ชมวิวสวย กินอาหารอร่อย แช่ออนเซ็นที่ "ฮามามัตสึ" ชิซูโอกะ ใกล้โตเกียวและนาโกย่า!

เมื่อพูดถึงจังหวัดชิซูโอกะ หลายคนอาจนึกถึงภูเขาไฟฟูจิหรือโกเทนบะ แต่อีกหนึ่งสถานที่ที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ “เมืองฮามามัตสึ” ที่อยู่ทางตะวันตกของจังหวัด ในครั้งนี้ tsunagu Japan จะพาคุณไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังและเมนูเด็ดของเมืองที่เปี่ยมล้นไปด้วยมนตร์เสน่ห์ ตั้งแต่ทิวทัศน์สี่ฤดูของ “ทะเลสาบฮามานะ”, หนึ่งในสามสุดยอดเนินทรายของญี่ปุ่น “เนินทรายนาคาตะจิมะ”, “Hamamatsu Flower Park” สวยสี่ฤดู, “คันซังจิออนเซ็น” ให้ความอบอุ่นทั้งกายใจ ไปจนถึงอุนากิ (ปลาไหล) ของขึ้นชื่อ, ฮามามัตสึเกี๊ยวซ่า, ขนมที่มีชื่อไม่เหมือนใคร และอื่นๆ อีกมากมาย

*บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Hamamatsu City

เกี่ยวกับเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ

เมืองฮามามัตสึ (浜松市) เป็นเมืองที่เชื่อมตะวันออกและตะวันตกของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน เนื่องจากทางตะวันตกเป็นนาโกย่า ส่วนตะวันออกก็ใกล้กับโตเกียวและเมืองใหญ่ๆ จึงได้เฟื่องฟูในฐานะเมืองปราสาทและที่ตั้งโทไคโด (ทางเชื่อมระหว่างเอโดะ - โตเกียว) มาจนถึงสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868)

ยิ่งไปกว่านั้น โรงงานของบริษัทชื่อดังระดับโลกอย่างซูซูกิ ฮอนด้า และยามาฮ่าก็ได้ก่อตั้งและพัฒนาขึ้นที่นี่ ทั้งยังมีภูมิอากาศสบายๆ ทำให้เป็นทั้งเมืองแห่งอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบฮามานะ (浜名湖) กระเช้าลอยฟ้าคันซังจิ เนินทรายนาคาตะจิมะ หรือพิพิธภัณฑ์ Yama Innovation Road ก็ต่างคงเสน่ห์ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง และดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้มาเข้าชมอย่างไม่ขาดสาย

วิธีเดินทางไปฮามามัตสึ

เมืองฮามามัตสึตั้งอยู่ใกล้กึ่งกลางระหว่างญี่ปุ่นตะวันออกกับญี่ปุ่นตะวันตก ห่างจากสถานีนาโกย่าโดยนั่งชินคันเซ็นประมาณ 30 นาที และจากสถานีโตเกียวประมาณ 90 นาที

การเดินทางในพื้นที่ก็สะดวก เราขอแนะนำ “Entetsu Burari Kippu (遠鉄ぶらりきっぷ)” ซึ่งให้นั่งรถบัสและรถไฟของ Entetsu ได้ไม่อั้นตลอด 1 วัน หรือจะเลือกเช่าจักรยานมาปั่นรอบทะเลสาบฮามานะก็ไม่เลวเช่นกัน

ชินคันเซ็น

・นั่ง JR Tokaido Shinkansen ประมาณ 90 นาทีจากสถานี Tokyo ลงที่สถานี Hamamatsu (8,640 เยนต่อคน)

・นั่ง JR Tokaido Shinkansen ประมาณ 30 นาทีจากสถานี Nagoya ลงที่สถานี Hamamatsu (ราคา 5,240 เยนต่อคน)

รถบัส

・ขึ้นจากสนามบิน Chubu Centrair ประมาณ 135 นาที ไปยังสถานี Hamamatsu (3,200 เยนต่อคน) [e-wing]

 ※ เว็บไซต์ของรถบัสจากสนามบิน e-wing

แนะนำวิธีเดินทางเที่ยวในฮามามัตสึ และตั๋วสุดคุ้ม

รถบัสและรถไฟ

・ตั๋วนั่งฟรี 1 วัน “Entetsu Burari Kippu”

จักรยานเช่า

・Gurutto Hamanako Cycling Yurin (ぐるっと浜名湖サイクリング ゆーりん)

สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และธรรมชาติสี่ฤดูกาล

“เนินทรายนาคาตะจิมะ” ลวดลายของทรายและสายลมที่ธรรมชาติเป็นผู้ถักทอ

เนินทรายนาคาตะจิมะ (中田島砂丘) นับเป็นหนึ่งในสามสุดยอดเนินทรายของญี่ปุ่นเคียงคู่ไปกับฟุคิอาเกะฮามะของคาโกชิม่า และเนินทรายทตโตริ เป็นเนินทรายที่แผ่กว้างจากทิศตะวันออกไปตะวันตกเป็นระยะทางราว 4 กิโลเมตร โดยรอบไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ จึงสามารถชมวิวเส้นขอบฟ้าของมหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างเต็มตา

