เที่ยวญี่ปุ่นดูใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงไหนดีที่สุด!?

เมื่อมีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าใครๆ ก็คงอยากเดินทางมาให้ตรงช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามที่สุดกันทั้งนั้น โดยปกติแล้ว ฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ที่ประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ในแต่ละพื้นที่ก็มีช่วงเวลารับชมที่แตกต่างกัน แถมแต่ละปีก็อาจจะแตกต่างกันอีกด้วย แล้วฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีของปีนี้คือเมื่อไรกันแน่? ในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นในปี 2019 โดยจะขอแนะนำเป็น "ปฏิทินฤดูใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่น" พร้อมยกตัวอย่างจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังของแต่ละพื้นที่มาให้คุณได้รู้จักกัน!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

*บทความนี้เขียนขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลจาก "ข้อมูลฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีปี 2019" ของสมาคมสภาพอากาศญี่ปุ่น (JWA) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2019

1. ภูมิภาคฮอกไกโด (ฮอกไกโด)

ฮอกไกโด ตั้งอยู่บนจุดเหนือสุดของหมู่เกาะญี่ปุ่น เป็นพื้นที่ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีให้รับชมค่อนข้างเร็วกว่าส่วนอื่นๆ ของญี่ปุ่น ฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นในปี 2019 นั้นคาดการณ์ไว้ว่าจะมาถึงช้ากว่าปีปกติ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอุณหภูมิหลังจากนี้จะสูงกว่าปกติ แต่ก็มีวันที่อากาศหนาวเย็นในช่วงเช้าและค่ำอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้ฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีมาถึงช้ากว่าปีปกติไม่มากสักเท่าไร


จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังของฮอกไกโดที่เราอยากกล่าวถึงเป็นพิเศษก็คือ "ทางเดินต้นแปะก๊วยของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด (北海道大学いちょう並木)" ในทุกๆ ปีเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายของเดือนตุลาคม ทั่วทั้งบริเวณนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยเหล่าต้นไม้สีทองที่สวยงาม ทิวทัศน์นี้ถึงขนาดที่ถูกเปรียบว่าเป็น "พรมสีทอง" มีความงดงามที่เกินกว่าจะอธิบาย

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
・ตั้งแต่กลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคม

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Sounkyo (Kamikawa-cho, Hokkaido) : 10 ตุลาคม
・Jozankei Onsen (Sapporo-shi, Hokkaido) : 15 ตุลาคม
・Onuma Koen (Hakodate-shi, Hokkaido) : 30 ตุลาคม

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
13℃ (Sapporo-shi, Hokkaido / ตุลาคม 2018)

2. ภูมิภาคโทโฮคุ (อาโอโมริ, อิวาเตะ, มิยากิ, ยามากาตะ, ฟุคุชิม่า)

เช่นเดียวกับภูมิภาคฮอกไกโด ฤดูใบไม้เปลี่ยนในภูมิภาคโทโฮคุก็คาดการณ์ไว้ว่าจะมาถึงช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม หากมีวันที่อากาศเย็นหลายวันก็อาจมาถึงไวขึ้น บริเวณที่ราบคาดว่าจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้รับชมในช่วงที่ไล่เลี่ยกันกับปีปกติ ในขณะที่บริเวณภูเขาจะมีให้รับชมช้ากว่าปีปกติ

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งของภูมิภาคโทโฮคุก็คือ "หุบเขานารูโกะ (鳴子峡)" ในเมืองโอซากิของจังหวัดมิยากิ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งรถไฟประมาณ 10 นาทีจากสถานี JR Naruko Onsen เป็นหุบเขาที่ทอดยาวไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของหน้าผาที่ยาว 2.5 กิโลเมตรและมีความสูงถึง 100 เมตร ใกล้ๆ กันก็ยังมี "นารูโกะออนเซ็น (鳴子温泉)" จึงสามารถแช่ออนเซ็นไปพร้อมๆ กับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อีกด้วย

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
ต้นเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Kurikoma-yama (Miyagi, Akita, Iwate) : 3 ตุลาคม
・Bandai-kogen (Fukushima) : 25 ตุลาคม
・Towada-kohan (Aomori) : 25 ตุลาคม
・Naruko-kyo (Miyagi) : 30 ตุลาคม

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
16.5℃ (Sendai-shi, Miyagi / ตุลาคม 2019)

3. ภูมิภาคคันโต (โตเกียว, คานากาว่า, ไซตามะ, ชิบะ, โทชิกิ, อิบารากิ, กุนมะ)

ในส่วนของภูมิภาคคันโต ปกติแล้วใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามที่สุดในช่วงปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปี 2019 นี้มีผลกระทบจากอากาศร้อนที่หลงเหลือมาจากฤดูร้อน ส่งผลให้ฤดูรับชมใบไม้เปลี่ยนสีในบริเวณที่ราบจะมาถึงช้ากว่าปีก่อนๆ เล็กน้อย แม้ว่านับจากนี้ไปจะมีวันที่อากาศอบอุ่นในช่วงกลางวันอยู่ค่อนข้างมาก แต่เนื่องจากบริเวณที่ห่างจากทะเลจะมีวันที่อากาศเย็นตัวลงในช่วงเช้าและค่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใบไม้จึงเริ่มเปลี่ยนสีกันให้เห็นตามไปด้วย

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในละแวกคันโตที่เราขอแนะนำก็คือ "สวนอนุสรณ์โชวะ (昭和記念公園)" ในโตเกียว ภายในสวนมีแนวต้นแปะก๊วยใหญ่อยู่ 2 แห่ง ได้แก่ "คาตาไรโนะอิโจนามิคิ (かたらいのいちょう並木)" ที่ยาว 300 เมตรและมีต้นแปะก๊วย 98 ต้น และ "ทาจิคาวะกุจิคาแนล (立川口カナール)" ที่ยาว 200 เมตร และมีต้นแปะก๊วย 106 ต้น เมื่อเข้าสู่ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีทอง จะเกิดเป็นอุโมงค์สีทองสุดอลังการ

นอกจากต้นเมเปิลที่เปลี่ยนสีสันอย่างสดใสไปเป็นสีแดง ส้มเข้ม และทองแล้ว ยังมีต้นไม้ใบใหญ่อย่างเคยากิ คัตสึระ และนันกิงฮาเสะ ที่แสดงสีสันประจำฤดูออกมาให้ได้รับชม คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการเปลี่ยนสีใบไม้ของต้นไม้แต่ละชนิดที่มีเอกลักษณ์ต่างกันออกไป นอกจากนี้ ในช่วงฤดูชมใบ้ไม้เปลี่ยนสียังมีการจัดแสดงไฟในช่วงกลางคืนรอบๆ บริเวณสวน "คาตาไรโนะอิโจนามิคิ" และสวนสไตล์ญี่ปุ่นอื่นๆ อยู่อีกด้วย

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Nikko และ Kinugawa (Tochigi) : 25 ตุลาคม
・Tanigawa-dake (Gunma) : ปลายเดือนตุลาคม
・Ikaho (Gunma) : ครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน
・Fukuroda no Taki (Ibaraki) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Takao-san (Tokyo) : 25 พฤศจิกายน
・Showa Kinen Koen (Tokyo) : ปลายเดือนพฤสจิกายน
・Ashinoko (Kanagawa) : ปลายเดือนพฤสจิกายน
・Tsukinoishi Momiji Koen (Saitama) : ปลายเดือนพฤสจิกายน
・Shibuya และละแวก Aoyama (Tokyo) : ต้นเดือนธันวาคม
・Yoro-keikoku (Chiba) : ต้นเดือนธันวาคม
・Tsurugaoka Hachimangu (Kanagawa) : ต้นเดือนธันวาคม

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
14.0℃ (Tokyo / พฤศจิกายน 2019)

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. ภูมิภาคชูบุ (ยามานาชิ, ชิซูโอกะ, นากาโน่, นีงาตะ, อิชิคาว่า, โทยามะ, ฟุคุอิ, ไอจิ, มิเอะ, กิฟุ)

ภูมิภาคชูบุ ภูมิภาคของจังหวัดยามานาชิและจังหวัดชิซูโอกะ อันเป็นที่ตั้งของ "ภูเขาไฟฟูจิ (富士山)" ภูเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น กระจายตัวไปด้วยจุดที่สามารถเพลิดเพลินใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมๆ กับภูเขาไฟฟูจิหลายแห่ง

ตัวอย่างเช่น "5 ทะเลสาบแห่งภูเขาไฟฟูจิ (富士五湖)" จุดที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษก็คือ "ทะเลสาบคาวากุจิ (河口湖)" ที่เป็น 1 ใน 5 ทะเลสาบแห่งภูเขาไฟฟูจิดังกล่าว เนื่องจากเป็นทิวทัศน์ที่ถูกนำไปใช้เป็นโปสเตอร์การท่องเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่น่าจะเคยเห็นทิวทัศน์ดังกล่าวบนอินเตอร์เน็ต

ในส่วนของช่วงรับชมไม้ใบ้เปลี่ยนสีของปี 2019 นั้น คาดการณ์ไว้ว่าจะไล่เลี่ยกันกับปีเฉลี่ย ยกเว้นแต่บริเวณพื้นที่ราบบางส่วนที่อาจจะมาถึงช้ากว่าปกติเนื่องจากมีอุณหภูมิที่อบอุ่นกว่าปีเฉลี่ยอยู่เล็กน้อย ขอแนะนำให้ตรวจสอบให้ดีเพื่อที่จะได้ไม่พลาดช่วงที่สวยงามที่สุดของใบไม้เปลี่ยนสี

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
・ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Kamikochi (Nagano) : 25 ตุลาคม
・Fujisan Skyline (Shizuoka) : ปลายเดือนตุลาคม
・Fuji-goko (Yamanashi) : ปลายเดือนตุลาคม
・Shirakawa-go (Gifu) : 30 ตุลาคม
・Gozaisho-dake (Mie) : ปลายเดือนตุลาคม
・Kiyotsu-kyo (Niigata) : ปลายเดือนตุลาคม
・Kurobe-kyokoku (Toyama) : ครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน
・Eihei-ji (Fukui) : กลางเดือนธันวาคม
・Koran-kei (Aichi) : 25 พฤศจิกายน
・Kenroku-en (Ishikawa) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Sumata-kyo (Shizuoka) : ปลายเดือนพฤศจิกายน

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
8.5℃ (Fujiyoshida-shi, Yamanashi และละแวก Kawaguchi-ko / พฤศจิกายน 2018)

Klook.com

5. ภูมิภาคคันไซ (โอซาก้า, เกียวโต, เฮียวโกะ, นารา, มิเอะ, ชิกะ, วาคายาม่า)

ฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคคันไซในปี 2019 คาดการณ์ไว้ว่าจะไล่เลี่ยกันกับปีปกติ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากมีแนวโน้มที่อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อนๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จึงคาดการณ์ไว้ว่าฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีของบริเวณที่ราบจะมาถึงช้ากว่าปกติเล็กน้อย

เมื่อกล่าวถึงจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคคันไซ ก็คงต้องเป็นเมืองหลวงอันเก่าแก่ เกียวโต หนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษของเกียวโตคือ "วัดรุริโคอิน (瑠璃光院)" ซึ่งเป็นวัดที่จะเปิดให้เข้าชมเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเท่านั้น ความขัดแย้งกันอย่างลงตัวระหว่างใบไม้เปลี่ยนสีกับมนต์เสน่ห์แบบญี่ปุ่นโบราณนั้นน่าหลงใหลและมีความสวยงามจนต้องตกตะลึง

นอกจากนี้ "แนวต้นสนแดง (メタセコイア並木)" ในเมืองทาคาชิมะของจังหวัดชิกะก็ยังเป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เป็นสถานที่ที่เคยได้ไปปรากฏอยู่ในละครสุดโด่งดัง สองข้างถนนที่ยาว 2.4 กิโลเมตรนี้เรียงรายไปด้วยต้นสนแดงกว่า 500 ต้น เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วจะมีสีสันสวยงามให้ได้รับชมกัน

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
・กลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Koya-san (Wakayama) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Enryaku-ji (Shiga) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Osakajo Koen (Osaka) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Nara Koen (Nara) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Kinosaki Onsen (Hyogo) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Mino Kokutei Koen (Osaka) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Sumarikyo Koen (Hyogo) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Arashiyama (Kyoto) : 30 พฤศจิกายน

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
13.5℃ (Kyoto-shi, Kyoto / พฤศจิกายน 2019)

6. ภูมิภาคชูโกคุ (ทตโตริ, ชิมาเนะ, โอคายาม่า, ฮิโรชิม่า, ยามากุจิ)

สำหรับฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคชูโกคุนั้น คาดการณ์ไว้ว่าในบริเวณพื้นที่ราบจะมีให้รับชมช้ากว่าปีปกติ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษของภูมิภาคนี้คือ "สวนสาธารณะมิยาจิมะโมมิจิดานิ (宮島紅葉谷公園)" ที่อยู่ในเกาะมิยาจิมะ (ชื่อทางการคือ เกาะอิสึคุชิมะ) ของจังหวัดฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิมะเป็นเกาะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์หลายแห่งกระจายตัวอยู่ ซึ่งรวมไปถึงโทริอิขนาดมโหฬารของศาลเจ้าอิสึคุชิมะที่ลอยอยู่บนอ่าวฮิโรชิม่า อีกทั้งภายในบริเวณยังมีกวางป่าอาศัยอยู่ด้วย รับรองได้ว่าคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในระหว่างหาจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ อย่างแน่นอน

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
・ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Daisen (Tottori) : 30 ตุลาคม
・Okutsu-kei (Okayama) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Ajitsu-keikoku (Tottori) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Miyama Koen (Okayama) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Chomon-kyo (Yamaguchi) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Tsuwano-joseiki (Shimane) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Miyajima (Hiroshima) : 20 พฤศจิกายน

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
13.3℃ (Hiroshima-shi, Hiroshima / พฤศจิกายน 2018)

7. ภูมิภาคชิโคคุ (โทคุชิมะ, เอฮิเมะ, โคจิ, คากาวะ)

ในส่วนของภูมิภาคชิโคคุ คาดการณ์ว่าส่วนพื้นที่สูงๆ อย่างบริเวณภูเขาเท่านั้นที่ฤดูชมใบเปลี่ยนสีจะมาถึงตรงตามปีปกติ ในส่วนพื้นที่ราบคาดการณ์ไว้ว่าจะมาถึงช้ากว่าปกติเล็กน้อย

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดของภูมิภาคชิโคคุคือ "หุบเขาคันกะ (寒霞渓)" ของจังหวัดคากาวะ เป็นสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์ยอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และยังได้รับการระบุให้เป็นหนึ่งใน "3 หุบเขาที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น" ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งหุบเขานี้จะย้อมไปด้วยสีสันที่สวยงาม หากมีโอกาสได้มาภูมิภาคชิโคคุแล้ว ควรแวะไปชมทิวทัศน์ที่แสนวิเศษนี้ให้ได้สักครั้ง

นอกจากนี้แล้วภูมิภาคชิโคคุก็ยังมีจุดชมวิวสวยๆ อยู่อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น "สวนริตสึริน (栗林公園)" ในจังหวัดคากาวะ "หุบเขาอิยะ (祖谷渓)" ในจังหวัดโทคุชิมะ และ "ช่องเขานาเมโทโกะ (滑床渓谷)" ในจังหวัดเอฮิเมะ เป็นภูมิภาคที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำไปกับความสวยงามตามธรรมชาติที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
・กลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Tsurugi-san (Tokushima) : กลางเดือนตุลาคม
・Ichinotani-keikoku (Koji) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Kanka-kei (Kagawa) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Nametoko-keikoku (Ehime) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Ritsurin Koen (Kagawa) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Bizan Koen (Tokushima) : ปลายเดือนพฤศจิกายน

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
13.5℃ (Takamatsu-shi, Kagawa / พฤศจิกายน 2019)

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. ภูมิภาคคิวชู (ฟุกุโอกะ, ซากะ, นางาซากิ, คุมาโมโตะ, โออิตะ, มิยาซากิ, คาโกชิม่า)

อุณหภูมิของภูมิภาคคิวชูปี 2019 ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไปคาดการณ์ไว้ว่าจะไม่ต่างกับปีเฉลี่ย ช่วงรับชมใบไม้เปลี่ยนสีจึงอยู่ในเวลาเดียวกันกับปีปกติ ทั้งยังคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยจากฝนหรือไต้ฝุ่นในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง

คิวชูก็เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่มากมาย สถานที่ที่เราอยากแนะนำเป็นพิเศษก็คือ "หุบเขายาบะ (耶馬溪)" ของจังหวัดโออิตะ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งใน 3 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น เคียงคู่ไปกับ อาราชิยามะของเกียวโต และนิกโก้ของโทชิกิ สามารถเดินทางถึงได้โดยนั่งรถยนต์ 45 นาทีจาก เบปปุ ย่านออนเซ็นชื่อดังของจังหวัดโออิตะ 20 นาที จากย่านยูฟูอินของจังหวัดเดียวกันนี้ และ 90 นาทีจากเมืองฟุกุโอกะของจังหวัดฟุกุโอกะ แม้ว่าจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เดินทางสะดวกเป็นอย่างยิ่ง หากมีโอกาสได้มาภูมิภาคคิวชูที่กว้างใหญ่นี้แล้ว ไม่ควรพลาด!

เนื่องจากเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีได้รับความนิยมอย่างมหาศาล แค่เพียงสิบโมงเช้าก็จะคับคั่งไปด้วยผู้คนแล้ว จึงขอแนะนำให้มาเช้าๆ ไว้จะดีกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงไฟหลังจากที่พระอาทิตย์ตกดิน การแวะมาในช่วงเย็นหรือกลางคืนก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

[ช่วงรับชมของทั้งพื้นที่]
・ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

[ช่วงรับชมของแต่ละจุด (ปี 2019)]
・Kirishima (Kagoshima) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Unzen (Nagasaki) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Gokanosho (Kumamoto) : ต้นเดือนพฤศจิกายน
・Hokuzan Dam (Saga) : กลางเดือนพฤศจิกายน
・Yaba-kei (Oita) : 15 พฤศจิกายน
・Takachiho-kyo (Miyazaki) : 20 พฤศจิกายน
・Homangu Kamado-jinja (Fukuoka) : ปลายเดือนพฤศจิกายน
・Akitsuki-joseki (Fukuoka) : ปลายเดือนพฤศจิกายน

[อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูใบไม้ร่วง]
14.3℃ (Fukuoka-shi, Fukuoka / พฤศจิกายน 2019)

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเพลิดเพลินไปกับใบไม้เปลี่ยนสีกันให้เต็มที่

สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นอย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อม (อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อมด้วย) และลองนำข้อมูลใบไม้เปลี่ยนสีนี้ไปเป็นตัวช่วยในการวางแผนการเดินทางของคุณ ไม่ว่าจะมีแพลนอยากไปที่ภูมิภาคไหน รับรองได้ว่าถ้ากำหนดวันมาให้พอดีกับช่วงเวลาแล้วล่ะก็ จะได้เจอกับใบไม้เปลี่ยนสีแบบอลังการงานสร้างกันอย่างแน่นอน แล้วมันจะกลายเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามก็ขอให้คอยอัพเดทข้อมูลพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีกันด้วย เนื่องจากบทความนี้เขียนขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมสภาพอากาศญี่ปุ่นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ช่วงเวลาในการรับชมจึงอาจจะเปลี่ยนได้โดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหลังจากนี้

*ในส่วนของโอกินาว่าที่อยู่ทางใต้สุดของหมู่เกาะญี่ปุ่นนั้น เนื่องจากมีสภาพอากาศแบบกึ่งเขตร้อน จึงไม่มีปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้รับชม
 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Keisuke
Keisuke Tsunekawa
เป็นคนญี่ปุ่นที่ชอบหลีกหนีจากชีวิตในเมืองโตเกียวเป็นครั้งคราว เพื่อค้นพบเส้นทางใหม่ๆ รวมถึงท่องเที่ยวในประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าได้สนุกกับการเชื่อมโยงกับสิ่งที่แตกต่างไปจากที่เคยทำเคยเห็นในชีวิตประจำวัน
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร