คู่มือท่องเที่ยวตามฤดูกาล: 8 ดอกไม้สวยที่ควรชมในญี่ปุ่น
หากพูดถึงความงามของญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึงความงามตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเหล่ามวลดอกไม้ที่คอยแต่งแต้มสีสันให้ฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น ในบทความนี้จึงขอแนะนำดอกไม้ที่ถือเป็นตัวแทนแต่ละฤดูกาลที่ควรชมให้ได้ในญี่ปุ่นค่ะ
บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ
1. ดอกซากุระ -ฤดูใบไม้ผลิ-
luckyno3/flickr
หากพูดถึงดอกไม้ตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึง “ดอกซากุระ” ภาษาดอกไม้ของดอกซากุระขึ้นอยู่กับพันธุ์ เช่น ภาษาดอกไม้ของซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะหมายถึง “ความบริสุทธิ์” และ “หญิงงามปราดเปรื่อง” ส่วนมากจะเปรียบดอกไม้กับความงามของผู้หญิง ฤดูที่ดอกซากุระบานจะอยู่ประมาณเดือนเมษายน พอถึงช่วงเวลานั้นทั่วญี่ปุ่นจะประกาศระยะการออกดอกเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่เริ่มบานวันแรกจนถึงช่วงบานสะพรั่งที่ทั่วทั้งเมืองจะคึกคักไปด้วยผู้มาชมดอกไม้ เป็นดอกไม้ที่จะขาดไม่ได้เลยหากพูดถึงดอกไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ !
2. ดอกไฮเดรนเยีย -ต้นฤดูร้อน-
พอผ่านพ้นฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระบานก็จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่ดอกไฮเดรนเยียเริ่มบานทั่วเมือง ช่วงเวลาออกดอกของไฮเดรนเยียคือช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ปัจจุบันมีการพัฒนาดอกไฮเดรนเยียหลายสายพันธุ์ ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับดอกไฮเดรนเยียหลากสีสัน ภาษาดอกไม้ดั้งเดิมแปลว่า “ความไม่แน่นอน” แต่เนื่องจากมีความหมายค่อนไปทางลบ สมัยนี้จึงเริ่มตีความใหม่เป็น “การชุมนุมครอบครัว” จนกลายเป็นของขวัญวันแม่ที่ได้รับความนิยม
3. ดอกทานตะวัน -ฤดูร้อน-
หากพูดถึงดอกไม้ตัวแทนฤดูร้อนจะเป็นดอกไม้อะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “ดอกทานตะวัน” ดอกไม้สีเหลืองใหญ่บานสดใส พออยู่ใกล้แล้วรู้สึกราวกับได้รับพลัง จุดเด่นของดอกทานตะวันที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีก็คือการที่ดอกทานตะวันทั่วทั้งทุ่งจะหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ จึงกลายเป็นภาษาดอกไม้ที่หมายถึง “ความหลงใหล” “การมองคุณคนเดียว” ฯลฯ ซึ่งความหมายเหมือนกันคือการรักเดียวใจเดียว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นของขวัญให้ผู้หญิงหรือเพื่อขอแต่งงาน
4. ดอกพลับพลึงแดง -ต้นฤดูใบไม้ร่วง-
พอสิ้นสุดฤดูร้อนก็จะเข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นฤดูกาลที่เวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืนและเป็นฤดูที่ดอกพลับพลึงแดงเริ่มบาน โดยทั่วไปไม่ค่อยมีความหมายไปในทางมงคล แต่เป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้เลยในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น สีหลักเป็นดอกสีแดงและดอกสีขาว ภาษาดอกไม้จะแสดงอารมณ์ต่างๆ (ดีใจ เสียใจ เศร้าใจ สนุก) แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสี
5. ดอกคอสมอส -ฤดูใบไม้ร่วง-
“ดอกคอสมอส” ถือเป็นตัวแทนของดอกไม้ในฤดูใบไม้ร่วง เห็นได้ชัดเลยจากตัวเขียนคันจิที่มีความหมายว่า “ซากุระของฤดูใบไม้ร่วง” ดอกไม้แต่ละดอกอาจให้ภาพลักษณ์ไม่ฉูดฉาด ทว่าพออยู่รวมกันเป็นทุ่งดอกคอสมอสอันกว้างใหญ่แล้วบานสะพรั่งสวยงามเกินบรรยาย ภาษาดอกไม้หมายถึง “ความไร้เดียงสา/ความนอบน้อม/ความสามัคคีของหญิงสาว” ภาพดอกไม้ที่เห็นตรงหน้าก็เช่นกัน สวยงามราวกับหญิงสาว คำว่าน่ารักก็เหมาะกับดอกไม้ที่ใช้บำบัดนี้เช่นกัน
6. ดอกชบาญี่ปุ่น -ต้นฤดูหนาว-
ดอกซาซังกะหรือดอกชบาญี่ปุ่นเป็นดอกไม้ในตระกูลดอกคามิเลียซึ่งคนญี่ปุ่นรู้จักเป็นอย่างดีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในช่วงต้นฤดูหนาวดอกไม้ขนาดใหญ่นี้จะบานส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ดอกชบาญี่ปุ่นคล้ายกับดอกคามิเลียแต่กลีบใบดอกคามิเลียจะร่วงหล่นธรรมดาในขณะที่กลีบใบดอกชบาญี่ปุ่นจะร่วงกระจายก่อนตก ภาษาดอกไม้แตกต่างกันตามสีดอก เช่น “คุณสวย/ความรักนิรันดร์/คุณทอดทิ้งความรักของฉัน” ไม่ว่าจะหมายถึงอะไรก็สื่อถึงความรักอันลุ่มหลงที่ผู้ชายมีต่อผู้หญิง
7. ดอกดารารัตน์ -ฤดูหนาว-
ดอกไม้ที่มีชื่อเสียงของฤดูหนาวก็คือ “ดอกดารารัตน์” นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่สวยงามราวกับทรัมเป็ตแล้วยังได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้วยลักษณะอ่อนโยนส่งกลิ่นบางๆ แต่ความจริงแล้วกล่าวกันว่าใบต้นดารารัตน์นั้นมีพิษ ภาษาดอกไม้จึงหมายถึง “ความหยิ่ง/ความเห็นแก่ตัว/ความรักตัวเอง” มีที่มาจากตำนานผู้ชายที่หลงรูปตัวเอง ใบคล้ายใบของต้นกระเทียม ระวังอย่าเผลอทานโดยไม่ได้ตั้งใจนะคะ
8. ดอกผักกาด -ต้นฤดูใบไม้ผลิ-
turcottes78/flickr
pascool.net/flickr
“ดอกผักกาด” จะเริ่มบานตอนสิ้นฤดูหนาวและบานสะพรั่งช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ พอถึงฤดูกาลนี้นักท่องเที่ยวจะออกไปชมทุ่งดอกผักกาดซึ่งสวยงามราวกับพรมสีเหลือง ดอกผักกาดเขียนด้วยอักษรจีนตัว “ผัก” ที่หมายถึง “รับประทานได้” กลายเป็นเมนูดอกผักกาดแสนอร่อยในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ภาษาดอกไม้หมายถึง “ความร่ำรวย/ความสว่าง/ความร่าเริง” สื่อถึงภาพลักษณ์อันมีชีวิตชีวา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นดอกไม้ใช้ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่
เกี่ยวกับนักเขียน