ทุกครั้งที่ลมทะเลพัดผ่านก็จะเกิดลวดลายบนทรายขึ้น ราวกับงานศิลปะที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติเลยทีเดียว

เนินทรายแห่งนี้ยังได้รับความนิยมในฐานะจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้เมื่อถึงเทศกาลฮามามัตสึมัตสึริ (浜松まつり) ที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 3 - 5 พฤษภาคม ที่เนินทรายนาคาตะจิมะก็จะมีการการแข่งขันเล่นว่าวกันอย่างคีกคัก ว่าวขนาดยักษ์ที่ดูทรงพลังจะล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าฤดูฝนปลอดโปร่ง โดยแต่ละตัวก็จะมีดีไซน์แตกต่างกันออกไป 

ภาพของว่าวจำนวนมากดูน่าตื่นเต้นและเปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตของชาวฮามามัตสึ เป็นกิจกรรมสุดเร่าร้อนที่แม้แต่คนท้องถิ่นก็ตั้งตารอ

กระเช้าข้ามทะเลสาบฮามานะ “คันซังจิโรปเวย์” และ “พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีทะเลสาบฮามานะ” งานสังสรรค์แห่งแสงสีเสียง

สถานที่ชื่อดังประจำฮามามัตสึ ทะเลสาบฮามานะ (浜名湖) เป็นทะเลสาบน้ำกร่อยที่เกิดจากน้ำทะลของมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ประมาณ 65 ล้านตารางเมตร ได้จับมือเป็นทะเลสาบพี่น้องกับทะเลสาบนิจิเกสึตัน (日月潭) ของจังหวัดนันโตในไต้หวันเมื่อปี 2016

ทิวทัศน์ของที่นี่จะต่างกันไปในแต่ละฤดู เราจะเห็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ เห็นสีเขียวชอุ่มในฤดูร้อน และเห็นคาเอเดะ (เมเปิลญี่ปุ่น) ในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากจะมีเรือสำราญให้นั่งชมทะเลสาบแล้ว ยังเป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสาบ คันซังจิโรปเวย์ (かんざんじロープウェイ) อีกด้วย ยิ่งกระเช้ายกสูงขึ้น เราก็จะยิ่งมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างขึ้น

นั่งไปประมาณ 4 นาทีก็จะถึงจุดชมวิวโอคุซะยามะ (大草山展望台) ที่อยู่อีกฟากหนึ่ง ที่นี่เราจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์พาโนราม่าของทะเลสาบที่มีคลื่นน้ำสวยๆ ย่านออนเซ็นคันซังจิ และมหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ไกลออกไปสุดสายตา

เมื่อนั่งคันซังจิโรปเวย์ไปจนสุดทางแล้ว เราก็จะพบกับพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีทะเลสาบฮามานะ (浜名湖オルゴールミュージアム) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาโอคุซะยามะ พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงของล้ำค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นออร์แกน เปียโนอัตโนมัติ หรือกล่องดนตรีโบราณจากศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20

นอกจากจะสามารถฟังการแสดงดนตรีที่โถงหลักได้แล้ว ที่จุดชมวิวบนดาดฟ้าก็ยังติดตั้งแคริลลอน (ระฆังชุด) ไว้ด้วย โดยระฆังนี้จะสั่นทุก 1 ชั่วโมง เกิดเป็นเสียงไพเราะที่ช่วยทำให้ทะเลสาบฮามานะดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก

"สวนสาธารณะริมทะเลเบนเทนจิมะ" และแสงตะวันตกดินสาดส่องโทริอิกลางทะเลสาบ

โทริอิสีแดงสูงถึง 18 เมตร กลางทะเลสาบต้นนี้เป็นสัญลักษณ์ของ สวนสาธารณะริมทะเลเบนเทนจิมะ (弁天島海浜公園) ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของทะเลสาบฮามานะ บริเวณนี้มีน้ำตื้นและคลื่นค่อนข้างสงบ จึงสามารถเดินเก็บหอยได้ในช่วงน้ำลงตอนต้นฤดูใบไม้ผลิ

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูร้อนก็จะเปิดให้เล่นน้ำทะเลได้อีกด้วย และหากพูดถึงฤดูที่วิเศษที่สุดก็คงไม่พ้นฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนเข้าฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายนถึงกลางมกราคม หากท้องฟ้าโปร่ง เราก็จะสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินลอดผ่านกลางโทริอิอย่างพอดิบพอดี

ความสวยงามของโทริอิสีแดงที่ส่องสว่างราวกับเปลวไฟจะทำให้ทุกคนที่เดินอยู่ตามชายฝั่งต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน

"HAMANAKO ENGINE" กลไกเชื่อมต่ออดีตและอนาคต

HAMANAKO ENGINE ตั้งอยู่บนถนนคันซังจิมอนเซนโดริ (舘山寺門前通り) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของย่านคันซังจิ รีโนเวทมาจากร้านขายของฝากเก่าแก่ที่เปิดทำการในยุค 1960 โดยเพิ่มสีสันใหม่ๆ เข้าไปในขณะที่ยังรักษาประวัติศาสตร์เก่าแก่เอาไว้ด้วย

ภายในอาคารมีทั้งคาเฟ่ ร้านค้า และร้านเช่าจักรยานที่ชื่อ Re・renta ร้านนี้มีให้เช่าตั้งแต่จักรยานปกติ จักรยานไฟฟ้า (เสริมแรงปั่น) ไปจนถึงจักรยานเสือหมอบ จะเช่าจักรยานมาปั่นวนรอบทะเลสาบฮามานะและย่านคันซังจิไปอย่างช้าๆ ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจเช่นกัน

เดินจาก HAMANAKO ENGINE ไปประมาณ 1 นาที จะมีสะพานสีแดงสดที่มีชื่อว่า สะพานชิบูกิ (志ぶき橋) พาดอยู่ ณ ริมชายฝั่ง สะพานนี้ปรับปรุงมาจากสะพานเก่าผ่านโครงการพัฒนาท้องถิ่นช่วงปี 2011 และปัจจุบันก็กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของย่านคันซังจิออนเซ็น (舘山寺温泉) ไปแล้ว

สีสันจากท้องฟ้าและทะเลสาบฮามานะสุดโอ่อ่าในเบื้องหลังตัดกันกับสีของสะพานอย่างลงตัว ไม่ว่าใครที่ได้แวะมาชมก็จะจดจำภาพนี้ไปอีกนานอย่างแน่นอน

"นุคุโมริโนะโมริ" จำลองโลกแห่งเทพนิยาย!

นุคุโมริโนะโมริ (ぬくもりの森) หรือ ป่าแห่งไออุ่น เป็นป่าขนาดเล็กที่มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านสินค้าจุกจิก และคาเฟ่นกฮูกต่างๆ กระจายตัวอยู่ เป็นจุดท่องเที่ยวลับที่แฝงตัวอยู่ในย่านที่พักอาศัยของทะเลสาบฮามานะ

เมื่อเดินขึ้นไปตามถนนที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับหมู่บ้านที่ดูราวกับหลุดมาจากยุโรปยุคกลางเลยทีเดียว

นุคุโมริโนะโมริเดิมทีเป็นออฟฟิศเขียนแบบบ้านและสตูดิโอผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่อดีตสถาปนิกญี่ปุ่น ซาซากิ ชิเงโยชิ (Sasaki Shigeyoshi) เป็นผู้ลงมือสร้างในปี 1983 หลังจากวางแผนมาหลายปี

ที่นี่ให้กลิ่นอายของเทพนิยายราวกับอยู่ในโลกของสตูดิโอจิบลิ ร้านค้าน่ารักๆ มากมายตั้งเรียงรายกันอยู่ท่ามกลางแมกไม้และเสียงนกร้อง จำหน่ายสินค้าที่ใช้เองก็ได้ ซื้อไปฝากคนที่บ้านก็ดี มีตั้งแต่เครื่องหนังทำมือ จานน่ารักๆ ไปจนถึงเครื่องหอมอย่างน้ำมันอโรม่าที่ช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว

สัมผัสประวัติศาสตร์ของยามาฮ่าที่ "YAMAHA INNOVATION ROAD"

บริษัทยามาฮ่าเป็นบริษัทผลิตเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานหลักอยู่ในเมืองฮามามัตสึ และบริษัทนี้ก็ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์องค์กร YAMAHA INNOVATION ROAD ขึ้นในปี 2018 โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของบริษัทตั้งแต่เริ่มกิจการ รวมถึงเป้าหมาย และการท้าทายใหม่ๆ ในอนาคต

ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 12 โซน เช่น

・CRAFTSMANSHIP WALK ที่จะแยกส่วนเครื่องดนตรีอย่างละเอียดและแสดงให้เราเห็นถึงการผสมผสานกันอย่างลงตัวของเทคนิคดั้งเดิมและเครื่องจักรในกระบวนการผลิต

・โซนจัดแสดงเครื่องดนตรี (楽器展示エリア) ที่จัดแสดงตั้งแต่เครื่องดนตรีชื่อดังในแต่ละยุคไปจนถึงเครื่องดนตรีในปัจจุบันพร้อมเครื่องให้ทดลองเล่นจริง

・เวทีเสมือนจริง หรือ Virtual Stage (バーチャルステージ) ที่มีการแสดงสดจากเครื่องดนตรีอัตโนมัติและภาพเสมือนจริงให้รับชมกันอย่างเพลิดเพลิน

รวมกันแล้วก็เป็นสถานที่ที่คนรักดนตรีไม่ควรพลาด เราจะได้สัมผัสกับผลงานของยามาฮ่าทั่วโลก และเรียนรู้ทัศนคติของยามาฮ่าต่อการบริการและการผลิตเครื่องดนตรีไปพร้อมๆ กัน

แนะนำจุดชมวิวตามฤดูกาล

"Hamamatsu Flower Park" จุดชมดอกไม้ประจำฮามามัตสึ

Hamamatsu Flower Park (はままつフラワーパーク) หรือ สวนดอกไม้ฮามามัตสึ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบฮามานะ เป็นอาณาจักรดอกไม้หลากสีสันที่มีพืชกว่า 3,000 สายพันธุ์ งอกงามอยู่ในพื้นที่ราว 300,000 ตารางเมตร

ภายในสวนมีทั้งเรือนกระจก น้ำพุ และสวนดอกไม้จำนวนมาก ไม่ว่าจะแวะไปเยี่ยมชมเมื่อไรก็จะได้พบกับดอกไม้สีสันสดใสตามฤดูกาล ทั้งสวนอุเมะ (บ๊วยญี่ปุ่น) ในเดือนกุมภาพันธ์ ซากุระและทิวลิปช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเมษายน หรือชินะฟุจิในช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงโกลเด้นวีค

โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ แนวโซเมโยชิซากุระโนะและยาเอะซากุระจะบานสะพรั่งอย่างสวยงาม จึงเป็นจุดชมดอกไม้ประจำท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมาก

ภายในสวนนั้นค่อนข้างกว้าง ต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงในการเดินให้ทั่ว จึงขอแนะนำให้ใช้บริการรถไฟดอกไม้ ฟลาวเวอร์เทรน (フラワートレイン) ซึ่งใช้เวลาวิ่งรอบสวนประมาณ 15 นาที เราจะได้ฟังคำอธิบายจากคนขับไปพร้อมๆ กับชื่มชมสวนดอกไม้อย่างเต็มอิ่ม

หรือถ้าใครต้องการชมการประดับไฟดอกไม้ก็ขอแนะนำให้เดินทางมาหลังเที่ยงและอยู่ไปจนถึงกลางคืน นอกจากจะได้ชมภาพของดอกไม้ที่ชูช่อแข่งกันในตอนกลางวันแล้ว ยังได้ชมดอกไม้ล่องลอยอยู่ตามแสงไฟในช่วงกลางคืนด้วย

"วัดเรียวทันจิ" วัดพันปีที่แต่งแต้มด้วยใบไม้เปลี่ยนสี

ตำนานได้กล่าวไว้ว่า วัดเรียวทันจิ (龍潭寺) ก่อตั้งขึ้นในยุคนารา (ปี 733) นอกจากจะสืบทอดความเชื่อ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของละแวกทะเลสาบฮามานะมาสู่ปัจจุบันแล้ว ยังเป็นที่พำนักสุดท้ายของอิอิ นาโอโทระ (Ii Naotora) จ้าวครองแคว้นหญิงและหัวหน้าตระกูลอิอิผู้รอดชีวิตจากยุคเซ็นโกคุอีกด้วย

นาโอโทระเป็นตัวละครเอกของซีรีย์โทรทัศน์ช่อง NHK ที่ออกอากาศในปี 2017 จึงเป็นชื่อที่คนค่อนข้างคุ้นเคยด้วยเช่นกัน

ภายในวัดเก็บรักษาทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและสมบัติไว้นับไม่ถ้วน ที่ไม่ควรพลาดก็ได้แก่ ถ้วยชา เคซังเทนโมคุ (峴山天目) ที่กล่าวกันว่าเป็นมรดกของโอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga), ชุดเกราะสีแดงของตระกูลอิอิ, ไม้สลักลายมังกรและทางเดินอุกุอิซุ (ทางเดินที่เดินแล้วมีเสียง) ที่ว่ากันว่าเป็นผลงานของช่างระดับตำนาน ฮิดาริ จินโกโร่ (Hidari Jingoro)

สวนของวัดนี้ได้รับการระบุเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น เป็นผลงานของโคโบริ เอนชู (Kobori Enshu) นักชงชาและสถาปนิกชื่อดังในสมัยเอโดะ ผู้สร้างสวนนิโนะมารุของปราสาทนิโจในเกียวโตนั่นเอง

ในช่วงกลางพฤศจิกายนถึงต้นธันวาคมของทุกปี บริเวณนี้จะกลายเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังของฮามามัตสึ มอสที่ปกคลุมทั่วสวนญี่ปุ่นกับดอกฟุคชา (โคมญี่ปุ่น) ที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงแสดงเอกลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับการนั่งเงียบๆ ที่เอนกาวะ (ทางเดินภายนอกแบบพิเศษของบ้านญี่ปุ่น) และปล่อยตัวสัมผัสกับบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงอันงดงามน่าหลงใหล

"Kashima Harvest" เก็บผลไม้สดใหม่

ในฮามามัตสึนอกจากจะมีดอกไม้และวิวสวยๆ ให้เพลิดเพลินแล้ว ยังมีสวนผลไม้ให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย โดยจะสามารถเด็ดและทานผลไม้กันได้สดๆ ตรงนั้นเลย เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดีทีเดียว 

อย่างที่ Kashima Harvest หรือ คาชิมะฮาร์เวสต์ (かしまハーベスト) แห่งนี้ที่ใช้เวลาเดินจาก Hamamatsu Flower Park ประมาณ 15 นาที ก็จะมีเมลอนและสตรอว์เบอร์รี่ให้เราได้ลองเดินหากัน

ทุกปีในช่วงประมาณต้นมกราคมถึงต้นพฤษภาคม Kashima Harvest จะจัด บุฟเฟ่ต์เก็บสตรอว์เบอร์รี่ (いちご狩りの食べ放題) ขึ้น ภายในสวนมีสตรอว์เบอร์รี่ปลูกอยู่หลากสายพันธุ์ โดยเน้นไปที่ อาคิฮิเมะ (章姫) ซึ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ชื่อดังประจำจังหวัดชิซูโอกะ มีจุดเด่นคือผลที่ดูยาวเรียว หวาน และเปรี้ยวน้อย โดยหากต้องการเข้าร่วมเก็บสตรอว์เบอร์รี่ก็จะต้องจองล่วงหน้าผ่านโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต

นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับสตรอว์เบอร์รี่ไม่อั้นเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว ยังสามารถขอให้สตาฟสอนวิธีดูสตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่แล้วได้ด้วย และสามารถเข้าร่วมกันได้กันตั้งแต่ฤดูหนาวจนถึงฤดูใบไม้ผลิเลยทีเดียว เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ช่วงกลางกรกฎาคมถึงปลายสิงหาคมก็จะเปลี่ยนเป็นกิจกรรมเก็บเมล่อน (メロン狩り) แทน โดยสามารถเลือกเมล่อนได้ 1 ลูก เก็บเกี่ยวเอง และนำกลับบ้านกันได้ตามสบาย และระหว่างทำกิจกรรมยังมีเมล่อนให้ชิมครึ่งลูกอีกด้วย

หากต้องการสนุกกับการตามล่าผลไม้ในฤดูร้อนแล้วล่ะก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าเมล่อนตรงฤดูแสนหวานและชุ่มฉ่ำนี้อีกแล้ว

ลิ้มรสเมนูเด็ดประจำท้องถิ่น

"คันซังจิเอน" ลิ้มรสชาติปลาไหลที่แหล่งกำเนิด

ฮามามัตสึล้อมรอบไปด้วยภูเขา ทะเล และทะเลสาบ จึงมีน้ำคุณภาพดี มีภูมิอากาศอบอุ่น และมีของขึ้นชื่อคือ อุนากิหรือปลาไหลเนื้อแน่นๆ ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดอุตสาหกรรมเพาะพันธุ์ปลาไหลที่มีประวัติศาสตร์กว่าร้อยปีอีกด้วย

บริเวณทะเลสาบฮามานะมีร้านปลาไหลมากมายที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น หนึ่งในนั้นก็คือ ครัวปลาไหลริมทะเลสาบ คันซังจิเอน (うなぎ湖畔食房 舘山寺園) ซึ่งใช้ปลาไหลที่เลี้ยงในทะเลสาบฮามานะเป็นวัตถุดิบหลัก และยังเสิร์ฟปลาไหลตามธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบหายากอีกด้วย แม้แต่ในฮามามามัตสึเองก็มีเสิร์ฟเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น 

ยิ่งไปกว่านั้นตัวอาคารยังตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบ ทำให้ไม่ว่าจะนั่งในอาคารหรือนอกอาคารก็สามารถดื่มด่ำกับกลิ่นหอมของปลาไหลไปพร้อมๆ กับวิวทะเลสาบฮามานะได้อย่างเต็มที่

เมนูปลาไหลของร้านนี้มีอยู่สองแบบ คือ คาบายากิ (蒲焼) และ ชิรายากิ (白焼き) โดยคาบายากิจะทาด้วยซอสกลิ่นหอมรสออกเค็มลงบนปลาไหลและนำไปย่าง ส่วนชิรายากิจะนำไปย่างสดๆ โดยไม่ใช้ซอสหรือเครื่องปรุงรสใดๆ เลย ให้เราได้สัมผัสกับรสอร่อยแบบดั้งเดิมของปลาไหล

ทั้งสองแบบล้วนมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ลองทานกันได้ตามชอบ ส่วนเมนูเองก็มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน แม้จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ต้องกังวล

สำหรับวิธีทานให้อร่อยเราขอแนะนำดังนี้

1. อันดับแรกลองทานแค่ข้าวกับปลาไหลแบบธรรมดาก่อน โดยจะเป็นข้าวขาวโปะด้วยปลาไหลเนื้อแน่นนุ่ม ราดด้วยซอสอีกชั้นหนึ่ง
2. ถัดมาค่อยผสมเผือกบด สาหร่าย และผักเครื่องเคียงลงไป เพื่อเพลิดเพลินกับรสชาติที่แตกต่าง
3. สุดท้ายก็ราดซุปลงบนข้าวเพื่อทำเป็นโอชะสึเคะ (ข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่น)

วิธีรับประทานดังที่กล่าวมานี้เรียกว่า ซันโทริ (三通り) เป็นวิธีที่ทำให้เราสามารถลิ้มรสชาติปลาไหลได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ถ้าลองสั่งเป็นเซ็ตดู ก็จะได้ลองชิมซุปที่ทำจากตับปลาไหลสดใหม่อีกด้วย

"ฮามาทาโร่เกี๊ยวซ่าเซ็นเตอร์" ฮามามัตสึเกี๊ยวซ่า หนึ่งในสามสุดยอดเกี๊ยวซ่าของญี่ปุ่น

ฮามามัตสึเกี๊ยวซ่า (浜松餃子) ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน สามสุดยอดเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น (日本三大餃子) เคียงคู่ไปกับเท็ตสึนาเบะเกี๊ยวซ่าของยาฮาตะ และอุสึโนะมิยะเกี๊ยวซ่า เป็นสุดยอดเมนูที่ต้องลองให้ได้เมื่อมาฮามามัตสึ

ไส้ของฮามามัตสึเกี๊ยวซ่าประกอบไปด้วยเนื้อหมู หัวหอม และกะหล่ำปลีที่ปลูกในฮามามัตสึ ออกมาเป็นเกี๊ยวซ่าที่รวมรสผักหวานๆ กับกลิ่นเนื้อหมูหอมๆ ทานพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเข้มข้น

เกี๊ยวซ่าของที่นี่มีผิวนอกกรุบกรอบทอดโดยวางเรียงกันเป็นวงกลม อีกทั้งยังมีการวางถั่วงอกต้มไว้ด้านบนหลังจากที่ทอดเสร็จเพื่อช่วยซับไม่ให้มันเกินไปอีกด้วย ถือเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดของฮามามัตสึเกี๊ยวซ่าเลยทีเดียว

ฮามาทาโร่เกี๊ยวซ่าเซ็นเตอร์ (浜太郎餃子センター) จะขายเกี๊ยวซ่าที่ผลิตขึ้นในโรงงานของร้านเอง เริ่มจากทำแป้งห่อสูตรพิเศษจากแป้งสาลีที่คัดสรรมาอย่างดี ตามด้วยหมูยี่ห้อดัง ฮามานาโกะโซดาจิ (浜名湖そだち) ผสมด้วยผักที่ปลูกในญี่ปุ่นอย่างกุยช่ายอิบารากิ และกระเทียมอาโอโมริ ออกมาเป็นเกี๊ยวซ่าหนังกรอบเคี้ยวสนุก เมื่อกัดลงไปแล้วก็จะเจอกับผักที่ชุ่มฉ่ำ ทั้งยังไม่มีการใช้สารปรุงแต่งใดๆ จึงสามารถดื่มด่ำรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบกันได้อย่างเต็มที่

ในส่วนของฮาเนะสึกิเกี๊ยวซ่า (เกี๊ยวซ่าแบบไม่ตัดแบ่ง) ที่เป็นเมนูเด่นของร้านนั้น คุณสามารถเลือกสั่งได้ทั้งแบบ อากะเกี๊ยวซ่า (赤餃子) (อากะ แปลว่าสีแดง) ที่ใส่กระเทียม และแบบ ชิโระเกี๊ยวซ่า (白餃子) (ชิโระ แปลว่าสีขาว) ที่ไม่ใส่กระเทียม

ขอแนะนำให้รับประทานแบบเพียวๆ ก่อน จากนั้นค่อยเลือกจิ้มน้ำมันพริก ซอสงา หรือโชยุน้ำส้มสายชูที่ร้านทำขึ้นเอง ก็จะสามารถสัมผัสกับรสชาติได้อย่างหลากหลาย

"ชาอิกะ" ลองพุดดิ้งสูตรเก่าแก่แบบแข็งเล็กน้อย

เมื่อท้องอิ่มแล้วและอยากต่อกันด้วยของหวานที่ไม่หวานมากนัก ให้เดินจากสถานีฮามามัตสึไปย่านที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 นาที เราจะพบว่ามีคาเฟ่ย้อนยุคขวัญใจคนรักของหวานหรือกาแฟ คิซซะ ชาอิกะ (喫茶 茶居家) ซ่อนอยู่ ที่นี่เปิดกิจการมาแล้วกว่า 40 ปี เป็นคาเฟ่ที่แม้แต่คนท้องถิ่นก็ชื่นชอบ มีจุดเด่นเป็นดีไซน์แบบย้อนยุคที่แฝงอยู่ในทุกซอกทุกมุมมตั้งแต่โต๊ะไม้ไปจนถึงเก้าอี้หุ้มหนัง

เมนูดังของร้านนี้มีหลากหลาย ทั้งกาแฟแบบไซฟอน นาโปริทัน (สปาเก็ตตี้ซอสแดง) สูตรดั้งเดิม และของหวานแฮนด์เมด หนึ่งในนั้นก็คือ ชาอิกะพุดดิ้ง (茶居家プリン) พุดดิ้งเก่าแก่จากยุคโชวะที่ออกจะแข็งกว่าพุดดิ้งทั่วไปเล็กน้อย เสิร์ฟในแก้วขาสูง นอกจากจะหน้าตาสวยงามแล้ว ยังมีคาราเมลรสขมอ่อนๆ กับรสสัมผัสที่แข็งนิดๆ เมื่อตักใส่ปากก็ได้กลิ่นหอมของไข่ เป็นของหวานสุดประณีตที่เป็นที่รักของผู้คนมาอย่างยาวนาน

ที่พักแนะนำในละแวกคันซังจิออนเซ็น

น้ำพุร้อนแห่งคันซังจิ (かんざんじの湯) ตั้งอยู่ในละแวกฮามานาโกะคันซังจิ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 60 ปี นับจากเวลาที่ขุดพบ ชื่อของน้ำพุอิงมาจากวัดคันซังจิในนิกายโซโต (曹洞宗舘山寺) บนภูเขาคันซังทางทิศเหนือของย่านออนเซ็น

น้ำออนเซ็นของที่นี่เป็นน้ำเกลือจากเกลือแคลเซียมและโซเดียม มีประสิทธิภาพช่วยด้านความเหนื่อยล้า กระบวนการเผาผลาญ อาการนอนไม่หลับ และอาการปวดเรื้อรังตามกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ หากได้ลงแช่ร่างกายที่อ่อนล้าจากการเดินทางสักหน่อยก็จะได้ผ่อนคลายทั้งกายใจ

ในส่วนนี้ เราจะแนะนำให้รู้จักกับเรียวกังออนเซ็น 2 แห่งที่แนะนำในละแวกคันซังจิออนเซ็นกัน

"Hotel Wellseason Hamanako" สวรรค์แห่งออนเซ็นหลากประเภท

Hotel Wellseason Hamanako (ホテルウェルシーズン浜名湖) ตั้งอยู่ในละแวกคันซังจิออนเซ็นของทะเลสาบฮามานะ เป็นรีสอร์ทออนเซ็นแสนกว้างที่มาพร้อมกับสวนสุดอลังการ

นอกจาก ฮิโตโตกิโนะยุ (ひとと季の湯) ที่เป็นออนเซ็นกลางแจ้งสำหรับผู้เข้าพัก ก็ยังมี ฮานาซากิโนะยุ (華咲の湯) โรงออนเซ็นขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งเปิดให้แช่ออนเซ็นสำหรับผู้ไม่เข้าพักอีกด้วย 

ที่นี่มีทั้งออนเซ็นธรรมชาติ 2 ชนิด โอกงโนะยุ (黄金の湯) และ ชิโรกาเนะโนะยุ (白金の湯) ให้ลองแช่สลับกัน รวมถึงบ่อแช่อื่นๆ อีกถึง 26 บ่อ ทั้งบ่อกลางแจ้งที่โล่งสบาย บ่อหิน และบ่อในร่ม รับรองว่าจะช่วยปัดเป่าความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้อย่างแน่นอน

ห้องพักของที่นี่มีตั้งแต่ห้องตะวันตกแบบโมเดิร์น ไปจนถึงห้องญี่ปุ่นตกแต่งหรูหรา ตัวล็อบบี้เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ตะวันตกกับเสื่อทาทามิ ภายในล็อบบี้มีจุดจำหน่ายของฝากที่ขายทั้งสาเกท้องถิ่น ขนมจังหวัดชิซูโอกะ และน้ำส้มสายพันธุ์ มิคคาบิมิคัง (三ケ日みかん) ที่เป็นของขึ้นชื่อของทะเลสาบฮามานะ

นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นย่านคันซังจิออนเซ็น คันซังจิโรปเวย์ หรือสวนสนุกยอดฮิตของคนในพื้นที่อย่าง ฮามานาโกะ ปารุปารุ (浜名湖パルパル)

"Hoshino Resort Kai Enshu" การผสมผสานที่ลงตัวของสไตล์โมเดิร์นและญี่ปุ่นดั้งเดิม

Kai (界) เป็นเครือออนเซ็นเรียวกังที่ให้บริการโดยบริษัทระดับโลกอย่าง Hoshino Resort (星野リゾート) และ Kai Enshu (界 遠州) แห่งนี้ก็อยู่ในเครือที่ว่าด้วยเช่นกัน

ตัวเรียวกังตั้งอยู่ริมทะเลสาบฮามานะ สามารถชมวิวทะเลสาบได้จากหน้าต่างบานใหญ่ที่มีอยู่ในห้องพักทุกห้อง ภายในห้องมีสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง เช่นโชจิ (ประตูเลื่อนที่ทำจากกระดาษ) หรือผ้าคาดเตียงที่ถักทอขึ้นด้วยงานผ้าพื้นเมืองของฮามามัตสึ เอชูเมนสึมุกิ (遠州綿紬) ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ

ทางด้านออนเซ็นก็ได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่ โดยที่เรียวกังจะมีออนเซ็นที่มีเอกลักษณ์อยู่หลากหลาย ทั้งออนเซ็นกลางแจ้งที่ออกแบบอย่างประณีต และบ่อแช่ในร่มที่ทำขึ้นจากไม้คิโนกิ (สนญี่ปุ่น) ในส่วนออนเซ็นกลางแจ้ง ฮานะโนะยุ (華の湯) ก็จะมีตะกร้าไม้ไผ่ใส่ใบชาออร์แกนิคตากแห้งวางไว้ข้างๆ ส่งกลิ่นชาหอมอบอวล ช่วยเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ

หลังจากที่แช่น้ำเสร็จแล้วเราก็จะได้ผ่อนคลายไปกับชาท้องถิ่นตามฤดูกาลของชิซูโอกะ นอกจากจะมีบริการชั้นยอดที่หาไม่ได้จากที่อื่นแล้ว Kai Enshu ยังได้นำวัฒนธรรมออนเซ็นรักษาโรคที่เฟื่องฟูในญี่ปุ่นยุคโบราณมาดัดแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันอีกด้วย

พลาดไม่ได้! ของฝากแนะนำสุดลิมิเต็ด

"อุนากิพายและอุนากิชอร์ทเบรด" ร้าน Shunkado ขนมชื่อดังประจำฮามามัตสึ

อุนากิพาย (うなぎパイ) เป็นสินค้าตัวยืนของแบรนด์ Shunkado (春華堂) ซึ่งครองอันดับของฝากยอดฮิตตลอดกาลของฮามามัตสึตั้งแต่เริ่มวางขายในปี 1961 แป้งพายหนากว่าเก้าชั้นทำขึ้นด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเนย น้ำตาลเม็ด หรือผงปลาไหล ส่วนนอกทาด้วยซอสสูตรลับเฉพาะ ให้ความกรุบกรอบและส่งกลิ่นหอมหวน ทั้งยังมีแบบที่เพิ่มบรั่นดีและแมคคาเดเมียลงไปด้วย กลายเป็นสินค้าตัวท็อปของอุนากิพายชื่อว่า อุนากิพาย V.S.O.P. (うなぎパイV.S.O.P.)

นอกจากนี้ยังมีขนมสลักลายปลาไหล อุนากิชอร์ทเบรด (うなぎサブレ) ซึ่งมีผงปลาไหลใส่อยู่เช่นกัน ทั้งยังมีเวอร์ชั่นจำกัดเฉพาะฤดูหนาว อุนากิชอร์ทเบรดช็อกโก (うなぎサブレチョコ) ที่ทาชอร์ทเบรดครึ่งล่างด้วยช็อกโกแลตสูตรดั้งเดิม และโรยเกลือจากอ่าวซุรุงะเพื่อเพิ่มรสชาติด้วย เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

"เกนจิพาย เปียโนแบล็ค" สินค้าลิมิเต็ดที่หาซื้อได้เฉพาะในชิซูโอกะ

เกนจิพาย (源氏パイ) เป็นพายรูปหัวใจที่ชาวญี่ปุ่นทุกคนต่างรู้จัก ถือกำเนิดขึ้นในปี 1965 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนมอบของฝรั่งเศสที่ชื่อปามมิเย่ 

ชิซูโอกะมีสินค้าลิมิเต็ดประจำจังหวัดเป็น เกนจิพาย เปียโนแบล็ค (源氏パイ ピアノブラック) ซึ่งเป็นเกนจิพายรสช็อกโกแลตในแพ็กเกจลายคีย์เปียโน วางจำหน่ายในฐานะสินค้าพี่น้องของเกนจิพายปกติ เหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝากเป็นอย่างยิ่ง

"อาเกชิโอะ" ขนมเสริมดวงจากแบรนด์ Marutaya

ชื่อ อาเกชิโอะ (あげ潮) ของขนมนี้มีความหมายเดียวกับคำว่า มิจิชิโอะ (満ち潮) ที่แปลว่าน้ำขึ้น มีความหมายแฝงคือการให้โชคขึ้นสูงราวกับกระแสน้ำ รสชาติอร่อยทานเท่าไรก็ไม่เบื่อ ทำขึ้นโดยใส่วอลนัทลงไปนวดกับแป้งคุกกี้ นำไปผสมกับลูกเกดและกลิ่นส้ม จากนั้นจึงโรยหน้าด้วยคอร์นเฟลกเพื่อเพิ่มรสสัมผัส

อาเกชิโอะไซส์มินิในภาพด้านบนก็เป็นสินค้ายอดนิยมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

"ฉะเทระ" อร่อยสองชั้นด้วยคัสเตลลาและกลิ่นหอมของใบชา

ชิซูโอกะเป็นจังหวัดที่โด่งดังเรื่องชา จึงห้ามพลาดขนมที่ทำจากใบชาอย่าง ฉะเทระ (茶ってら) ของ Hamamatsu Bunmeido (浜松文明堂) เป็นอันขาด 

ฉะเทระเป็นคัสเตลลาที่นวดใบชาชิซูโอกะผสมไปกับเนื้อแป้ง ห่อหุ้มด้วยแป้งที่คล้ายกับโดรายากิอีกชั้นหนึ่ง กลายเป็นขนมที่มีรสสัมผัสที่นุ่มฟู เจือด้วยกลิ่นหอมของใบชาอ่อน ให้เราได้เพลิดเพลินไปพร้อมกันอย่างลงตัว รสชาติไม่หวานเกินไปและจะอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกหากทานคู่กับชา เรียกได้ว่าเป็นสินค้าชั้นเลิศเลยทีเดียว

ฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ เต็มอิ่มไปกับวิวสวยๆ และอาหารอร่อยๆ

"เมืองฮามามัตสึ" ในจังหวัดชิซูโอกะมีทิวทัศน์สวยงามอยู่มากมาย ตั้งแต่ทะเลสาบฮามานะที่จะเปลี่ยนบรรยากาศไปตามฤดูกาล คันซังจิโรปเวย์ เนินทรายนาคาตะจิมะ วัดเรียวทันจิ ไปจนถึงสวนสาธารณะริมทะเลเบนเทนจิมะ

นอกจากวิวเหล่านี้แล้วก็ยังมีที่พักดีๆ อย่างเรียวกังออนเซ็นที่มีบ่อน้ำพุสรรพคุณต่างๆ รวมถึงของฝากและของขึ้นชื่อประจำถิ่นอย่างปลาไหลแสนอร่อย ฮามามัตสึเกี๊ยวซ่า และอุนากิพายด้วย

เราขอยืนยันว่าเสน่ห์อันเปี่ยมล้นของฮามามัตสึจะทำให้การเดินทางของคุณมีสีสัน และน่าจดจำไปเนิ่นนานอย่างแน่นอน

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !



มนต์เสน่ห์ชูบุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan 編輯部
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร