7 จุดถ่ายรูปในทตโตริ ดินแดนแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรม

ทตโตริเป็น (Tottori) จังหวัดติดทะเลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสเน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น นอกจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามอย่างเนินทรายทตโตริและชายหาด Uratomi แล้ว ยังมีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่อย่าง Shirakabe Dozogun และวัด Juun ด้วย! วันนี้เราเลยจะมาแนะนำจุดชมวิวสวยๆ ในทตโตริที่น่าถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ ในอินสตาแกรมกัน

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. Shirakabe Dozogun (Kurayoshi)

ท่องไปในอดีตกับเมือง Kurayoshi ที่ Shirakabe Dozogun หรือโกดังกำแพงขาวซึ่งดัดแปลงมาจากถนนคนเดินของญี่ปุ่นในสมัยก่อน คลังสินค้าที่เรียงรายอยู่บนถนนชื่อดังแห่งนี้จะมีผนังสีขาวและหลังคากระเบื้องสีแดงเหมือนกันทั้งหมด เกิดเป็นภาพที่สวยงามน่ามอง อาคารเหล่านี้เคยใช้เป็นที่เก็บสินค้าอย่างซอสถั่วเหลืองและเหล้าญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ หอศิลป์ และร้านขายของกระจุกกระจิกต่างๆ

ข้างๆ แถวโกดังมีแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลผ่าน โดยมีสะพานหินจำนวนหนึ่งตัดเป็นทางไปยังตัวอาคาร และน้ำในแม่น้ำก็ใสมากๆ บางทีก็จะเห็นปลาคาร์พว่ายไปว่ายมาด้วย

2. Hanami Gatabochi (Akasaki)

Hanami Gatabochi เป็นสุสานที่ทอดยาวริมชายหาด แต่เดิมที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกสร้างเป็นสุสาน แต่ผู้คนก็ค่อยๆ เริ่มสร้างหลุมศพเอาไว้และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนมีถึงกว่า 20,000 หลุมในปัจจุบัน แทนที่จะเรียกว่าสุสาน เรียกว่าเมืองหลุมศพริมทะเลอาจจะเหมาะกว่า

ที่นี่เป็นสถานที่เงียบๆ ที่เราจะได้ยินเสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง และมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อยู่หลายจุดที่มองเห็นทั้งสุสาน

ระหว่างโอบงหรือเทศกาลบง (เทศกาลเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ) ในช่วงเดือนสิงหาคมจะมีการจุดโคมไฟในตอนกลางคืน แสงสีส้มจากโคมไฟจะยิ่งทำให้สุสานดูสวยงามเหมือนฝัน ในช่วงพลบค่ำจะสวยเป็นพิเศษ

3. Hanami Kaigan (Nariishi no Hama) (Akasaki)

หาดธรรมชาติที่ชายฝั่งเป็นหินขอบมนซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก เมื่อคลื่นเข้ามากระทบฝั่ง หินจะกระทบกันและเกิดเสียง จึงได้ชื่อว่า Nariishi no Hama หรือหาดของหินร้องไห้นั่นเอง นอกจากนี้ในบริเวณใกล้ๆ ยังมีกองหินที่เทินกันสูงอยู่จำนวนมาก เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ มีเรื่องเล่าว่าถ้าเขียนความปรารถนาลงบนหินแล้วโยนลงทะเล ความปรารถนานั้นจะเป็นจริงด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีทุ่งดอกทานตะวันที่ริมชายหาดด้วย! ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทุ่งที่ใหญ่นัก แต่ก็พอที่จะให้เราได้ถ่ายรูปดอกทานตะวันสวยๆ กับน้ำทะเล จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. Tottori Sand Dunes (Tottori)

เนินทรายทตโตริเป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ทางธรรมชาติของประเทศ ตัวเนินแผ่กว้างสุดสายตา ทอดตัวยาว 16 กิโลเมตรจากตะวันออกไปตะวันตก และ 2.4 กิโลเมตรจากเหนือไปใต้ ลวดลายบนเนินถูกวาดโดยลมธรรมชาติ มองด้วยตาก็สวยแล้ว ถ่ายรูปก็สวยไม่แพ้กัน

จะชมวิวทะเลจากเนินทรายเฉยๆ ก็ไม่แย่นัก แต่ที่นี่เราจะมีโอกาสได้สนุกไปกับการชมวิวสูงๆ บนหลังอูฐและแซนบอร์ด (sandboarding; กีฬาคล้ายสโนว์บอร์ดที่เล่นบนทราย) ด้วย ด้านตะวันออกของเนินทรายก็มี Sakyu Kaikan ที่สามารถไปซื้อของฝากและนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้

Klook.com

5. Yonago Mizutori Sanctuary (Yonago)

อยู่ติดกับทะเลสาบ Nakaumi ซึ่งเป็นทะเลสาบที่อยู่ระหว่างจังหวัดทตโตริและจังหวัดชิมาเนะ (Shimane) และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ ด้วยความที่อยู่ใกล้ๆ กับทะเลญี่ปุ่น จึงมีปลาและนกอพยพอาศัยอยู่หลายชนิด

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจะเห็นหงส์ขาวกว่า 1,000 ตัวจับกลุ่มกันอยู่ใกล้ๆ นอกจากนี้ยังมีห่านป่า เป็ด และพันธ์ุสัตว์ปีกที่เป็นสมบัติทางธรรมชาติอย่างอินทรีหางขาวและห่าน Taiga bean ด้วย ถึงแม้ว่าตัวสวนสาธารณะจะตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟอยู่สักหน่อย แต่ขอบอกว่าคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน

6. Juun Temple (Nawa)

เรียกอีกชื่อคือวัดฟูจิจิ สร้างขึ้นในปี 1334 เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในด้านต้นวิสทีเรีย (หรือดอกฟูจิในภาษาญี่ปุ่น) และนักท่องเที่ยวมากมายก็มาเยือนที่วัดเพื่อชื่นชมดอกไม้แสนสวยเหล่านี้ ภาพดอกวิสทีเรียที่ห้อยลงมาจากกิ่งไม้นั้นเป็นทิวทัศน์ที่ตื่นตามากๆ ควรไปเห็นให้ได้สักครั้ง

ที่นี่จะมีเทศกาลฟูจิ (Fuji Matsuri) จัดขึ้นทุกปีในช่วง 3 - 5 พฤษภาคม ในช่วงเทศกาลก็มีกิจกรรมมากมาย รวมไปถึงแสดง Taishogoto (พิณแบบนาโกย่า) โดยทางวัดจะจัดที่นั่งชมไว้ให้ใต้ต้นวิสทีเรีย เราก็จะได้มีโอกาสเพลิดเพลินไปกับชาและขนมญี่ปุ่นท่ามกลางสภาพแวดล้อมน่ารักๆ ด้วย

7. Uradome Coast - (Iwami)

หาด Uradome หรือ Uradome Kaigan เป็นชายหาดรูปฟันเลื่อยที่มีถ้ำและหินประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่จำนวนมาก สามารถเดินเลียบไปตามทางหาดเพื่อชมวิวได้เลย นับเป็นจุดชมทะเลญี่ปุ่นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นภูมิประเทศที่แตกต่างกันหลายแบบในที่เดียว 

ในช่วงฤดูร้อนก็จะมีคนมาว่ายน้ำเล่นกันเป็นจำนวนมาก น้ำทะเลก็ใสสะอาดเหมาะกับการดำน้ำดูปะการังด้วย

ในทตโตริมีจุดชมวิวอยู่มากมาย และแต่ละที่ก็มีความสวยงาม รวมถึงให้สเน่ห์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูด้วย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะช่วงไหนของปีก็ควรค่าแก่การเก็บภาพสุดๆ!

 

ถ้าหากมีความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความของเรา มีหัวข้อที่อยากให้เรานำมานำเสนอ หรือมีคำถามเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น สามารถติดต่อมาได้ที่ Facebook หรือ Twitter!

มนต์เสน่ห์ชูโกคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

G.
G. Ohara
ผมเป็นหนึ่งในทีมบรรณาธิการของ tsunagu japan ครับ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร