ ผลงานศิลปะอันยิ่งใหญ่จากสายลมและผืนดิน

เนินทรายทตโตริเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดทตโตริ กินพื้นที่กว้างขวางถึง 131 เฮกตาร์ในบริเวณที่ติดกับทะเลญี่ปุ่น คอยต้อนรับผู้มาเยี่ยมชมด้วยทิวทัศน์อันน่าตื่นตาทันทีที่ผ่านบันไดทางเข้าของ Visitor Center ขึ้นไป
แค่เดินเล่นรับลมทะเลสบายๆ ก็ช่วยให้รู้สึกราวกับหลงเข้าไปในโลกต่างมิติ ทั้งยังมีกิจกรรมที่ใช้ประโยชน์จากทรายให้ลองสัมผัสมากมาย เช่น พาราไกลเดอร์ จักรยานแฟตไบค์ลุยทราย และกระดานแซนด์บอร์ดที่ลื่นลงเนินอย่างรวดเร็ว เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ซึ่งสามารถสัมผัสได้ที่เนินทรายเท่านั้น
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ ทิวทัศน์ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางและความแรงของกระแสลม ช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับการชม Fumon ลวดลายบนผืนทรายที่เป็นเหมือนผลงานศิลปะจากลมและทราย สามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์น่าหลงใหลท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ

เว็บไซต์ทางการของพิพิธภัณฑ์ Suna no Bijutsukan
https://www.sand-museum.jp/en/

Daisen จุดท่องเที่ยวชั้นแนวหน้าที่รองรับผู้คนได้อย่างหลากหลาย

Daisen มีความสูง 1,729 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกคุ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยภูเขาชื่อดังของญี่ปุ่น และติด Best 3 ในการจัดอันดับภูเขายอดเยี่ยมของญี่ปุ่น รูปร่างที่สวยงามของภูเขาลูกนี้ทำให้มันถูกเรียกว่า Hoki Fuji จนเป็นที่มาของวลีว่า "Fujisan แห่งตะวันออก Daisen แห่งตะวันตก" เนื่องจากมีทางเดินขึ้นเขาจัดวางไว้ แม้จะเป็นนักปีนเขามือใหม่ก็สามารถท้าทายได้อย่างสบายๆ มีวิธีเพลิดเพลินที่แตกต่างไปตามฤดูกาล เช่น ตั้งแคมป์ในฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และสกีหรือสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว ทั่วทั้งบริเวณ Daisen ถูกระบุให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ภายในมีวัดและศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์กระจัดกระจายอยู่มากมาย หากไม่ถนัดปีนเขาก็สามารถเดินเที่ยวที่บริเวณตีนเขาได้ รับรองว่าจะได้เยียวยาไปกับพลังงานจากธรรมชาติแน่นอน

เมืองโอคายาม่า แหล่งผลิตผลไม้ชั้นเลิศที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและประวัติศาสตร์

จังหวัดโอคายาม่ามีวันที่ฝนตกไม่เกิน 1 มม. มากเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยการมีวันท้องฟ้าแจ่มใสมากเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่ถูกเรียกว่า "โอคายาม่า ดินแดนแห่งท้องฟ้าแจ่มใส" จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองโอคายาม่า แหล่งผลิตผลไม้ชั้นหรูที่ใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศที่อบอุ่น เช่น องุ่น Muscat และลูกพีช Hakuto ใจกลางเมืองโอคายาม่ามีปราสาทโอคายาม่าและสวน Okayama Korakuen ที่เป็นหนึ่งในสามสวนชื่อดังของญี่ปุ่น ส่วนบริเวณทิศใต้ก็มีทะเลใน Seto ที่อุดมไปด้วยอาหารทะเล มีเสน่ห์เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรม

▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Okayama ได้ที่นี่
https://okayama-kanko.net/sightseeing/

Okayama Korakuen สวนที่เหล่าผู้ครองอำนาจในอดีตจัดแต่งขึ้นอย่างละเอียดลออ

Okayama Korakuen เป็นสวนสไตล์วนรอบบ่อน้ำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสามสวนชื่อดังแห่งญี่ปุ่นเคียงคู่ไปกับ Kairakuen ของมิโตะ (จังหวัดอิบารากิ) และ Kenrokuen ของคานากาว่า (จังหวัดอิชิคาว่า) ภายในพื้นที่กว่า 1 แสน 3 หมื่นตารางเมตรนี้มีทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ให้รับชมโดยมีปราสาทโอคายาม่าและภูเขาน้อยใหญ่เป็นพื้นหลัง รอบบริเวณบ่อน้ำกระจัดกระจายไปด้วยเนินจำลอง ทางน้ำยาว 640 เมตร และอาคารสำหรับดื่มชา สวนนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย ได้รับการแต่งแต้มสีสันจากหญ้าสีเขียวขจีและดอกไม้ตามฤดูกาลอย่างอุเมะและซากุระ นอกจากนี้ก็ยังมีที่อยู่อาศัยของเจ้าครองแคว้น เวทีละครโน และป่าไม้ เหมาะมากสำหรับการเดินเล่นพลางจินตนาการถึงเรื่องราวในอดีต

ศาลเจ้า Kibitsu สมบัติชาติในสไตล์สถาปัตยกรรมที่ไม่มีใครเหมือน

ศาลเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับตำนานโมโมทาโร่ นิทานพื้นบ้านที่บอกเล่าเรื่องราวของโมโมทาโร่ เด็กหนุ่มผู้นำความสงบสุขมาสู่พื้นที่โดยการขับไล่ยักษ์ป่าเถื่อน ศาลเจ้านี้มีเวลาก่อตั้งไม่ชัดเจน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณครึ่งแรกของศตวรรษที่ 5 อาคาร Honden และ Haiden ที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1425 นั้น มีจุดเด่นเป็นหลังคาที่เรียงอยู่ราวกับเชื่อมอาคารทั้งสองเข้าด้วยกัน เป็นสมบัติแห่งชาติในสไตล์สถาปัตยกรรม Kibitsu Tsukuri ที่มีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น ถัดไปจาก Honden ก็มีระเบียงทางเดินสวยๆ ที่ห้ามพลาดเช่นกัน มีลักษณะคล้ายคลื่นที่ทอดไปตามผิวภูเขากว่า 360 เมตร ในช่วงมิถุนายนภายในพื้นที่ศาลเจ้าจะเบ่งบานไปด้วยดอกอาจิไซ เป็นจุดชมอาจิไซชื่อดังที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

เมืองเล็กๆ ในจังหวัดเล็กๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์มากมาย

จังหวัด Kagawa ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมือง Takamatsu นั้นเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น หากเทียบกับฮอกไกโดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว จะสามารถใส่ Kagawa เข้าไปได้ถึง 44 ครั้งเลยทีเดียว เมือง Takamatsu เป็นเมืองสุดคอมแพคที่มีจุดน่าสนใจมากมาย เช่น ศูนย์กลางเมืองที่หันเข้าหาทะเลใน Seto, ทิวทัศน์ชนบทที่ทอดยาวไปตามเทือกเขา Sanuki, และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างร่องรอยปราสาท Takamatsu และสวนสาธารณะ Tamamo เมื่อพูดถึงเมนูเด็ดประจำ Takamatsu ก็ต้องนึกถึง Sanuki Udon เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Takamatsu ได้ที่นี่
https://www.my-kagawa.jp/th

สวนสาธารณะ Ritsurin ผลงานชั้นยอดที่ได้รับการจับตามองระดับโลก

สวนสาธารณะ Ritsurin ได้รับคะแนนสามดาวจากหนังสือนำเที่ยวชื่อดังระดับโลก ส่งผลให้เป็นที่จับตามองจากทั่วโลก และยังถูกระบุให้เป็น Tokubetsu Meisho ทิวทัศน์ที่เป็นเหมือนสมบัติชาติทางด้านสวน สวนนี้มีพื้นที่กว้างขวางมาก แค่โซน Hiraniwa ก็กินพื้นที่ถึง 16.2 เฮกตาร์แล้ว ภายในบริเวณมีบ่อน้ำและเนินจำลองจัดวางไว้ สามารถเดินชมพลางเพลิดเพลินทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จุดวิวสวยที่ขอแนะนำเป็นพิเศษคือ Engetsukyo สะพานโค้งที่ทอดข้ามทะเลสาบ Nanko และ Hiraiho เนินจำลองที่สร้างขึ้นโดยลอกแบบมาจากภูเขาไฟฟูจิและมองเห็นทะเลสาบ Nanko อยู่ด้านล่าง

ดื่มด่ำสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์และภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์

Yashima ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Takamatsu เป็นคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในทะเลใน Seto ได้รับการระบุให้เป็นอุทยานธรรมชาติของญี่ปุ่น มีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินเขาและปีนเขา รวมถึงการชมพืชพรรณและนกป่า เป็นบริเวณที่เหมาะกับการปั่นจักรยานด้วยเช่นกัน สามารถปั่นไปบนถนนที่ลัดเลาะไปตามทะเล ช่วยให้ผ่อนคลายไปกับลมทะเลสบายๆ และวิวเกาะสวยๆ ของทะเลใน Seto นอกจากนี้ก็ยังมีร่องรอยสงครามจากศตวรรษที่ 12 และ Nagasakinohana Kobun สุสานโบราณทรงรูกุญแจที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 5 จึงสามารถดึงดูดความสนใจทางวัฒนธรรมได้ด้วย ส่วนช่วงเย็นและกลางคืนก็มีวิวสวยๆ ให้รับชมได้จากบนภูเขา ซึ่งถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยวิวพระอาทิตย์ตกดินชื่อดัง ร้อยวิวค่ำคืนชื่อดัง และร้อยพระจันทร์ชื่อดังของญี่ปุ่น

สัมผัสพลังงานและทิวทัศน์สวยๆ จากธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของ Yufudake

เมือง Yufu ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางจังหวัดโออิตะ เป็นที่ตั้งของ Yufuin ย่านออนเซ็นที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น สามารถสัมผัสกับพลังงานจากธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ เช่น ภูเขา Yufudake ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง, ช่องเขา Yufugawa ที่น่าตื่นตาด้วยโขดหินขนาด 15 - 60 ซม. และถูกเรียกว่าทิโรลแห่งตะวันออก, และสายธารที่ใสสะอาดของน้ำพุ Oike Yusui

▼ ดูข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดเมือง Yufu ได้ที่นี่ (ภาษาอังกฤษ)
https://yufu-tic.com/

Yufudake ภูเขาที่ได้รับการบูชาในฐานะภูเขาของเทพ

Yufudake ตั้งตระหง่านอยู่บนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่ลุ่มน้ำ Yufuin Bonji เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง Yufu สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,583 เมตร มีจุดเด่นเป็นยอดเขาคู่ที่แบ่งออกเป็นตะวันตกและตะวันออก สวยงามและน่าเกรงขามจนทำให้มีชื่อเล่นว่า Bungo Fuji หากต้องการสัมผัสเสน่ห์ของ Yufudake ให้ลึกซึ้งขึ้น ก็ขอแนะนำให้เข้าร่วม Yufudake Fumoto no Bokuya Taiken Tour (รองรับภาษาอังกฤษ ต้องจองล่วงหน้า) ทัวร์พรีเมี่ยมที่จะพาคุณไปดื่มด่ำธรรมชาติพลางลิ้มรสอาหารอร่อยๆ ของ Yufuin หลังจากลงเขาแล้วก็สามารถแวะเยียวยาร่างกายได้ที่ Yufuin Onsen ที่แผ่กว้างอยู่บริเวณตีนเขา เป็นออนเซ็นชื่อดังที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น

เว็บไซต์ทางการของ Tabi Class ผู้ให้บริการทัวร์พรีเมี่ยม (ภาษาอังกฤษ) : https://enjoy.tabiclass.jp/en/

เดินเล่นสบายๆ ท่ามกลางบ้านเมืองบรรยากาศดี

Yunotsubo Kaido ตั้งอยู่บริเวณตีนเขา Yufudake เป็นถนนยาวประมาณ 800 เมตรที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ เช่น ร้านอาหาร ร้านของฝาก และแกลเลอรี่ ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาเยี่ยมชมด้วยทิวทัศน์บ้านเมืองที่ราวกับนากายะ (บ้านแถวแบบญี่ปุ่น) มีเสน่ห์เป็นการผสมผสานกันระหว่างร้านสไตล์ญี่ปุ่นและร้านแนวโมเดิร์น เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างสบายๆ พลางลิ้มรสของหวานและเมนูขึ้นชื่อของท้องถิ่น และมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบ Kirinko ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวชื่อดังของ Yufuin
ห่างจากถนนสายนี้เล็กน้อยเป็นเส้นทางเลียบแม่น้ำ Oitagawa ที่สามารถพบกับทิวทัศน์ชนบทและบรรยากาศเฉพาะตัวของ Yufuin อีกมากมาย เหมาะสำหรับการเที่ยวชมด้วยรถม้า จักรยานเช่า และรถคนลาก

"GOLDEN ROUTE to WEST JAPAN" สามารถตอบโจทย์ประสบการณ์ทางธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ได้อย่างหลากหลาย ธรรมชาติช่วยมอบความประทับใจแบบพิเศษที่จำเป็นต้องเดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับการช็อปปิ้งหรือเที่ยวในตัวเมือง รับรองว่าจะช่วยให้ทริปญี่ปุ่นของคุณเป็นที่น่าจดจำอย่างแน่นอน

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

เกี่ยวกับนักเขียน

Miho Sasaki: มิโฮะมาจากโยโกฮาม่า และต้องขอบคุณทั้งการทำงานและการเดินทางส่วนตัว เขาจึงได้ไปเยือนทุกจังหวัดของญี่ปุ่น ยกเว้นจังหวัดโทคุชิมะและฟุกุอิ เธอยังได้เดินทางไปยังต่างประเทศ 11 ประเทศ และอียิปต์ ตุรกี และเคนยายังคงอยู่ในรายชื่อสิ่งที่อยากทำ