10 ที่เที่ยวเด็ดที่ถ้าไม่ได้ไปก็เรียกว่าไปไม่ถึงจังหวัดอิชิคาว่า!

อิชิคาว่า (Ishikawa) เป็นจังหวัดในภูมิภาคที่อยู่ติดทะเลญี่ปุ่นอย่างโฮคุริคุ (Hokuriku) แม้จะเป็นจังหวัดที่อยู่นอกแผนเที่ยวของคนส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นที่ที่มีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมืองคานาซาว่าที่น่าจะคุ้นหูใครหลายๆ คน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 10 แห่งในอิชิคาว่าที่ต้องไปให้ได้สักครั้งมาไว้ในบทความนี้เแล้ว!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. สถานีคานาซาว่า [คานาซาว่า]

โดยทั่วไปแล้วสถานีรถไฟคงไม่ใช่จุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่กับสถานีคานาซาว่า (金沢駅) แน่นอน! ที่สถานีนี้มีโทริอิหรือซุ้มประตูสีแดงที่มักพบในศาลเจ้าอยู่ด้านหน้า และที่เก๋กว่าก็คือไม่ได้สร้างเป็นโทริอิแบบธรรมดา แต่ออกแบบใหม่ให้ดูโมเดิร์นขึ้นด้วย

สถานีคานาซาว่าไม่เพียงมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ในปี 2011 ยังได้รับการจัดอันดับจาก Travel + Leisure (นิตยสารท่องเที่ยวของอเมริกา) ให้เป็นสถานีรถไฟที่สวยเป็นอันดับที่ 6 ของโลกอีกด้วย

2. สวนเค็นโรคุเอ็น [คานาซาว่า]

อีกที่เที่ยวดังของคานาซาว่า สวนกว้างๆ ที่มาพร้อมกับทิวทัศน์สวยๆ การันตีด้วยดีกรี 1 ใน 3 สวนที่ดีในญี่ปุ่น สวนเค็นโรคุเอ็น (兼六園) ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) และได้รับการบูรณะเรื่อยมาภายใต้การดูแลของเจ้าขุนมูลนายผู้ครองเขตคางะ (Kaga) ในแต่ละฤดูก็จะเห็นภาพธรรมชาติที่มีความงดงามแตกต่างกันออกไป สามารถแวะมาชมได้ในทุกช่วงของปีโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเที่ยว

ตำราการจัดส่วนเก่าแก่ของจีน (ตำราที่เขียนในช่วงราชวงศ์ซ่ง อธิบายถึงสวนต่างๆ ในเมืองหลวงเก่าลั่วหยาง) ได้เขียนถึงคุณลักษณะที่สวนที่ดีควรมีเอาไว้ 6 อย่าง คือความกว้าง ความสันโดษ ความเก่าแก่ ลูกเล่น การใช้น้ำ และทัศนียภาพแนวกว้าง ซึ่งเจ้าสวนเค็นโรคุเอ็นแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสวนไม่กี่แห่งที่มีคุณสมบัติทั้ง 6 ข้อนี้ครบถ้วน

ถ้ามองจากไกลๆ เราก็จะได้เห็นเชือกที่สานเป็นรูปทรงกรวยแบบภาพด้านบน ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ทำไว้เพื่อปกป้องต้นไม้จากหิมะในภูมิภาคโฮคุริคุที่ค่อนข้างจะหนักนั่นเอง

 

เซอิซงคาคุ [คานาซาว่า]

เซอิซงคาคุ (成巽閣) คือสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่จะเปิดโอกาสให้เราได้เข้าไปชมบ้านแบบดั้งเดิมของตระกูลไดเมียว (ผู้ครองแคว้น มีอำนาจรองจากโชกุน) ภายในมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชั้นหลักที่สร้างแบบ buke-shoin (รูปแบบที่อยู่อาศัยในสมัยเอโดะ) หรือโถงทางเดินหางม้าที่ไม่มีเสาตั้งรับหลังคาปรากฏให้เห็นเลยตลอดความยาว 20 เมตร

เซอิซงคาคุอยู่ติดกับสวนเค็นโรคุเอ็น จะจัดทริปไปเยี่ยมชมในวันเดียวกันก็เป็นความคิดที่ดี

3. บ้านครอบครัวซามูไรโนมูระ [คานาซาว่า]

ในบรรดาบ้านเรือนที่เรียงรายอยู่ในชุมชนซามูไรนางามาจิ (Naga-machi Samurai District) บ้านโนมูระเป็นบ้านซามูไรหลังเดียวที่เปิดต่อสาธารณชน ตระกูลโนมูระเป็นตระกูลซามูไรที่รับใช้ผู้ครองแคว้นสืบมารุ่นต่อรุ่น และที่นี่ก็จะเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของซามูไรในญี่ปุ่นช่วงกลางศตวรรษที่ 19 นั่นเอง

ภายในบ้านมีรูปวิวทิวทัศน์ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินชื่อดัง ซาซากิ เซ็นเค (Sasaki Senkei) อยู่หลายผืน ที่สวนด้านในก็มีต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 400 ปี แม้ว่าตัวสวนจะค่อนข้างเล็ก แต่โดยรวมก็นับว่าสวยงามจับตา นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำชาให้เราได้ซื้อชาเขียวมาจิบเพลินๆ ระหว่างเข้าชมด้วย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. ปราสาทคานาซาว่า [คานาซาว่า]

ปราสาทคานาซาว่า (金沢城) ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบบนภูเขา เป็นแหล่งโบราณสถานแห่งชาติและเป็น 1 ใน 100 ปราสาทที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ปราสาทสร้างขึ้นในปี 1546 ส่วนตัวป้อมปราการหลักถูกเผาทำลายในปี 1602 และยังไม่ได้รับการบูรณะใดๆ

แต่ก่อนปราสาทนี้คือ Kanazawa Gobo ฐานทัพของอิกโก-อิกกิ (กลุ่มชาวบ้าน พระชินโต และขุนนางท้องถิ่นที่ต่อต้านการปกครองของซามูไร) ก่อนจะถูกพิชิตในปี 1508 โดยโอดะ โนบุนางะ (หนึ่งในซามูไรยอดฝีมือในยุคเซ็นโกคุ) ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าแคว้น และได้เปลี่ยนชื่อ Kanazawa Gobo เป็นปราสาทคานาซาว่า

Klook.com

5. วัดเมียวริวจิ (วัดนินจา) [เมืองคานาซาว่า]

วัดเมียวริวจิ (妙立寺) เป็นที่ตั้งของโรงเรียนพุทธศาสนานิชิเร็น (Nichiren) สร้างขึ้นในปี 1643 ตามบัญชาของมาเอดะ โทชิสึเนะ (Maeda Toshitsune) ผู้ครองแคว้นคางะรุ่นที่ 3

ที่นี่มีจุดประสงค์ในการสร้างอีกอย่างคือใช้เป็นปราสาทสำรองในยามฉุกเฉิน จึงมีกับดักและทางวงกตอยู่หลายแห่งและเป็นรู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือวัดนินจา แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนินจาแต่อย่างใด

ทางวัดไม่ได้เปิดให้เข้าชมอย่างอิสระ ถ้าใครอยากจะแวะไปเที่ยวก็อย่าลืมสมัครทัวร์ของวัดเอาไว้ล่วงหน้าล่ะ

6. หมู่บ้านฮิงาชิ ชายะ [คานาซาว่า]

ใครที่อยากได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ ก็ต้องที่นี่เลย! หมู่บ้านฮิงาชิ ชายะ (ひがし茶屋街) เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่จะให้เราได้ไปสัมผัสบ้านเรือนแบบญี่ปุ่นโบราณน่ารักๆ และยังมีรั้วขัดแตะสวยๆ ที่เรียกว่า Kimusuko ที่ชั้น 1 ของบ้านให้ชมด้วย

ที่นี่เคยเป็นแหล่งที่ผู้คนจะมาเลี้ยงฉลองและเพลิดเพลินไปกับการแสดงของเกอิชา (อาชีพของสตรีญี่ปุ่นในสมัยก่อน เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะและการดนตรี มีหน้าที่ปรนนิบัติแขก) และในปัจจุบันอาคารเหล่านี้บ้างก็เป็นร้านอาหาร บ้างก็เป็นร้านน้ำชาหรือร้านค้าต่างๆ ในช่วงกลางวันและกลางคืนก็จะมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป

7. พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21 คานาซาว่า [คานาซาว่า]

shin kawamura/Flickr

พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21 คานาซาวะ (21世紀美術館) เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายรูปแบบที่ไม่ใช่แค่ชมได้ แต่ยังเข้าไปสัมผัสได้ด้วย ตัวพิพิธภัณฑ์เองมีรูปร่างเหมือนจานบิน และเป็นสถานที่ที่ให้ความเพลิดเพลินได้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่

SEN/Flickr

หนึ่งในงานจัดแสดงที่อยู่ติดพิพิธภัณฑ์คืองานที่ชื่อว่า Swimming Pool เป็นงานศิลปะลวงตาที่ทำให้เรามองเห็นเหมือนกับว่ามีผู้คนกำลังเดินอยู่ที่ก้นของสระว่ายน้ำ

 

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. ศาลเจ้าโอยามะ [คานาซาว่า]

ศาลเจ้าโอยามะ (尾山神社) ถูกสร้างขึ้นเพื่อสักการะมาเอดะ โทชิอิเอะ (Maeda Toshiie) เจ้าครองแคว้นคางะที่เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในยอดขุนพลในช่วงศตวรรษที่ 16 มีเอกลักษณ์อยู่ที่ลักษณะสถาปัตยะกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างของญี่ปุ่น จีน และตะวันตก

กระจกสีเหนือประตูศาลเจ้าจะดูสวยงามเป็นพิเศษเมื่อมีการเปิดไฟในช่วงกลางคืน

9. วัดนาตาเดระ [โคมัตสึ]

วัดนาตาเดระ (那谷寺) ถูกสร้างขึ้นในปี 717 ในนามของไทโช (พระองค์หนึ่งในญี่ปุ่นยุคนารา ว่ากันว่าเป็นผู้แรกที่พิชิตยอดเขาฮาคุ) ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับบวงสรวงเทพีแห่งภูเขาฮาคุ เป็นวัดที่สวยงามและควรไปเห็นให้ได้กับตาสักครั้งโดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ตัววัดอยู่ใกล้กับถ้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหลายแห่ง และหนึ่งในนั้นก็เป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพธิดา Kannon ว่ากันว่าถ้ำแต่ละถ้ำสื่อถึงครรภ์ของมารดา โดยจิตวิญญาณของผู้คนจะกำเนิดขึ้นในครรภ์ (ถ้ำ) เหล่านี้ หลังจากเกิดไปเป็นมนูษย์แล้วก็จะกลับมาสู่ครรภ์ในเวลาต่อมาเมื่อถึงแก่ความตาย และในท้ายที่สุดก็จะเกิดใหม่อีกครั้งในถ้ำเหล่านี้เช่นเดิม

10. ยามานากะออนเซ็น [คางะ]

ถ้าพูดถึงบ่อน้ำพุร้อนในอิชิคาว่าแล้วก็คงคิดถึงที่ไหนไปไม่ได้นอกจากยามานากะออนเซ็น (山中温泉) ที่จะให้เราได้สัมผัสกับทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่น ธรรมชาติสวยๆ และออนเซ็นสุดแสนสบาย นอกจากนี้ยังสามารถหาชามาจิบพลางๆ ระหว่างเพลิดเพลินกับบรรยากาศโดยรอบได้ที่ Kakusenkei no Nodate ที่อยู่ในภาพด้านบน

หลังจากไปเที่ยวกันมาทั้งวัน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการใช้เวลาสักพักเพื่ออยู่นิ่งๆ พักผ่อนหย่อนกายใจในบ่อน้ำพุร้อนหรือที่อาบน้ำสาธารณะกว้างๆ อีกแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่าง Kakusenkei Gorge หรือวัด Io-ji อีกด้วย

นอกจากที่เราได้นำเสนอไป อิชิคาว่าก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกมาก มาถึงขนาดนี้ก็ต้องลองไปอิชิคาว่ากันดูสักครั้งแล้ว!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์ชูบุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Ai
Ai Ito
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร