12 สถานที่ที่ต้องมาให้ได้เมื่อมาถึงฮิโรชิม่า!

1. เก็นบาคุโดม (Atomic Bomb Dome 原爆ドーム)

 PIXTA

เก็นบาคุโดม (Atomic Bomb Dome) ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1915 เพื่อใช้เป็นหอจัดแสดงผลิตผลท้องที่ในจังหวัดฮิโรชิม่า แต่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ก็ได้ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกจนทำให้กลายสภาพไปเป็นรูปลักษณ์ที่น่าสังเวช ซึ่งจากโครงเหล็กที่มีรูปทรงเป็นโดมที่ยังคงเหลืออยู่ ทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า “เก็นบาคุโดม (โดมระเบิดปรมาณู)” แล้วได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996

ที่ตั้ง : 1 Otemachi, Naka Ward, Hiroshima City, Hiroshima

2. สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park 広島平和記念公園)

 PIXTA

สวนสันติภาพฮิโรชิม่าแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ทำให้สัมผัสได้ถึงความปรารถนาไปสู่สันติภาพและความน่าสะพรึงกลัวของสงครามอีกแห่งหนึ่งนอกจากเก็นบาคุโดม พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum (広島平和記念資料館)) อนุสาวรีย์เหยื่อระเบิดปรมาณู (Cenotaph for the A-Bomb Victims (原爆死没者慰霊碑)) และเนินอนุสรณ์ระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Memorial Mound (原爆供養塔)) ไม่ว่าจะด้วยรูปปั้นเด็กที่ถูกระเบิดปรมาณูที่ชูนกกระเรียนพับขึ้นฟ้า รวมถึงระฆังแห่งสันติภาพที่สลักแผนที่โลกไร้พรมแดนไว้บนผิวของระฆัง เป็นต้น

ที่ตั้ง : 1 Nakajimacho, Naka Ward, Hiroshima City, Hiroshima

3. ศาลเจ้ามิยาจิมะ-อิสึคุชิมะ (Miyajima, Itsukushima Shrine 宮島・厳島神社)

 PIXTA

หนึ่งในไตรทรรศน์แห่งญี่ปุ่นก็คือเกาะมิยาจิมะแห่งอากิ (Aki no Miyajima เป็นชื่อเรียกหนึ่งของเกาะอิสึคุชิมะ) แห่งนี้นี่เอง ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine (厳島神社)) ที่ตั้งบนเกาะมิยาจิมะ (Miyajima (宮島)) นั้นสร้างขึ้นเมื่อปี 593 ซึ่งเป็นปีแรกในการครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดินีซุอิโกะ แล้วด้วยการปรับปรุงขนานใหญ่ในภายหลังจากนั้น ก็ทำให้กลายเป็นศาลเจ้าที่ลอยอยู่บนน้ำดังที่เห็นในปัจจุบัน ที่นี่มีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญและสมบัติของชาติอยู่มากมาย ในช่วงที่น้ำลงเราจะสามารถเข้าไปใกล้ๆ ได้

ที่ตั้ง : 1-1 Miyajimacho, Hatsukaiichi, Hiroshima

4. ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle 広島城)

 PIXTA

ปราสาทฮิโรชิม่าเป็นปราสาทที่โมริ เทรุโมโตะ สร้างขึ้นในสไตล์สถาปัตยกรรมสมัยโมโมยามะ ช่วงต้นด้วยเจตนาที่จะใช้ในการรบจริง ซึ่งมีกำแพงหินที่มีเส้นโค้งอยู่น้อยเป็นจุดเด่น โดยตัวปราสาทในปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณะขึ้นเมื่อปี 1958 ส่วนหอคอยกลางปราสาทก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งจากห้องสังเกตการณ์ที่ชั้น 5 (ชั้นบนสุด) นั้น ท่านสามารถชมวิวเมืองฮิโรชิม่าได้ทั่วเลย

ที่ตั้ง : 21-1 Motomachi, Naka Ward, Hiroshima City

5. สวนชุคเคเอ็น (Shukkeien 縮景園)

PIXTA

สวนชุคเคเอ็นแห่งนี้เล่าขานกันว่าได้สร้างจำลองแบบทะเลสาบตะวันตก ของจีนมาไว้ภายในสวน โดยในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคมจะมีดอกซากุระ สึสึจิ (ชวนชม) ชาคุนาเกะ (พันธุ์ไม้พุ่มชนิดหนึ่งมีดอกเป็นรูประฆัง) ให้ได้ชม ช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคมจะมีดอกบัว ดอกอายาเมะ (ไอริสญี่ปุ่น) และดอกอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย) ให้ได้ชม ช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายนจะมีดอกชา ดอกสึวาบุกิ (เลปเพิร์ดแพลนต์) และใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้ชม ส่วนในช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ก็จะมีดอกซาซันควา สึบากิ (คาเมลเลียญี่ปุ่น) และดอกบ๊วยที่มาเพิ่มสีสันสวยงามให้กับสวน

ที่ตั้ง : 2-11 Kaminoboricho, Naka Ward, Hiroshima City

6. โอโนมิจิ (Onomichi 尾道)

 PIXTA

โอโนมิจิเป็นเมืองที่แนวเขาต่ำทอดยาวไปในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และเนื่องจากภูเขานั้นอยู่ใกล้กับชายทะเลจึงมีเนินลาดชันอยู่มาก ทิวทัศน์หมู่เกาะที่ลอยอยู่เหนือทะเล Seto Inland Sea และภูเขาในชิโกกุ (Shikoku) นั้น ช่วยเยียวยาจิตใจให้ผู้คนที่มาเยือนได้อย่างดี อีกทั้ง ที่นี่ยังมีวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1,300 ปีอยู่หลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นเมืองวัดที่รองลงมาจากนารา หรือเกียวโต เลยก็ว่าได้

ที่ตั้ง : Onomichi City, Hiroshima

7. วัดเซ็นโคจิ (Senkoji 千光寺)

PIXTA

อุโบสถหลักในวัดเซ็นโคจินั้นบ้างก็ถูกเรียกว่า Akado (อุโบสถสีแดง) โดยมีพระประธานคือพระโพธิสัตว์คันนนปางพันกร ที่เป็นฮิบุตสึ (พระพุทธรูปที่โดยปกติแล้วไม่เปิดเผยออกสู่สาธารณชนยกเว้นในโอกาสพิเศษ) ซึ่งจะเปิดให้สักการะเพียงครั้งเดียวในรอบ 33 ปี นอกจากนี้ หอระฆังในวัดเซ็นโคจิที่เลื่องชื่อว่าเป็น “ระฆังแห่งเวลา” ที่คุ้นเคยในหมู่ผู้คนอย่างกว้างขวางว่าเป็นระฆังสำหรับการทำ “Jaya no Kane (หมายถึง การตีระฆัง 108 ครั้งในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่)” ในฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ก็เป็นจุดชมซากุระเลื่องชื่อ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ก็จะมีการจัดนิทรรศการตุ๊กตา Kikuningyo (หมายถึง ตุ๊กตาที่สวมชุดที่ทำจากดอกและใบของคิคุ ซึ่งก็คือเบญจมาศนั่นเอง) ขึ้นด้วย

ที่ตั้ง : 19-1 Nishitsuchidocho, Onomichi City, Hiroshima

8. ปราสาทฟุคุยามะ (Fukuyama Castle 福山城)

PIXTA

ที่นี่เคยเป็นปราสาทที่อยู่อาศัยของผู้ครองแคว้นรวมถึงเคยเป็นสถานที่ราชการของแคว้นบินโงะฟุคุยามะ Bingo-fukuyama ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 1622 โดยหอคอยกลางปราสาทได้มอดมลายลงจากการโจมตีทางอากาศเมื่อปี 1945 ตัวอาคารในปัจจุบันได้สร้างขึ้นมาใหม่จากคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมๆ กันกับหอคอย Tsukimi (月見櫓) และ Oyudono (Oyudono (御湯殿) หมายถึง ห้องอาบน้ำของเจ้านาย) ส่วนภายในหอคอยกลางปราสาทก็ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ปราสาทฟุคุยามะประจำเมืองฟุคุยามะ

ที่ตั้ง : 1 Marunouchi Fukuyama, Hiroshima

9. ทิวทัศน์ตัวเมืองทาเคฮาระ (Takehara 竹原)

PIXTA

เมืองทาเคฮาระแห่งนี้ถูกเรียกขานว่าเป็น “เกียวโตขนาดย่อมแห่งอากิ (Aki no shoukyoto)” ซึ่งมีอาคารที่เก่าแก่และดีงามหลงเหลืออยู่มากมาย ซึ่งในปัจจุบัน ทิวทัศน์เมืองที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายนี้ ได้กลายเป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์กลุ่มสิ่งปลูกสร้างแบบดั้งเดิมที่มีความสำคัญในเมืองทาเคฮาระ ท่านจะได้เห็นสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ทำให้สัมผัสได้ถึงยุคสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นอาคารประเภท Tsumairi (Tsumairi (妻入り) หมายถึง รูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีประตูทางเข้าอยู่ทางด้านหน้า) Hirairi (Hirairi (平入り) หมายถึง รูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีประตูทางเข้าอยู่ทางด้านข้าง) นางายะ Nagaya (Nagaya (長屋) หมายถึง บ้านที่มีรูปทรงยาวเป็นตึกแถว) และอาคารที่มีรั้วสูง เป็นต้น

ที่ตั้ง : Honmachi, Takehara, Hiroshima

10. พิพิธภัณฑ์การขนส่งฮิโรชิม่า (Hiroshima City Transportation Museum 広島交通科学館)

พิพิธภัณฑ์การขนส่งฮิโรชิม่าเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในธีมพาหนะและการขนส่ง โดยในตัวพิพิธภัณฑ์นั้นมีสิ่งจัดแสดงรูปแบบสัมผัสประสบการณ์จริง รวมถึงมีแบบจำลองของรถไฟ รถยนต์ เรือ เครื่องบิน อยู่มากกว่า 3,000 ชิ้น อีกทั้ง นอกตัวพิพิธภัณฑ์ก็ยังมีการจัดแสดงรถไฟฟ้าหมายเลข “654” ซึ่งเป็น 1 ในรถไฟฟ้า 4 ขบวนที่ถูกระเบิดแล้วยังคงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันอีกด้วย

ที่ตั้ง : 2-12-2 Chorakuji, Asaminami Ward, Hiroshima City

11. หุบเขาไทชาคุ (Taishaku Valley 帝釈峡)

PIXTA

หุบเขาไทชาคุเป็นอุทยานแห่งชาติที่แผ่กว้างไปทั่วโดยมีใจกลางเป็นหุบเขาที่แม่น้ำ Taishakugawa (帝釈川) และยังเป็นหุบเขาที่มีความยาวทั้งหมดถึง 18 กิโลเมตรเลยทีเดียว ที่นี่มีจุดที่น่าสนใจอยู่ที่ “สะพาน Onbashi (雄橋)” สะพานธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาจากน้ำในแม่น้ำที่มากัดกร่อนหินปูน และ “หุบเขา Dangyo (断魚渓)” ที่ให้ความหมายว่าปลาไม่สามารถว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นมาได้ ในฤดูใบไม้ผลิท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการเก็บใบไม้เปลี่ยนสี

ที่ตั้ง : Jinsekikogen-cho, Hiroshima / Tojocho, Shobara City

12. ศูนย์จัดการพื้นที่สีเขียวในจังหวัดฮิโรชิม่า-สวนพฤกษศาสตร์พื้นที่สีเขียวประจำจังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefectural greening plant park 広島県緑化センター・広島県立広島緑化植物公園)

สวนพฤกษศาสตร์พื้นที่สีเขียวประจำจังหวัดฮิโรชิม่าแห่งนี้ ได้เพาะปลูกพืชถึงกว่า 10,270 ชนิดประมาณ 203,860 ต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นที่รู้จักในฐานะจุดชมซากุระชั้นยอด ซึ่งท่านสามารถมาเพลิดเพลินไปกับการชมซากุระกว่า 50 ชนิดประมาณ 700 ต้นได้ จุดที่น่าสนใจของที่นี่อยู่ที่การชมซากุระที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ร่วง และใบไม้เปลี่ยนสีที่มีจุดน่าสนใจอยู่ที่ต้นโอโมมิจิ (เมเปิ้ลญี่ปุ่นขนาดใหญ่) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดนี้

ที่ตั้ง : 166-2 Fukudacho, Higashi Ward, Hiroshima City