เที่ยวญี่ปุ่นแบบใหม่ พาเที่ยวแนวผจญภัยสุดหรรษาในโอกินาว่า!

จังหวัดโอกินาว่า (沖縄県) ตั้งอยู่สุดขอบทิศตะวันตกของญี่ปุ่น ประกอบขึ้นด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย เช่น เกาะหลักโอกินาว่า เกาะมิยาโกะ และเกาะอิชิกากิ แถบนี้เป็นจุดสัมผัสกิจกรรมทางทะเลยอดนิยมเนื่องจากมีเกาะที่โดดเด่นในเรื่องของชายหาดและวิวใต้ทะเลสวยๆ อยู่เป็นจำนวนมาก

ทั้งบางเกาะยังมีพืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นของภูมิประเทศกึ่งเขตร้อนอยู่อีกด้วย พักหลังนี้กิจกรรมบนบกอย่างการเดินป่าและตะลุยหุบเขาจึงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน มาดูกันเลยดีกว่าว่าเราควรจะทำอะไรในบริเวณไหนของโอกินาว่าดี

เดินตามธารน้ำในส่วนเหนือของโอกินาว่า ดินแดนที่อาจกลายเป็นมรดกโลกในอนาคต

เขตป่าเขาในภาคเหนือของเกาะหลักโอกินาว่ามีชื่อเรียกว่ายันบารุ (山原) เมื่อเทียบกับภาคกลางและภาคใต้ เขตนี้จะมีธรรมชาติอย่างภูเขา ป่า และแม่น้ำหลงเหลือยู่มากกว่า นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อขึ้นเป็นมรดกโลกเนื่องจากมีสายพันธุ์ท้องถิ่นที่มีชื่อยันบารุอยู่มากมาย 

ที่นี่จะมีทัวร์เดินตามลำธารให้คุณได้ชมและสัมผัสความเขียวขจีรวมถึงสิ่งมีชีวิตหายากของยันบารุอย่างใกล้ชิด ลองสวมบูทกันน้ำและออกสำรวจธรรมชาติ มองหาพืชกึ่งเขตร้อนอย่างเฟิร์นยักษ์ สังเกตสิ่งมีชีวิตอย่างกบหรือจิ้งเหลนหายาก ไม่ก็ลงเล่นในแม่น้ำที่ยังไม่ถูกรุกรานโดยมนุษย์

แม้ว่าทัวร์ตามทะเลสวยๆ จะดูน่าสนใจไม่น้อย แต่ทัวร์ภาคพื้นดินแบบนี้ก็สามารถสัมผัสเสน่ห์ของโอกินาว่าได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/7460

ดำน้ำในหมู่เกาะเครามะ สัมผัสระบบนิเวศหลากหลายและน้ำที่ใสหาใดเปรียบ

หมู่เกาะเครามะ (慶良間諸島) ประกอบขึ้นจากเกาะน้อยใหญ่กว่า 20 เกาะ เป็นหนึ่งในทะเลของญี่ปุ่นที่โด่งดังระดับโลก น้ำทะเลมีโทนสีฟ้าอ่อนจึงได้ชื่อเล่นว่าเครามะบลู และเป็นที่ชื่นชอบของนักดำน้ำทั่วโลกด้วยความใสนี้เอง 

นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยระบบนิเวศที่หลากหลาย สามารถพบเห็นปลาเขตร้อนและปะการังหลากหลายสายพันธุ์ได้ในระหว่างดำน้ำ ทั้งยังมีจุดวางไข่ของเต่าทะเลอยู่หลายแห่งจึงมีโอกาสที่จะได้เห็นเต่าเหล่านี้ด้วย ด้วยธรรมชาติอันสวยงามนี้ ทำให้บริเวณนี้ได้รับการระบุเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี 2014

หากใครอยากเพลิดเพลินไปกับทะเลของหมู่เกาะเครามะเราก็ขอแนะนำเป็นกิจกรรมดำน้ำ คุณสามารถเข้าร่วมได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ดื่มด่ำทิวทัศน์ใต้ทะเลอย่างชิวๆ ด้วยการช่วยเหลือจากอุปกรณ์ช่วยหายใจ นอกจากนี้ เนื่องจากมีเรือที่ออกเดินทางจากเมืองนาฮะ ในโซนใต้ของเกาะหลักโอกินาว่า จึงสามารถมาเที่ยวแบบไปกลับวันเดียวได้ด้วย

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/4828

ดำน้ำชมภูมิประเทศน่าตื่นตาและกลุ่มแนวปะการังใหญ่อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น (เกาะมิยาโกะ)

เกาะมิยาโกะ (宮古島) ตั้งอยู่ห่างจากเกาะหลักโอกินาว่าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ผ่านช่องแคบมิยาโกะประมาณ 290 กิโลเมตร มีชายหาดสวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 21 ของสถานที่ที่เหมาะกับกิจกรรมทางทะเลใน "Traveler’s choice 2021 Best of the Best" ของ "TripAdvisor®" เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของอเมริกา

นอกจากหาดแล้วก็ยังมีเสน่ห์เป็นทิวทัศน์ใต้ทะเล คุณสามารถดำน้ำพร้อมถังออกซิเจนและชื่นชมภูมิประเทศทรงโดมและอุโมงค์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะที่เกิดจากการดันตัวของปะการังได้

นอกจากนี้น้ำทะเลยังใสอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากภายในเกาะไม่มีแม่น้ำที่ไหลลงทะเล ส่วนน่านน้ำฝั่งเหนือของเกาะนี้มีชื่อเรียกว่ายาบิจิ (八重干瀬) มีแนวปะการังขนาดใหญ่ระดับโลกทอดตัวยาวราว 1 ใน 10 ของพื้นที่ทั้งหมดของเกาะมิยาโกะ เป็นบริเวณที่ทัวร์ดำน้ำตื้นได้รับความนิยมอย่างมาก

ดำน้ำลึกชมใต้ทะเล

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/1945

ดำน้ำตื้นชมยาบิจิ

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/35054

นั่งเรือท้องถิ่นของโอกินาว่า สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนยุคโบราณ (เกาะอิชิกากิ)

เกาะอิชิกากิ (石垣島) เป็นเกาะรอบนอกที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองนาฮะของเกาะหลักโอกินาว่าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 400 กิโลเมตร มีนักท่องเที่ยวน้อยเนื่องจากอยู่ไกลจากตัวเมือง ประกอบกับมีธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรุกรานหลงเหลืออยู่ จึงเหมาะมากสำหรับใครที่อยากท่องเที่ยวแบบสบายๆ

ที่เกาะแห่งนี้คุณจะได้ลองขึ้นเรือไม้หาปลา เรียกว่าซาบานิ (サバニ) พาหนะที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตของคนในยุคโบราณ หากได้ลองบังคับเรือโดยใช้ไม้พายแบบโบราณหรือเอคุ (エーク) ไปบนท้องทะเลที่ปราศจากสิ่งก่อสร้างฝีมือมนุษย์ คุณจะรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลาไปยังโอกินาว่ายุคโบราณอย่างแน่นอน

ในบางครั้งไกด์ของทัวร์นี้จะเป็นนักต่อเรือซาบานิซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่คนในเกาะอิชิกากิ เป็นโอกาสดีที่จะได้รู้เรื่องราวโดยละเอียดของเทคนิคการต่อเรือและประวัติศาสตร์ของซาบานิ ซาบานิที่ทำขึ้นโดยไม่ใช้เหล็กแม้แต่ชิ้นเดียวนี้เป็นงานฝีมือโบราณที่โดดเด่นของโอกินาว่า แต่โอกาสในการได้สัมผัสและลองใช้งานจริงๆ ก็มีน้อย จึงคุ้มค่ามากที่จะเดินทางมาสัมผัสที่เกาะอิชิกากิดูสักครั้ง

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/15396

ดำน้ำตื้นชมปะการังสีฟ้า ปะการังหายากติดอันดับโลก (เกาะอิชิกากิ)

ชายฝั่งชิราโฮะ (白保海岸) ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของเกาะอิชิกากิ เป็นที่ยอมรับจากวิวใต้ทะเลที่หลากหลาย และถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นอุทยานแห่งชาติอิริโอโมเตะอิชิกากิ (西表石垣島国立公園) มีจุดเด่นเป็นกลุ่มปะการังสีฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกเหนือ โดยกินพื้นที่ถึง 6 สนามฟุตบอล

นอกจากปะการังสีฟ้าแล้วยังมีปะการังอื่นๆ อยู่อีกกว่า 70 สายพันธุ์ เช่น ปะการังช่องเล็กแบบแผ่น ปะการังโขด และปะการังเขากวาง จำนวนและสายพันธุ์อันหากหลายก็เป็นจุดขายของทิวทัศน์ใต้ทะเลในบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน

โดยปะการังที่กล่าวมาทั้งหมดส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับน้ำลึกเพียง 5 เมตร เหมาะสำหรับการดำน้ำชมแบบใส่สน็อกเกิ้ล

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/18812

เดินเขา ล่องเรือไปตามป่าชายเลนทรงคุณค่าและน้ำตกน่าตื่นตา (เกาะอิริโอโมเตะ)

เกาะอิริโอโมเตะ (西表島) เป็นเกาะที่ประกอบด้วยภูเขาเป็นส่วนใหญ่ มีที่ราบน้อย กว่า 90% ของเกาะปกคลุมด้วยป่าไม้ไม่ผลัดกึ่งเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เนื่องจากมีแม่น้ำอยู่หลายสาย บริเวณรอบนอกของเกาะจึงมีน้ำตกสูงชันอยู่เป็นจำนวนมาก จึงให้มีกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น พายเรือคายัคตามแม่น้ำและเดินเขาเพื่อตามหาน้ำตก 

ที่เห็นจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษก็คือทัวร์เรือคายัคล่องไปตามป่าชายเลนในเขตน้ำกร่อย และทัวร์เดินเขามุ่งไปยังน้ำตกพินาอิซาระ (ピナイサーラ) ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกชื่อดังของเกาะอิริโอโมเตะ

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/48

ชมแสงไฟของหิ่งห้อยยาเอยามะ หิ่งห้อยขนาดเล็กสุดของญี่ปุ่น (เกาะอิริโอโมเตะ)

ปัจจุบันเกาะอิริโอโมเตะอยู่ในระหว่างพิจารณาเพื่อรับเลือกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ด้วยเหตุที่ว่ามีระบบนิเวศให้รับชมอยู่อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ หรือระบบนิเวศของสายพันธุ์เฉพาะถิ่น ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษก็คือทัวร์ชมหิ่งห้อยยาเอยามะ (ヤエヤマホタル) หิ่งห้อยขนาดเล็กที่สุดของญี่ปุ่นที่หาชมได้เฉพาะในเกาะอิริโอโมเตะและเกาะอิชิกากิเท่านั้น

ในช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคมที่เป็นฤดูหาคู่ หิ่งห้อยตัวผู้จะเปล่งแสงออกมาจากร่างกายเพื่อส่งเป็นสัญญาณรักให้กับตัวเมีย หากเดินเล่นในป่าตอนพระอาทิตย์เพิ่งตกและยังมีแสงอ่อนๆ หลงเหลืออยู่ คุณก็จะได้เห็นแสงสีทองจำนวนมากส่องประกายระยิบระยับราวกับไฟคริสต์มาส เป็นการแสดงของธรรมชาติที่มีให้ชมเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงหลังพระอาทิตย์ตกเท่านั้น

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/31804

ผจญภัยในถ้ำที่เกิดจากการดันตัวของปะการัง สัมผัสเอกลักษณ์ของเกาะ (เกาะอิริโอโมเตะ)

ธรรมชาติของเกาะอิริโอโมเตะไม่ถูกรบกวนโดยมนุษย์มากนัก ภายในเกาะมีถ้ำหินปูนอยู่หลายแห่งจากชั้นหินปูนริวกิวบนแนวปะการังที่ดันตัวขึ้นมา และคึกคักไปด้วยทัวร์สำรวจถ้ำเหล่านี้

ทัวร์ดังกล่าวจะพาคุณไปสนุกกับการผจญภัยต่างๆ เช่น ลอดเข้าถ้ำ เดินตามแม่น้ำใต้บาดาล หรือคลานผ่านช่องแคบ หินปูนสวยๆ ที่ใช้เวลาแสนยาวนานในการก่อตัวขึ้นเช่นนี้ ควรจะไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง!

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/22188

ล่องเรือคายัคยามเช้าชมซาการิบานะ ดอกไม้หายากที่บานเพียงคืนเดียว (เกาะอิริโอโมเตะ)

เกาะอิริโอโมเตะยังโด่งดังในฐานะแหล่งแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติของซาการิบานะ (サガリバナ) ดอกไม้ลวงตาที่จะบานอยู่เพียงคืนเดียวเท่านั้น หากเข้าร่วมทัวร์เรือคายัคยามเช้าที่มีเฉพาะฤดูร้อน คุณก็จะได้เห็นดอกไม้หายากนี้ตั้งแต่ตอนกำลังบานอยู่ไปจนกระทั่งร่วงโรย

ซาการิบานะจะบานพร้อมกันในตอนกลางคืนและร่วงโรยในตอนเช้า เมื่อลอยอยู่เต็มแม่น้ำก็จะเกิดเป็นทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ ทั่วบริเวณจะปกคลุมไปด้วยซาการิบานะสีชมพูอ่อนและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ จนเมื่อสัมผัสแสงแดดยามเช้าทุกอย่างก็จะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เป็นประสบการณ์สุดวิเศษที่เหมือนกับได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการเลยทีเดียว

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/22163

ดำน้ำเที่ยวเมืองใต้บาดาลแสนพิศวง (โยนากุนิ)

เกาะโยนากุนิ (与那国島) ตั้งอยู่สุดขอบด้านตะวันตกของญี่ปุ่น สามารถเดินทางถึงได้โดยนั่งเครื่องบินจากสนามบินนาฮะของโอกินาว่าประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที พื้นทะเลของเกาะนี้เป็นที่ตั้งของซากโบราณสถานหรือไม่ก็ลักษณะภูมิประเทศที่ดูคล้ายกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในเดือนมีนาคม 2021 สำนักข่าว BBC ของอังกฤษได้เรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า "เมืองลึกลับใต้บาดาลของญี่ปุ่น" และทำรายการพิเศษถ่ายทอดออกไป ที่นี่จึงกลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก

แม้จะถูกพบมาแล้วกว่า 30 ปี แต่ตัวตนที่แท้จริงของมันก็ยังเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักธรณีวิทยาเรื่อยมา ยิ่งทำให้นักดำน้ำจากทั่วโลกอยากมาชมเมืองที่แสนลึกลับนี้ให้ได้สักครั้ง หากมีใบอนุญาตดำน้ำ คุณจะสามารถดำลงไปในส่วนลึกของเมืองซึ่งมีจุดน่าสนใจมากมาย เช่น ส่วนที่คาดว่าเป็นประตู หรือส่วนที่ดูเหมือนแท่นบูชา เป็นการดำน้ำที่น่าท้าทายอย่างยิ่ง

ในกรณีที่ไม่มีใบอนุญาตดำน้ำ คุณก็สามารถเข้าร่วมทัวร์ดำน้ำแบบชมจากด้านบนได้ สิ่งนี้เป็นเพียงภูมิประเทศที่ถูกสรรค์สร้างโดยธรรมชาติ หรือผลงานจากฝีมือมนุษย์กันแน่ ต้องมาพิสูจน์ด้วยตาคุณเองแล้ว!

・https://th.activityjapan.com/publish/plan/10605

หากจะเที่ยวโอกินาว่าให้เต็มที่ ทริปเพียงวันหรือสองวันคงมีเวลาไม่พอแน่ๆ ลองขยายเวลาเที่ยวสักหน่อย สัมผัสกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป รับรองว่าคุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างแน่นอน!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !