งดงามไร้ที่ติ! 10 งานเทศกาลดอกไม้ไฟสุดอลังการในโตเกียว เพิ่มสีสันให้กับหน้าร้อนของคุณ!

10 งานเทศกาลดอกไม้ไฟยอดนิยมของโตเกียว

1. เทศกาลดอกไม้ไฟอาดาจิ (Adachi Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟอาดาจิ เป็นเทศกาลดอกไม้ไฟงานแรกที่จะจัดขึ้นในโตเกียวในแต่ละปี อีเวนต์อันน่าตื่นเต้นนี้จะทำให้คุณอึ้งไปกับดอกไม้ไฟกว่า 13,000 ดอก ที่ถูกจุดขึ้นฟ้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง!

ดอกไม้ไฟจำนวนมากจะถูกจุดขึ้นฟ้าต่อเนื่องกันสุดแสนประทับใจ ดึงดูดผู้คนกว่า 700,000 คน มาร่วมงาน โดยจะจัดขึ้นทุกๆ ปีที่ริมแม่น้ำอาราคาวะในเขตอาดาจิ คุณจะได้รับชมการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ กับสายน้ำที่ไหลไปอย่างช้าๆ ของแม่น้ำ

ไฮไลท์ของเทศกาลดอกไม้ไฟอาดาจินั้นได้แก่ชุดดอกไม้ไฟที่ชื่อ "W Niagara", "Starmine", และ "Climax" โดยที่ W Niagara เป็นดอกไม้ไฟที่ดูเหมือนกับละอองน้ำของน้ำตกไนแองการ่า ในขณะที่ Starmine เป็นดอกไม้ไฟที่ทรงพลังจนทำให้ผู้รับชมต่างตกตะลึง ในส่วนของ Climax นั้น เป็นดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นฟ้าไปพร้อมๆ กับเสียงดนตรี เป็นฟินาเล่ของงานเทศกาลที่จะทำให้คุณขนลุกอย่างแน่นอน เป็นเทศกาลที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์กลางแจ้งที่น่าตื่นเต้น!

2. เทศกาลดอกไม้ไฟคัตสึชิกะโนเรียว (Katsushika Noryo Fireworks Festival)

หากคุณต้องการสัมผัสกับประสบการณ์ในแบบสมัยก่อน เราขอแนะนำเทศกาลดอกไม้ไฟคัตสึชิกะโนเรียว ที่จะจัดขึ้นในคัตสึชิกะ มีการแสดงดอกไม้ไฟที่มีเสน่ห์ทำให้คุณหวนย้อนไปถึงอดีต

เทศกาลนี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่การจุดดอกไม้ไฟในระยะที่ใกล้กว่าเทศกาลดอกไม้ไฟอื่นๆ ในทุกๆ ปี ผู้คนเกือบ 700,000 คนต่างหาทางที่จะมาสัมผัสกับความรู้สึกสมจริงของดอกไม้ไฟเหล่านี้ อีกหนึ่งในวิธีเพลิดเพลินไปกับเทศกาลนี้คือ ชวนแฟนไปออกเดทในชุดยูกาตะ พลางชมดอกไม้ไฟและแม่น้ำเอโดกาวะ

จังหวะที่สวยที่สุดของเทศกาลดอกไม้ไฟคัตสึชิกะโนเรียวคือ โปรแกรมดอกไม้ไฟที่มีชื่อว่า “Mt. Fuji Niagara" ท้องฟ้าของโตเกียวจะส่องสว่างไปด้วยสีสันอันสดใสของดอกไม้ไฟสีขาว แดง และน้ำเงินขนาดใหญ่

เป็นเทศกาลเพียงแห่งเดียวที่คุณจะได้รับชมดอกไม้ไฟกว่า 13,000 ดอก ถูกจุดขึ้นฟ้าในระยะใกล้ และต่อเนื่องกันยาวนานถึง 1 ชั่วโมง ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวชมเมืองคัตสึชิกะในช่วงกลางวัน แล้วปิดท้ายด้วยเทศกาลดอกไม้ไฟในตอนเย็น !

3. เทศกาลดอกไม้ไฟโตเกียว เอโดะโมเดะ (Tokyo Fireworks Festival EDOMODE)

เทศกาลดอกไม้ไฟโตเกียว เอโดะโมเดะ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2018 ในฐานะหนึ่งในอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่สุดที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุคเอโดะ (1603-1868) เข้ากับเทคโนโลยีสุดโมเดิร์นและล้ำยุคของโตเกียว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านดอกไม้ไฟชั้นแนวหน้าที่ได้รับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี ได้มารวมตัวกันที่เทศกาลนี้ เพื่อจุดดอกไม้ไฟอันมีเอกลักษณ์ของตนขึ้นสู่ฟากฟ้า เป็นเทศกาลที่ควรพาครอบครัวหรือแฟนไปสัมผัสกับทิวทัศน์อันน่าตื่นตา !

เทศกาลนี้ยังมีไฮไลท์อื่นอยู่อีก ซึ่งก็คือ “Children’s Fireworks” ที่ภาพของดอกไม้ไฟถูกโปรแกรมขึ้นโดยเด็กๆ จะถูกจุดขึ้นไปท้องฟ้า โดย 10 งานที่สร้างขึ้นโดยเด็กๆ ผู้เข้าร่วม “Pro Star Kids” ชั้นเรียนเขียนโปรแกรมที่มี MrFusion เป็นสปอนเซอร์ จะถูกเลือกและจัดแสดงขึ้นต่อหน้าผู้เข้าชมเทศกาล

เป็นครั้งแรกในโลกที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดอกไม้ไฟจะจุดดอกไม้ไฟโดยอ้างอิงจากภาพที่เด็กๆ เป็นผู้ออกแบบ !

4. เทศกาลดอกไม้ไฟจินกูไกเอ็น (Jingu Gaien Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟจินกูไกเอ็นจัดขึ้นที่ Jingu Stadium เรื่อยมาจนถึงปี 2018 แต่ในปี 2019 นี้ บริเวณที่นั่งเสียเงินจะถูกย้ายไปที่ Jingu Softball Stadium แทน เทศกาลนี้น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากดอกไม้ไฟจะถูกจุดขึ้นไปพร้อมๆ กับการแสดงสดของเหล่าศิลปินชื่อดัง จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ถึงขนาดที่เรียกคนมาเข้าชมได้เกินล้านคนในทุกๆ ปี ตั๋วในส่วนของที่นั่งเสียเงินนั้นขายหมดเร็วมาก จึงควรหาข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!

เทศกาลนี้มีบูธและร้านค้าแผงลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อนที่ดอกไม้ไฟจะเริ่มขึ้น ขอแนะนำให้ไปที่สวนสาธารณะเมจิซึ่งมีร้านค้าแผงลอยอยู่มากมาย และซื้ออาหารตุนไว้ก่อน บริเวณทางเดินจากสถานีไกเอ็นมาเอะไป Jingu Stadium ก็มีร้านแผงลอยอยู่มากมายเช่นกัน เหมาะที่จะแวะดูในระหว่างเดินทางไปร่วมเทศกาล

หากคุณวางแผนที่จะมาเทศกาลนี้ ไม่ควรพลาดที่จะลอง "Pine Ice" (น้ำแข็งไสรสสับปะรด) ที่เป็นเมนูเด่นของ Jingu Stadium ทั้งยังให้ความสดชื่นช่วยต่อสู้กับอากาศร้อนชื้นภายในสนามกีฬาอีกด้วย

5. เทศกาลดอกไม้ไฟอิชิคาวะชิมินโนเรียว (Ichikawa Shimin Noryo Fireworks Festival)

ดอกไม้ไฟกว่า 14,000 ดอก จะถูกจุดขึ้นฟ้าในเทศกาลดอกไม้ไฟอิชิคาวะชิมินโนเรียว อีเวนต์นี้มีสถานที่รับชมอยู่ 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่อิชิคาวะ และเกียวโทคุ ภาพที่จะได้รับชมนั้นก็จะต่างกันออกไป

ทุกๆ ปีเทศกาลนี้จะมีโชว์ดอกไม้ไฟแบบดั้งเดิมแสนอลังการ ซึ่งประกอบไปด้วยชุดดอกไม้ไฟที่ชื่อว่า "Kiku" (เบญจมาศ), "Starmine", และอื่นๆ เราขอแนะนำให้รับชมที่อิชิคาวะ เนื่องจากอยู่ใกล้ที่จุดดอกไม้ไฟ คุณจะได้สได้สัมผัสกับความน่าตื่นเต้นของดอกไม้ไฟได้อีกระดับ !

นอกจากนี้ยังเดินทางเข้าถึงได้ง่าย อยู่ห่างสถานีรถไฟโดยเดินเพียง 15 นาที อย่างไรก็ตาม ในวันเทศกาลก็จะคับคั่งไปด้วยผู้คน หากคุณต้องการเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ไฟอย่างเงียบๆ ในระยะไกลแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้รับชมที่เกียวโทคุ

ไฮไลท์ของเทศกาลดอกไม้ไฟนี้คือ ชุดดอกไม้ไฟในช่วงเปิดเทศกาล ดอกไม้ไฟแบบ Starmine จำนวนกว่า 1,000 ลูกจะถูกจุดขึ้นฟ้าเป็นเวลา 5 วินาที จาก 10 จุดด้วยกัน เป็นผลงานศิลปะชั้นเลิศให้คุณได้ชื่นชม รวดเร็วและงดงามจนห้ามกะพริบตา !

เทศกาลนี้ประกอบไปด้วย 8 ธีม ซึ่งหนึ่งในนั้้นก็คือโปรแกรมช่วงเปิดเทศกาลนั่นเอง คุณจะรู้สึกว่าการแสดงระยะเวลา 45 นาทีนี้ผ่านไปเร็วมาก ! และในช่วงสุดท้าย ท้องฟ้าจะถูกแต่งแต้มสีสันไปด้วยดอกไม้ไฟสีสันสดใสที่ดูราวกับว่าเป็นสายฝนของเส้นแสง เพลิดเพลินไปกับดอกไม้ไฟอันมีเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้ และอย่าลืมที่จะรับชมไปจนถึงตอนจบ !

6. เทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ทุกๆ ปีมีผู้มาเข้าชมกว่า 950,000 คน ผู้คนในโตเกียวต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีเทศกาลดอกไม้ไฟไหนที่เหมือนกับเทศกาลนี้ เคล็ดลับความนิยมของมันก็คือบรรยากาศแสนมีชีวิตชีวา โดยดอกไม้ไฟกว่า 20,000 ดอก ถูกจุด ณ ใจกลางตัวเมือง โดยนักทำดอกไม้ไฟระดับมืออาชีพ ไอเดียอันแปลกใหม่ของพวกเขาเหล่านี้จะทำให้คุณละสายตาไปจากท้องฟ้าไม่ได้เลยทีเดียว ! 

นอกจากนี้ ภาพของดอกไม้ไฟที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำก็น่าตื่นตาไม่แพ้กัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเทศกาลนี้จะกลายเป็นความทรงจำช่วงท้ายเดือนกรกฏาคมอันน่าจดจำของคุณอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรลองให้ได้คือร้านอาหารแผงลอยของเทศกาลนี้ หนึ่งในสินค้าที่เราขอแนะนำคือ "ราเมงเบอร์เกอร์" เป็นเบอร์เกอร์ที่เครื่องราเมงถูกประกบด้วย "ขนมปัง" ที่ทำขึ้นโดยการนำเส้นราเมงไปผัดและอัดเป็นก้อน ! หากพบแล้วล่ะก็ไม่ควรพลาด ! 

7. เทศกาลดอกไม้ไฟฮาจิโจจิมะโนเรียว (Hachijojima Noryo Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟฮาจิโจจิมะโนเรียว เป็นงานแสดงดอกไม้ไฟในโตเกียวที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันสักเท่าไร ณ ฮาจิโจจิมะ เกาะอันโด่งดังจากน้ำทะเลที่ใสสะอาด เทศกาลฤดูร้อนนี้จะจัดขึ้นที่เกาะดังกล่าวเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 2 วัน ขอแนะนำให้ลองแวะมาสักวันเพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์รอบๆ ซึ่งไม่มีไฟถนนมาบดบังวิวเหมือนอย่างในเมือง พร้อมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวให้คุณดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดพิเศษ

เทศกาลนี้มีโปรแกรมแสนเพลิดเพลินมากมายก่อนที่ดอกไม้ไฟจะเริ่มขึ้น รวมไปถึงบูธและร้านแผงลอยที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นเทศกาลเล็กๆ ที่มีดอกไม้ไฟเพียง 811 ดอก แต่ก็จะถูกจุดขึ้นจากริมตลิ่งของเกาะ คุณจึงสามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด อาจจะตื่นเต้นกว่างานเทศกาลอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ ! 

ภาพสะท้อนของดอกไม้ไฟบนผิวน้ำก็ดูราวกับเป็นผลงานศิลปะ ฟินาเล่ของเทศกาลนี้เป็นดอกไม้ไฟรูปดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าของเกาะฮาจิโจจิมะทั้งเกาะ  ลองมารับชมดอกไม้ไฟพลางเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติของฮาจิโจจิมะดูหน่อยไหม ?

8. เทศกาลดอกไม้ไฟโคโตะ (Koto Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟโคโตะ ดอกไม้ไฟที่ทั้งใหญ่และทรงพลังกว่า 4,000 ดอก จะถูกจุดขึ้นฟ้าในเทศกาลนี้ สามารถเดินทางมาที่เทศกาลนี้ได้จากป้าย Higashisuna Go-chome และ Roku-chome ของรถบัสสายโทเอ โดยเดินเพียงแค่ 6 นาที ด้วยความสะดวกนี้จึงดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาเข้าร่วมในทุกๆ ปี

สถานที่รับชมดอกไม้ไฟของเทศกาลนี้คือ สวนสาธารณะอาราคาวะซึนะมาจิมิสุเบะ (Arakawa Sunamachi Mizube) ซึ่งมีพื้นที่ริมน้ำกว้างขวาง คุณสามารถปูเสื่อและรับชมดอกไม้ไฟอย่างสบายๆ ได้ เนื่องจากทุกๆ ปีมีผู้มาเข้าชมกว่า 300,000 คน จึงขอแนะนำให้ไปก่อนเวลาเพื่อทำการจองที่ไว้แต่เนิ่นๆ

บริเวณรอบๆ สถานีมินามิซึนะมาจินั้นมีบูธและร้านค้าแผงลอยตั้งอยู่ ขอแนะนำให้แวะไปซื้อก่อนที่การแสดงดอกไม้ไฟจะเริ่มขึ้น คุณจะพบกับบูธขายของกินประจำเทศกาลอย่างสายไหม ยากิโซบะ และน้ำแข็งไส เรียงรายเต็มไปหมด

จุดที่เราขอแนะนำที่สุดในการรับชมดอกไม้ไฟ และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักก็คือ บน "ยะไตบุเนะ" เรือที่มีลักษณะคล้ายกับเรือสำหรับจัดงานปาร์ตี้ คุณจะได้รับชมดอกไม้ไฟที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำสุดอลังการ ทั้งยังอยู่ใกล้กับที่จุดดอกไม้ไฟมากกว่าจุดรับชมในสวนสาธารณะอาราคาวะซึนะมาจิมิสุเบะอีกด้วย !

9. เทศกาลดอกไม้ไฟอิตะบาชิ (Itabashi Fireworks Festival)

เทศกาลดอกไม้ไฟอิตะบาชิ จะจัดขึ้นพร้อมๆ กันทั่วเมืองโทดะของไซตามะ และอาราคาวะของโตเกียว คุณจะได้สัมผัสกับโชว์ดอกไม้ไฟแสนหรูหราโดยดอกไม้ไฟกว่า 12,000 ลูก หนึ่งในไฮไลท์ของงานนี้คือดอกไม้ไฟที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำขึ้นโดยเหล่านักทำดอกไม้ไฟที่ผ่านการประกวดดอกไม้ไฟทั่วประเทศมาอย่างนับไม่ถ้วน

ทุกๆ ปีผู้คนจะมารวมตัวกันเพื่อรับชมดอกไม้ไฟดังกล่าวนี้ ซึ่งจะถูกจุดขึ้นฟ้ากลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ยาวนานกว่า 10 นาที นอกจากนี้ คุณยังจะได้ตื่นตาไปกับดอกไม้ไฟ โกะชาคุดามะ (Goshakudama) 4 ลูก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโตเกียวเลยทีเดียว

ไฮไลท์ของเทศกาลดอกไม้ไฟอิตะบาชิคือ “Great Niagara Falls” ที่ผู้คนทั่วญี่ปุ่นต่างพากันเดินทางมาเพื่อรับชม เป็นดอกไม้ไฟที่กระจายตัวไปถึง 700 เมตร มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต !

เทศกาลนี้จะปิดตัวลงด้วยดอกไม้ไฟแบบ Starmine ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “Niagara in the Sky” ต่างกับ Starmine ทั่วๆ ไป กล่าวกันว่าดอกไม้ไฟนี้จะปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าของอิตะบาชิเลยทีเดียว

10. เทศกาลดอกไม้ไฟโอคุทามะโนเรียว (Okutama Noryo Fireworks Festival)

จุดรับชมเทศกาลดอกไม้ไฟโอคุทามะโนเรียวอยู่ห่างจากสถานีโอคุทามะของรถไฟสาย JR โอเมะ โดยเดินเพียง 3 นาที ดอกไม้ไฟจะถูกจุดขึ้นจากยอดเขาอาทาโกะ และทั่วทั้งโอคุทามะจะถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ไฟสีสันสดใส โดยจะมีการจุดดอกไม้ไฟ 1,000 ดอก ในระยะเวลา 35 นาที เป็นเทศกาลเล็กๆ ที่ได้รับความนิยมเรื่อยมาของโตเกียว

นอกจากดอกไม้ไฟแล้ว ยังมีเทศกาลฤดูร้อนจัดขึ้นพร้อมๆ กันอีกด้วย ซึ่งจะมีทั้งร้านแผงลอย บูธ ศาลเจ้า และจุดน่าสนใจอีกมากมาย การันตีได้ว่าคุณจะต้องพบกับค่ำคืนที่น่าพึงพอใจ

รับชมดอกไม้ไฟบนท้องฟ้าไปพลางทานของกินเล่นอร่อยๆ และเบียร์เย็นๆ โดย Earth Garden เป็นร้านลับที่ต้องแวะมาให้ได้ของที่นี่ คุณจะได้ชื่นชมดอกไม้ไฟท่ามกลางธรรมชาติ พลางดื่มด่ำไปกับพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย ในกรณีที่คุณแวะมาในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ขอแนะนำให้ออกไปนั่งที่นั่งนอกระเบียง เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หรูหรา พลางชื่นชมดอกไม้ไฟไปพร้อมๆ กัน

เทศกาลดอกไม้ไฟของปีนี้จะอัดแน่นไปด้วยความน่าตื่นเต้น!

บทความนี้ได้พาคุณไปรู้จักกับ 10 เทศกาลดอกไม้ไฟที่ควรจับตามองของฤดูร้อนนี้ ทุกเทศกาลล้วนแต่อัดแน่นไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมายที่คุ้มค่าแก่การเข้าชม ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นมารวมตัวกันที่โตเกียวเพื่อรับชมเทศกาลเหล่านี้ในทุกๆ ปี ลองมาเที่ยวเทศกาลดอกไม้ไฟของโตเกียวเพื่อสร้างความทรงจำฤดูร้อนอันยากที่จะลืมเลือนดูนะ !

 

แปลและเผยแพร่ซ้ำโดยได้รับการอนุญาตจาก：Relux Magazine

 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา คุณสามารถติดต่อและติดตามเราได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม