15 โบราณสถานห้ามพลาดในจังหวัดมิเอะ (Mie)

จังหวัดมิเอะ (Mie) เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและล้อมรอบไปด้วยทะเลและภูเขา แถมยังมีโบราณสถานมากมายที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำโบราณสถานที่ควรแวะเยี่ยมชม 15 แห่งในจังหวัดมิเอะกันค่ะ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. Ise Grand Shrine Naiku (伊勢神宮内宮)

PIXTA

Ise Grand Shrine Naiku เป็นศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งบูชาเทพี Amaterasu Omikami (天照大御神) กล่าวกันว่าเทพี Amaterasu เป็นเทพเจ้าซึ่งเป็นบรรพบุรุษของจักรพรรดิ ในอดีตบุคคลอื่นๆ นอกจากจักรพรรดิและผู้ที่ได้รับการอนุญาตของจักรพรรดิไม่สามารถเข้าสักการะบูชาได้ ทว่าในปัจจุบันนอกจากสถานที่บางส่วนแล้ว ทุกคนสามารถสักการะได้ตามอัธยาศัย

การเดินทาง: นั่งบัสจาก Iseshi Station 15 นาที
*จากสถานี Kintetsu, JR Iseshi Station หรือสถานี Kintetsu Ujiyamada Station, Isuzugawa Station ให้ขึ้นบัส Geku - Naiku Loop Line แล้วลงที่ป้ายรถบัส "Naiku-mae"

http://www.isejingu.or.jp/naiku.html

2. Ise Grand Shrine Geku (伊勢神宮外宮)

PIXTA

Ise Grand Shrine Geku เป็นศาลเจ้าซึ่งบูชาเทพเจ้า Toyouke Omikami (豊受大御神) เมื่อ 1,500 ปีก่อน จักรพรรดิทรงรับคำสั่งของเทพเจ้าแล้วโปรดฯ ให้สร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้น ว่ากันว่าเทพเจ้า Toyouke เป็นเทพผู้คุ้มครองเครื่องนุ่มห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย และอุตสาหกรรม ทำให้ได้รับการเคารพมาตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าเมื่อมาสักการะ Ise Grand Shrine ให้เริ่มจากส่วน Geku แล้วค่อยมาที่ Naiku ถึงจะถูกต้อง

การเดินทาง: เดินจาก Iseshi Station 10 นาที

http://www.isejingu.or.jp/geku.html

3. Ueno Castle (上野城)

Daisy Duke Berkowitz/Flickr

Ueno Castle เป็นป้อมปราการที่มีมาตั้งแต่สมัยเซ็งโงกุ หรือสมัยสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 16 ตัวปราสาทในปัจจุบันได้รับการบูรณะเมื่อปี 1935 ส่วนภายในปราสาทได้รับการปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ และยังมีพิพิธภัณฑ์ Matsuo Basho ผู้ประพันธ์บทกวีไฮกุชื่อดัง รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ Ninja Museum of Igaryu อีกด้วย

การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ Iga Railway สาย Iga Line Uenoshi Station 8 นาที

http://www.ict.ne.jp/~uenojyo/

4. Ninja Museum of Igaryu (伊賀流忍者博物館)

m-louis .(R)/Flickr

นินจาแห่ง Igaryu เป็นกลุ่มนินจาซึ่งโด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงทัวร์คฤหาสน์นินจาที่ติดตั้งกับดักไว้ อาวุธที่นินจาเคยใช้ และการแสดงของนินจา เป็นต้น

การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ Iga Railway สาย Iga Line Uenoshi Station 8 นาที

http://www.iganinja.jp/

5. พิพิธภัณฑ์ Matsuo Basho (芭蕉翁記念館)

Matsuo Basho เป็นกวีที่แต่งกลอนไฮกุอันไพเราะจำนวนมากในปี 1644 - 1694 ท่านกำเนิดในเมือง Iga ทำให้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ไว้ที่นี่ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานเขียนของ Basho จำนวนมาก

การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ Iga Railway สาย Iga Line Uenoshi Station 8 นาที

http://www.basho-bp.jp/

6. Tsu Castle (津城)

PIXTA

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยน้องชายของ Oda Nobunaga สมัยเซ็งโงกุและได้รับการปรับปรุงโดยไดเมียวผู้ปกครองพื้นที่บริเวณนี้ในสมัยเอโดะ ทำให้พื้นที่รอบๆ ปราสาทเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นศูนย์กลางของจังหวัดมิเอะ ต่อมาในสมัยเมจิ ตัวปราสาทถูกทำลายลง ทว่าก็ได้บูรณะซ่อมแซมอาคารบางส่วนเป็นสวนญี่ปุ่น

การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ Kintetsu สาย Nagoya Line Tsu-shimmachi Station มา 15 นาที

http://www.tsukanko.jp/spot/25/

7. Matsusaka Castle Ruins (松阪城跡)

inunami/Flickr

Matsusaka Castle ได้รับการสร้างขึ้นในยุคเซ็งโงกุ ตัวปราสาทถูกทำลายไปแล้ว แต่กำแพงหินยังคงเหลืออยู่เช่นเดียวกับในสมัยนั้น ข้างบนกำแพงหินสามารถมองเห็นเมือง Matsusaka ได้ เรียกว่าวิวดีสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์ของนักวิชาการในยุคเอโดะ Motoori Norinaga อีกด้วยค่ะ

การเดินทาง: เดินจากสถานี Matsusaka Station 15 นาที

http://www.matsusaka-kanko.com/information/information/matsusakajyousek/

8. Motoori Norinaga Musuem (本居宣長旧宅/記念館)

Takeshi KOUNO/Flickr

Motoori Norinaga เป็นนักวิชาการแห่งชาติในยุคเอโดะ และได้มีผลงานยิ่งใหญ่ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างการแปลอักษรโบราณจาก "Kojiki" หนังสือที่บันทึกเรื่องราวตั้งแต่ยุคตำนานเทพเจ้าจนถึงยุคจักรพรรดิ เป็นต้น คฤหาสน์ที่ท่านใช้ชีวิตตั้งแต่อายุ 12 ปีจนกระทั่งเสียชีวิตตอนอายุ 72 ปีจึงหลงเหลือเป็นพิพิธภัณฑ์ไว้ 

การเดินทาง: เดินจากสถานี Matsusaka Station 15 นาที

http://www.norinagakinenkan.com/

9. Residences of Castle Guards, Matsusaka Castle (松阪城 御城番やしき)

Residences of Castle Guards, Matsusaka Castle เป็นคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นในปี 1863 ให้เหล่าผู้คุ้มกันของ Matsusaka Castle ได้พำนักอาศัยอยู่ ปัจจุบันยังคงมีลักษณะเช่นเดียวกับในอดีตและได้รับการเลือกให้เป็นมรดกสำคัญทางวัฒนธรรมแห่งชาติอีกด้วย

การเดินทาง: เดินจากสถานี Matsusaka Station 15 นาที

10. Kuwana Sousha Shrine (桑名宗社)

Tawashi/Wikimedia Commons

ศาลเจ้าแห่งนี้บูชาเทพเจ้าแห่งความรุ่งเรือง ในวันอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคมในทุกปีมีการจัดงาน Nihon Ichi Urusai Matsuri (日本一うるさい祭り) ซึ่งแปลได้ว่า "เทศกาลอันน่ารำคาญที่สุดแห่งญี่ปุ่น" อีกด้วย

การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Kansai Main Line Kuwana Station มา 15 นาที

http://www.kuwanasousha.org/

11. Ise-ji ในถนนสักการะ Kumano-kodo (熊野古道伊勢路)

PIXTA
ถนนสักการะ Kumano-kodo ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้นอยู่ในส่วนใต้ของจังหวัด Mie ถนนสักการะแห่งนี้เป็นถนนเก่าที่ได้รับการซ่อมแซมเป็นถนนสักการะศาลเจ้าอย่าง Ise Grand Shrine เป็นต้น ปัจจุบันกลายเป็นจุดเดินเที่ยวและสามารถใช้สัญจรได้ตามอัธยาศัย 

http://www.pref.mie.lg.jp/KODO/

12. Tsubaki Grand Shrine (椿大神社)

ศาลเจ้าแห่งนี้บูชาเทพเจ้า Sarutahiko ในตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น ตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่นได้กล่าวไว้ว่าเทพเจ้า Sarutahiko มีหน้าที่ในการนำทาง ทำให้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "เทพเจ้าแห่งท้องถนน" "เทพเจ้าแห่งผู้เดินทาง" และได้รับความศรัทธาจากทั่วประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ Tsubaki Grand Shrine ยังเป็นศาลเจ้าหลักจากศาลเจ้าอื่นๆ ในการสักการะเทพเจ้า Sarutahiko อีกด้วย ปัจจุบันยังมีศาลเจ้าย่อยในรัฐ Washington แห่งสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

การเดินทาง: จากสถานี Yokkaichi Station นั่งบัส Mie Kotsu ไปยัง Tsubaki Grand Shrine

http://www.tsubaki.or.jp/

13. Saiku Historical Museum (斎宮歴史博物館)

Yanajin33/Wikimedia Commons

"Saiku" สถานที่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณ 660 ปีก่อน ตั้งแต่ช่วงปลายศรรตวตที่ 7 นั้น เป็นที่พำนักของหญิงสาวที่ไม่ได้แต่งงานจากราชวงศ์ซึ่งถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ในพิธีกรรมแทนจักรพรรดิ ปัจจุบันมีสิ่งของในสมัยนั้นคงเหลืออยู่ไม่มากนัก แต่ทว่าภายใน Saiku Historical Museum แห่งนี้ ได้มีการจัดแสดงโมเดลจำลองลักษณะของพระราชวังในสมัยนั้น รวมถึงของที่ขุดพบต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริการทดลองใส่ชุด Junihitoe อันเป็นเครื่องแต่งกายในสมัยนั้นอีกด้วย

การเดินทาง: เดินจากสถานี Kintetsu Saikū Station มา 15 นาที

http://www.bunka.pref.mie.lg.jp/saiku/index.shtm

14. Oniga-jo (鬼ヶ城)

Photocon Japan/Flickr

Oniga-jo ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้เป็นเนินซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และยังเป็นกำแพงหินที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางคลื่นลมตลอดหลายปี หากเดินไปสัก 1 กิโลเมตร ท่านจะพบถ้ำหินหรือก้อนหินรูปทรงแปลกๆ ทั้งใหญ่และเล็กจำนวนมากมาย บริเวณยอดเขายังมีโบราณสถานจากยุคเซ็งโงกุอีกด้วย


การเดินทาง: นั่งบัส "Omataokubo" จากสถานี Kisei Main Line Kumanoshi Station ประมาณ 5 นาทีแล้วลงป้าย "Oniga-jo Higashiguchi"

http://onigajyo.jp/

15. Dorokyo (瀞峡)

Kzaral/Flickr

Dorokyo เป็นหุบเขาลึกขนาดใหญ่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำ Kumano River ธรรมชาติกับกำแพงหินที่สูงตระหง่านเป็นแนวดิ่งริมแม่น้ำก่อกำเนิดทิวทัศน์สุดประทับใจซึ่งหาได้เพียงแค่ที่นี่เท่านั้น ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะของสถานที่วิวสวยตั้งแต่สมัยโบราณ นอกจากนี้ก็ยังมีทัวร์ทางเรืออีกด้วย

การเดินทาง: โดยสารรถจากสถานี Kisei Main Line Kumanoshi Station มา 30 นาที

http://kumanoshi-kankoukyoukai.info/tour/db/spot/profile.cgi?_v=1413949600&tpl=view2

มนต์เสน่ห์ชูบุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan
นี่คือแอ็คเคาท์ทางการของ tsunagu japan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร