ดูออกไหมว่าฟูจิภาพไหนของจริง อันไหนตัดต่อ?

ภูเขาไฟฟูจิ ทิวทัศน์อันโดดเด่นของญี่ปุ่นที่ปรากฏอยู่ในงานศิลปะต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากภาพถ่ายของภูเขาสูงอันดับ 1 ของญี่ปุ่นนี้จะกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ แต่ในอีกด้านก็มีภาพที่ดูจะสวยเกินจริงอยู่เหมือนกัน คุณสามารถแยกออกไหมว่าฟูจิไหนจริง ฟูจิไหนตัดต่อ? มาลองทดสอบกันจากรูปภาพเหล่านี้ ความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้นะ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. ศาลเจ้ากับวิวหนึ่งล้านดอลลาร์

เฉลย: ของจริง

ทิวทัศน์นี้อาจดูสวยสมบูรณ์แบบเกินจริงไปสักหน่อย แต่มันก็เป็นภาพจริงที่ไม่ได้ผ่านการตัดต่อแต่อย่างใด

เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda) ในภาพนี้ตั้งอยู่ในเมืองฟูจิโยชิดะ ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิในจังหวัดยามานาชิ เป็นเจดีย์ห้าชั้นที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม

สวนอาราคุระยามะเซ็นเก็น (Arakurayama Sengen Park) ที่เป็นที่ตั้งของเจดีย์นั้น นอกจากจะโด่งดังเพราะวิวของภูเขาไฟฟูจิแล้ว ยังเป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่ยอดเยี่ยม และยังมีวิวยามค่ำคืนของเมืองฟูจิโยชิดะให้ชมกันอีกด้วย

แม้ว่าเจดีย์นี้จะถูกสร้างขึ้นในปี 1963 แต่ศาลเจ้าอาราคุระยามะเซ็นเก็นที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้นมีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงปี 705 เป็นพื้นที่เก่าแก่ที่มีซากุระกว่า 650 ต้นเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ

2. ภูเขาไฟฟูจิคู่กับตึกระฟ้าโตเกียว

เฉลย: ตัดต่อ

ภาพของภูเขาไฟฟูจิที่ปกคลุมเหนือตึกระฟ้าโตเกียวนั้นมีให้พบเห็นได้มากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต น่าเสียดายที่รูปเหล่านี้เป็นภาพตัดต่อทั้งหมด แม้ว่าคุณจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียวได้ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ก็เป็นเพียงทิวทัศน์ระยะไกล ไม่ได้ใหญ่โตอลังการเหมือนในภาพด้านบนนี้แน่

หากดูที่มุมบนซ้ายของภาพนี้ จะเห็นว่าสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียวในวันที่อากาศปลอดโปร่งได้จริง ภาพนี้ถ่ายจากจุดชมวิวของตึก Tokyo Bunkyo Civic Center เป็นชั้นชมวิวในระดับความสูง 105 เมตร ที่สามารถมองเห็นตั้งแต่ตึกสูงๆ ในโตเกียวไปจนถึงภูเขาไฟฟูจิที่ห่างออกไปได้เลย ที่สำคัญคือที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรีด้วย!

3. ภูเขาไฟฟูจิจากใจกลางเมือง

เฉลย: ของจริง

ในขณะที่คุณไม่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากท้องถนนของโตเกียวได้ แต่หากเป็นถนนฮอนโจ (Honcho Street) ในเมืองฟูจิโยชิดะแล้วล่ะก็ ทำได้อย่างแน่นอน! เป็นที่รู้กันดีว่าที่นี่มีทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิที่สามารถมองลอดผ่านย่านการค้าน่ารักๆ ไปได้

การเดินทางไปยังส่วนนี้ของเมืองใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีจากสถานีชิโมะโยชิดะ ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดของเจดีย์ชูเรโตที่เราเพิ่งกล่าวถึงไป หากคุณได้มาแถวนี้เพื่อชมวิวภูเขาไฟฟูจิแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาถ่ายรูปที่นี่ด้วย!

ตำแหน่งของรูปด้านบนนี้ คือ ถนนการค้าฮอนโจนิโจเมะ (Honcho 2-Chome Shopping Street) เป็นบริเวณที่มีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศแนวย้อนยุค เรียงรายไปด้วยผ้าใบบังแดดและป้ายร้านค้าแบบสมัยก่อน บางคนถึงกับกล่าวว่าเหมือนได้เดินทางย้อนเวลาเลยทีเดียว เราแนะนำให้ออกไปถ่ายรูปตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีรถและคนน้อย แล้วยังมีแสงอาทิตย์เสยมาจากมุมต่ำซึ่งช่วยให้ภูเขาดูน่าหลงใหลมากขึ้นอีกด้วย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. ภาพสะท้อนอันนิ่งสงบของภูเขาไฟฟูจิ

เฉลย: ของจริง

ภูเขาไฟฟูจินั้นรายล้อมไปด้วยทะเลสาบงดงามหลายแห่ง ในเวลาที่น้ำนิ่งคุณจะถ่ายภาพที่งดงามเช่นนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งการตัดต่อ ภาพที่เห็นอยู่นี้ถูกถ่ายที่ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchi) ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดัง ภาพของภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนอยู่บนทะเลสาบเหล่านี้เป็นทิวทัศน์ที่โด่งดังมาก ถึงขนาดที่มีชื่อเล่นเป็นของตัวเองว่า "ฟูจิกลับหัว" นอกจากนี้ วิวดังกล่าวจากทะเลสาบโมโตสุโกะยังได้ขึ้นไปอยู่ในแบงค์ 1,000 เยนอีกด้วย

ทะเลสาบคาวากุจิโกะอาจดูเหมือนอยู่ลึกเข้าไปในป่า แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางไปกลับจากโตเกียวได้ภายในวันเดียว หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม เราขอแนะนำให้ตามไปอ่านบทความนี้ซึ่งมีแนะนำวิธีการเดินทางในหลากหลายงบประมาณ พร้อมบอกจุดถ่ายรูปลับๆ และข้อมูลร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูท้องถิ่นที่ห้ามพลาดด้วย!

Klook.com

5. ภาพปราสาทที่เชิงเขาฟูจิ

เฉลย: ตัดต่อ

ภาพถ่ายนี้ดูเหมือนหลุดออกมาจากหนังประวัติศาสตร์ แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงภาพตัดต่อเท่านั้น ปราสาทที่เห็นนี้ คือ ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) ในจังหวัดฟุคุชิมะ ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟฟูจิถึง 400 กิโลเมตร

ปราสาทสึรุกะเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ปราสาทไอสึวากามัตสึ (Aizuwakamatsu Castle) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไอสึวากามัตสึของจังหวัดฟุคุชิมะ ที่นี่เคยถูกใช้เป็นป้อมปราการมาตั้งแต่ปี 1384 และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่จนกลายมาเป็นปราสาทที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

ปราสาทสึรุกะสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1593 ดูโดดเด่นด้วยหลังคาแดงที่สวยงามและรูปร่างแบบป้อมที่มีถึง 7 ชั้น ให้ความรู้สึกอลังการจนเข้าใจได้ว่าทำไมถึงมีคนนำไปตัดต่อคู่กับภูเขาไฟฟูจิ

ภายในปราสาทจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของตัวปราสาทและวัฒนธรรมซามูไร และคุณยังสามารถขึ้นไปยังชั้นบนสุดเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบได้อีกด้วย ภายในพื้นที่มีร้านชาเก่าแก่ที่ชื่อว่า รินคาคุ (Rinkaku Teahouse) เปิดให้บริการอยู่ จะแวะมาชมตัวอาคารและสวนของร้านเฉยๆ หรือมานั่งจิบชาพร้อมทานขนมแสนอร่อยไปด้วยก็ได้

6. ภาพอาทิตย์อัสดงอันน่าพิศวง

เฉลย: ของจริง

"ฟูจิเพชร (Diamond Fuji)" เป็นชื่อเล่นท้องถิ่นของปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ตกลงหลังยอดภูเขาไฟฟูจิอย่างพอดิบพอดี ในช่วงสนธยาของกลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนกุมภาพันธ์ คุณสามารถชมพระอาทิตย์ที่ส่องประกายราวกับเพชรที่ตกลงมาซ้อนอยู่บนยอดเขา ภาพที่เห็นอยู่นี้เป็นภาพที่ถ่ายจากทะเลสาบยามานากาโกะ (Lake Yamanaka)

อีกปรากฏการณ์หนึ่งที่คล้ายกัน คือ "ฟูจิไข่มุก (Pearl Fuji)" ที่พระจันทร์เต็มดวงลอยไปอยู่ใกล้ๆ กับยอดภูเขาไฟฟูจิ เป็นปรากฏการณ์ที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานกว่าฟูจิเพชรที่ส่องประกายเจิดจ้า แถมยังหาชมได้ยากกว่าด้วย หากคุณแวะไปบริเวณนี้ในช่วงที่มีพระจันทร์เต็มดวง เราขอแนะนำให้อยู่รอชมปรากฏการณ์นี้ดูสักครั้ง ปรากฏการณ์นี้สามารถชมได้ทั้งช่วงพระอาทิตย์ตกดินและช่วงเช้า ภาพที่เห็นอยู่นี้ก็เป็นภาพที่ถ่ายจากทะเลสาบยามานากาโกะในช่วงเช้าตรู่นั่นเอง

สำหรับเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ของภูเขาไฟฟูจิ เราแนะนำให้ไปอ่านต่อใน 12 ความลับเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิที่น้อยคนจะรู้ รู้ไหมว่าใน 1 ปีจะมีอยู่หนึ่งวันที่หากคุณฝันถึงภูเขาไฟฟูจิในวันนั้นแล้วจะทำให้โชคดีด้วยนะ

ทายถูกกันบ้างไหม?

ไม่ว่าจะทายถูกหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่เราน่าจะเห็นตรงกัน คือ ภูเขาไฟฟูจินั้นมีความสวยงามโดดเด่นในตัวมันเองอยู่แล้วแม้จะไม่ผ่านการตัดต่อ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมมรดกโลกที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นนี้ถึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิ เราแนะนำให้ตามไปอ่านบทความ คู่มือการปีนภูเขาไฟฟูจิฉบับสมบูรณ์ซึ่งครอบคลุมทุกเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเดินทาง การปีนภูเขาไฟฟูจิ และการท่องเที่ยวในบริเวณรอบๆ

ในปี 2020 นี้ภูเขาไฟฟูจิถูกปิดไม่ให้ปีนเขา ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หากคุณอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ตามไปตรวจสอบได้ที่ สรุปสถานการณ์ปัจจุบันของเรา


หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์ชูบุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Rebecca
Rebecca
นักเขียนและนักแปลชาวออสเตรเลียที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเกียวโต มีงานอดิเรกเป็นการเดินทางโดยรถไฟ ร้องคาราโอเกะ และดูหนังสยองขวัญ
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร