Nakiryu ราเมงมิชลินสตาร์ในราคาแค่ 300 บาท! ในโตเกียวที่สายกินห้ามพลาด

ดาวมิชลิน (Michelin star) เป็นรางวัลที่ถูกมอบโดยบริษัทผลิตยางรถยนต์ Michelin เพื่อการันตีคุณภาพและรสชาติของร้านอาหารมาเป็นเวลากว่าร้อยปี รางวัลนี้ขึ้นชื่อในบรรดาเชฟดังๆ ทั่วโลกถึงความยากสุดหฤโหดของเกณฑ์การให้ดาวแต่ละดวง ทำให้เมื่อพูดถึงร้านอาหารมิชลิน หลายคนคงนึกไปถึงภัตตาคารหรูระดับ fine dining ราคาแพงระยับ แต่ที่ร้าน Nakiryu (นากิริว) ที่ tsunagu Japan นำมาแนะนำในบทความนี้ คือร้านราเมงดาวมิชลินหนึ่งดวงในกรุงโตเกียว ที่เสิร์ฟอาหารในราคาสุดเป็นกันเอง อย่างเมนูคลาสสิก "ทันทันเมง (坦々麺)" หรือราเมงซุปรสเผ็ดเข้มข้นออนท็อปด้วยหมูสับปรุงรส ก็ถูกตั้งราคาไว้ที่เพียง 900 เยนหรือประมาณ 300 บาทเท่านั้น! รู้อย่างนี้แล้วบอกเลยว่าสายกินต้องห้ามพลาดเลยเชียวล่ะ ถ้าพร้อมแล้วมารู้จักร้านราเมงมิชลินร้านนี้ไปพร้อมๆ กันเลย!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

รีวิวเมนูไฮไลท์ร้าน Nakiryu (นากิริว) ไปทั้งทีต้องเก็บให้ครบ!

มาร้านดังขนาดนี้ หลายคนคงอยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าเมนูไฮไลท์ของร้านมีอะไรบ้าง? ต่อไปนี้จะเป็นการแนะนำเมนูไฮไลท์ที่ทีมงาน tsunagu Japan ได้ไปทานมา และอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองสั่งมาทานกันดูสักครั้ง

เมนูราเมง 1: Tantanmen + Deluxe Topping (900 + 500 เยน)

มาร้านดังทั้งที ก็ต้องมาลองเมนูคลาสสิกของทางร้านใช่ไหมล่ะ! Tantanmen เป็นเมนูราเมงที่เสิร์ฟมาพร้อมซุปรสเข้มข้นกลิ่นหอมกรุ่นจากงาและพริกไทยแดง เส้นราเมงมีขนาดเล็ก เหนียวนุ่ม และมีความอุ้มน้ำ ซึ่งเข้ากันได้อย่างดีกับความเผ็ดร้อนของตัวน้ำซุป กลิ่นหอมของงาและพริกไทยแดงจะแรกซึมเข้าไปในเนื้อหมูชาชูในเซ็ต Deluxe Topping ซึ่งทันทีที่ได้ทานคำแรกก็หมดข้อสงสัยทันทีว่าทำไมร้านนี้จึงเป็นร้านราเมงเพียงไม่กี่ร้านในโลกที่ได้รับดาวมิชลิน 

ความพิเศษของการสั่ง Tantanmen คู่กับเซ็ต Deluxe Topping คือคุณจะได้ลิ้มลองท็อปปิ้งหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมูชาชูสไลซ์ หมูชาชูเทริยากิ ลูกชิ้นเนื้อเป็ด ไข่ต้มโชยุ เกี๊ยวกุ้ง และผักใบเขียวต้ม อย่างละนิดอย่างละหน่อย ในราคาเพียงแค่ 500 เยน หากลองแล้วถูกใจท็อปปิ้งอันไหน ก็สามารถลุกไปสั่งเพิ่มได้เลยทันทีที่เครื่องกดตั๋วอัตโนมัติ

เมนูราเมง 2: Mala Tantanmen (950 เยน)

หากคุณเป็นคนที่ชอบรสชาติเผ็ดร้อน และคิดว่า Tantanmen ปกติยังเข้มข้นไม่สะใจคุณแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ Mala Tantanmen หรือเมนู Tantanmen ที่เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยผงพริกหมาล่าลงไป ความเผ็ดและความชาจากหมาล่าจะช่วยให้รสชาติของน้ำซุป Tantanmen มีมิติเพิ่มขึ้นอีก จัดว่าเป็นเมนูห้ามพลาดสำหรับแฟนๆ หมาล่าเลยทีเดียว

แน่นอนว่าคุณสามารถเพิ่มเงินอีก 500 เยนเพื่อเพิ่มเซ็ต Deluxe Topping ได้เช่นเดียวกับเมนู Tantanmen ปกติ

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าทางร้านจำกัดให้สั่งเมนูราเมงได้เพียง 1 ชามต่อ 1 คนเท่านั้น คุณจึงอาจจะต้องตัดสินใจเลือกเมนูที่คุณต้องการก่อนเข้าร้าน หรือหากมากันหลายคนอาจใช้วิธีสั่งมาเพื่อแชร์กันให้ได้ลองหลากหลายเมนู แต่ไม่ว่าจะเลือกเมนูไหน เรารับประกันว่าคุณจะไม่รู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน!

เมนูท็อปปิ้ง: หมูชาชูย่างแผ่นหนา (500 เยน)

เมนูนี้เกิดจากการที่ทีมงาน tsunagu Japan ได้ลิ้มลองท็อปปิ้งต่างๆ ในเซ็ต Deluxe Topping แล้วลงความเห็นว่า เมนูหมูเทริยากิคือสุดยอดท็อปปิ้งที่ไม่ควรพลาด จึงได้ตรงไปที่เครื่องกดตั๋วอัตโนมัติเพื่อสั่งเพิ่มมาทันที หมูชาชูแทรกมันแผ่นหนาที่ถูกนำไปย่างบนไฟจนขึ้นลายนิดๆ แค่เห็นหน้าตาก็แทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว

ทันทีที่คุณคีบเจ้าชาชูแผ่นหนานี้เข้าปาก คุณจะได้กลิ่นหอมของการย่างผสานไปกับกลิ่นของมันที่แทรกในเนื้อที่จะค่อยๆ แผ่ซ่านออกมาในทุกการเคี้ยวของคุณ และด้วยความที่เป็นหมูชาชู จึงรับประกันได้ถึงความนุ่มของเนื้อแบบที่คุณจะไม่เสียดายเวลาที่ต่อคิวมาอย่างแน่นอน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดด้วยประการทั้งปวง

เมนูข้าว: ข้าวหน้าหมูชาชูซอสวาซาบิมาโย (400 เยน)

เมนูข้าวสำหรับคนที่ยังไม่จุใจจากราเมง ไฮไลท์ของเมนูนี้คือชาชูสไลซ์บางที่โปะมาให้บนข้าวอย่างไม่มีหวง พร้อมราดซอสวาซาบิมาโยรสละมุนที่เข้ากับเนื้อหมูได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และปิดท้ายด้วยต้นหอมซอยที่เพิ่มกลิ่นและสีสันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นเมนูเสริม จึงถูกเสิร์ฟมาในไซส์ที่ไม่ใหญ่นัก ใครที่รู้สึกว่ายังเหลือพื้นที่กระเพาะอีกนิดหน่อยหลังจัดการราเมงไปแล้ว ลองสั่งมาแบ่งกันทานก็ถือเป็นเมนูปิดท้ายมื้ออาหารที่ไม่เลวเลยล่ะ!

เจาะลึกเมนูร้าน Nakiryu

แต่นอกจากเมนูที่แนะนำไปข้างต้นแล้ว ร้าน Nakiryu ยังมีเมนูเด็ดๆ อีกมากมายให้เหล่านักชิมได้มาสำรวจและลิ้มลองด้วยตัวเอง

เมนูราเมงของร้าน Nakiryu นี้จะถูกแบ่งคร่าวๆ ตามประเภทซุปออกเป็นสามประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ ราเมงซุปเผ็ด ราเมงซุปโชยุ และราเมงซุปเกลือ แต่นอกจากเมนูราเมงแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือท็อปปิ้งหลากชนิดที่เราสามารถเลือกเพิ่มเข้าไปเพื่อเสริมรสชาติให้กับชามราเมงของเรานั่นเอง แถมที่นี่ยังมีเมนูข้าวสำหรับใครที่ยังไม่จุใจกับราเมงให้ได้สั่งเพิ่มได้อีกด้วย!

ราเมงแต่ละประเภทมีวัตถุดิบที่แตกต่างกัน หากคุณมีประวัติการแพ้อาหารบางชนิด คุณสามารถเช็กรายละเอียดวัตถุดิบที่อยู่ในราเมงแต่ละชามได้ที่หลังเมนูที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ โดยข้อมูลทั้งหมดมีเขียนไว้ทั้งในภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ

และเนื่องจากร้าน Nakiryu แห่งนี้ได้รับความนิยมถึงขนาดที่หลายคนยอมลงทุนเดินทางไกลมาเพื่อให้ได้ลิ้มรสราเมงในตำนานแห่งนี้ ทางร้านจึงมีความจำเป็นที่ต้องจำกัดปริมาณให้ 1 คนสามารถสั่งราเมงได้ไม่เกิน 1 ชาม และเติมเส้นได้ไม่เกิน 1 ครั้ง ส่วนท็อปปิ้งและเมนูข้าวสามารถสั่งได้ตามที่ต้องการ การศึกษาเมนูของทางร้านไปก่อนจะช่วยให้คุณสามารถเลือกเมนูที่ใช่สำหรับคุณได้โดยที่จะไม่นึกเสียดายภายหลังนั่นเอง

ราเมงซุปเผ็ด

ราเมงประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยมีเมนูให้เลือกได้แก่ 

  • Tantanmen (坦坦麺, ราเมงซุปงาและพริกไทยแดงรสเผ็ด ราคา 900 เยน)
  • Mala Tantanmen (麻辣坦坦麺, ทันทันเมงเพิ่มพริกหมาล่า ราคา 950 เยน)
  • Sanramen (酸辣麺, ราเมงซุปรสเปรี้ยวเผ็ด 950 เยน)
  • Tantan Tsukemen (坦坦つけ麺, ทันทันเมงที่จะแยกเสิร์ฟเส้นแบบแห้งมาพร้อมกับน้ำซุปเข้มข้นพิเศษสำหรับจุ่มเส้นก่อนรับประทาน 980 เยน)

โดยสามเมนูแรกจะสามารถเลือกเพิ่มเส้นเพื่อใส่ในน้ำซุปได้ในราคา 100 เยน ในขณะที่ Tantan Tsukemen จะสามารถสั่งเป็นไซส์ใหญ่ได้ในราคา 1,130 เยน และราเมงรสเผ็ดทั้งหมดสามารถเลือกเพิ่มผักชีเป็นท็อปปิ้งได้ในราคา 100 เยนอีกด้วย

Klook.com

ราเมงซุปโชยุ

ราเมงซุปโชยุ เป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์คือความหอมแบบเฉพาะตัวของโชยุของทางร้าน เข้ากันได้ดีกับเส้นเหนียวนุ่มและท็อปปิ้งที่ใส่มาบนชามราเมงของคุณ ราเมงประเภทนี้มีเมนูให้เลือก ได้แก่

  • Shoyu Ramen (醬油拉麺, ราเมงซุปโชยุ ราคา 900 เยน)
  • Shoyu Tsukemen (醬油つけ麺, โชยุราเมงแบบแยกเสิร์ฟเส้นแบบแห้งมาพร้อมกับน้ำซุปโชยุเข้มข้นพิเศษสำหรับจุ่มเส้นก่อนรับประทาน ราคา 930 เยน)

โดยเมนู Shoyu Ramen สามารถเลือกเพิ่มเส้นเพื่อใส่ในน้ำซุปได้ในราคา 100 เยน ในขณะที่ Shoyu Tsukemen สามารถสั่งเป็นไซส์ใหญ่ได้ในราคา 1,080 เยน

ราเมงซุปเกลือ

เอกลักษณ์ของราเมงประเภทนี้คือน้ำซุปหอมเกลือรสเค็มอ่อนๆ ที่ช่วยเสริมให้รสชาติของวัตถุดิบในชามราเมงโดดเด่นขึ้นมา เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสกับรสชาติของวัตถุดิบแบบเต็มที่ ราเมงประเภทนี้มีเมนูให้เลือกได้แก่

  • Shio Ramen (塩拉麺, ราเมงซุปเกลือ ราคา 950 เยน)
  • Ume Shio Ramen (梅塩拉麺, ราเมงซุปเกลือและบ๊วยญี่ปุ่น ราคา 1150 เยน)

โดยทั้งสองเมนูสามารถเลือกเพิ่มเส้นเพื่อใส่ในน้ำซุปได้ในราคา 100 เยน

ท็อปปิ้งหลากชนิด

ราเมงทุกประเภทยังสามารถเลือกเพิ่มท็อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นหมูชาชูสไลซ์ (3 แผ่น 200 เยน) หมูชาชูย่างแผ่นหนา (500 เยน) ไข่ต้มโชยุ (100 เยน) เกี๊ยวไส้หมูผสมกุ้ง (3 ชิ้น 240 เยน, 5 ชิ้น 400 เยน) แผ่นสาหร่ายอบแห้ง (แผ่นละ 100 เยน)  หรือจะเลือกเป็นเซ็ตดีลักซ์ท็อปปิ้งราคา 500 เยน ที่รวมท็อปปิ้งหลายๆ อย่าง (หมูชาชูสไลซ์ 1 แผ่น หมูชาชูย่าง 2 แผ่น ลูกชิ้นทำจากเนื้อเป็ด 1 ลูก ไข่ต้มโชยุ 1 ฟอง เกี๊ยว 1 ชิ้น และผักใบเขียวต้ม) มาเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลอง

เมนูข้าวก็มีให้ลอง

หากเมนูราเมงที่กล่าวมาทั้งหมดยังไม่จุใจคุณแล้วล่ะก็ ที่ร้าน Nakiryu แห่งนี้ยังมีเมนูข้าวอย่างข้าวหน้าหมูชาชูราดซอสวาซาบิมาโย (400 เยน) ข้าวหน้าปลาชิราสึ (ปลาตัวเล็กๆ จำพวกปลาในตระกูลปลาซาดีน) ออนท็อปด้วยไข่แดง (400 เยน) และยังมีข้าวเปล่า (150 เยน) สำหรับนำมาทานคู่กับน้ำซุปราเมงที่เหลือหลังทานเส้นหมดตามแบบฉบับคนญี่ปุ่นได้อีกด้วย

บางเมนูมีเสิร์ฟแค่มื้อกลางวันหรือมื้อค่ำเท่านั้น!

ที่ร้านยังมีบางเมนูที่เสิร์ฟแค่ในบางช่วงเวลาเท่านั้น อย่างเมนูข้าวหน้าหมูตุ๋นหั่นเต๋าจะมีเสิร์ฟแค่ในช่วงมื้อกลางวัน ส่วนเกี๊ยวซ่า เต้าหู้ และท็อปปิ้งหมูตุ๋น จะมีแค่ในช่วงมื้อค่ำเท่านั้น หากที่กล่าวมามีเมนูโปรดของคุณอยู่ คุณอาจจะต้องพิจารณามาในช่วงเวลาที่ตรงกันนั้นด้วย

เดินทางไปยังไง? ไม่อยากรอนานควรไปถึงกี่โมง? เตรียมอะไรไปบ้างดี?

หลังจากรู้จักกับเมนูของทางร้านไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าจะไปกินร้านดังทั้งที ต้องเตรียมตัวกันยังไงบ้าง 

การเดินทาง

ร้าน Nakiryu ตั้งอยู่ทีย่าน Toshima ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว โดยคุณสามารถใช้บริการรถสาธารณะเดินทางมาได้ดังนี้

  •  นั่งรถไฟสาย JR Yamanote มาลงสถานี Ōtsuka (大塚駅) ออกสถานีที่ทางออก South Exit แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตร
  • นั่งรถไฟสาย Metro Marunouchi มาลงสถานี Shin Ōtsuka (新大塚駅) ออกสถานีที่ทางออก 2 แล้วเดินต่อประมาณ 550 เมตร
  • นั่งรถรางสาย Toden-Arakawa มาลงสถานี Ōtsukaekimae (大塚駅前駅) ออกสถานีที่ทางออก 2 แล้วต่อประมาณ 400 เมตร

ลองเลือกดูสถานีที่คุณสะดวกที่สุดแล้วเดินทางตามแม็พมากันเลย!

ร้านเปิดกี่โมง? แล้วควรไปถึงกี่โมง?

ร้านราเมง Nakiryu มีวันและเวลาเปิดทำการดังนี้

  • วันจันทร์ เปิดเฉพาะมื้อเที่ยง 11:30 - 15:00 น.
  • วันอังคาร หยุดทำการ
  • วันพุธ - อาทิตย์ เปิดมื้อเที่ยง 11:30 - 15:00 น. และมื้อเย็น 18:00 - 21:00 น.

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : http://www12.plala.or.jp/nakiryu/

โดยเราขอแนะนำว่าควรมาถึงร้าน 30 นาที - 1 ชั่วโมงก่อนร้านเปิดหากไม่อยากรอนาน เพราะร้านมีที่นั่งเพียง 10 ที่เท่านั้น เมื่อบวกกับความอร่อยและชื่อเสียงของทางร้าน ทำให้แทบจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีแถวยาวรออยู่หน้าร้านเป็นประจำ แต่เนื่องจากทางร้านจำกัดให้ลูกค้าทุกคนสามารถสั่งราเมงได้เพียง 1 ชามต่อ 1 คนเท่านั้น รวมถึงพนักงานยังจะนำเมนูมาให้ดูก่อน เพื่อให้ตัดสินใจเลือกเมนูที่ต้องการตั้งแต่ก่อนเข้าร้าน ทำให้คิวเลื่อนได้อย่างรวดเร็วพอประมาณ

ตอนที่ทีมงาน tsunagu Japan ของเราไปทานมา ทีมงานไปถึงร้านเวลาประมาณ 10:30 น. พบว่ามีลูกค้าต่ออยู่ก่อนแล้วประมาณ 12 คน ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เวลา 11:30 น. ร้านเปิดให้ลูกค้า 10 คิวแรกได้เข้าไปทาน ณ ตอนนั้นคิวเริ่มยาวไปจนถึงอีกฝั่งของถนนแล้ว กะด้วยสายตามีประมาณ 40 - 50 คิว และทีมงานได้เข้าร้านตอน 12:20 น. ทั้งนี้ ช่วงที่ทางทีมงานเดินทางไปเป็นช่วงวันหยุดยาวปลายปี ทำให้มีปริมาณลูกค้าชาวต่างชาติเยอะเป็นพิเศษ หากเป็นช่วงปกติหรือวันธรรมดาอาจได้เข้าทานรวดเร็วกว่านี้ค่ะ

ต้องเตรียมตัวอย่างไรดี?

เนื่องจากคุณอาจจะต้องรอหน้าร้านเป็นเวลาประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง จึงแนะนำให้แต่งตัวมาให้เหมาะกับสภาพอากาศ หากมาในฤดูหนาว อุปกรณ์อย่างถุงมือ ผ้าพันคอ หรือเสื้อกันลมจะช่วยให้คุณยืนรอคิวท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน หากมาในฤดูร้อน แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศและเหงื่อได้ดี พกน้ำมาจิบสักขวด รวมถึงแว่นและครีมกันแดดก็เป็นตัวช่วยที่จะปกป้องคุณจากแสงแดดจ้าภายนอกอาคารได้

อีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือเงินสด เพราะที่ร้านนี้คุณต้องทำการสั่งอาหารที่เครื่องอัตโนมัติซึ่งรองรับเพียงแค่เงินสดที่เป็นเหรียญ 10 เยนขึ้นไป และธนบัตร 1,000 หรือ 2,000 เยนเท่านั้น หากคุณมีธนบัตรที่มูลค่าใหญ่กว่านั้น สามารถขอแลกกับพนักงานในร้านได้เลย

ที่เครื่องอัตโนมัตินี้ ชื่อเมนูทั้งหมดจะถูกเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะทุกปุ่มบนเครื่องจะมีหมายเลขกำกับ ซึ่งคุณสามารถดูใบเมนูภาษาอังกฤษที่พนักงานนำมาแจกก่อนเข้าร้าน แล้วเพียงจิ้มให้ตรงกับหมายเลขที่ต้องการ เครื่องจะทำการปริ้นท์ตั๋วอาหารตามเมนูที่คุณกด ที่เหลือก็แค่นำตั๋วอาหารไปยื่นให้กับพนักงานแล้วรอลิ้มรสราเมงดาวมิชลินได้เลย!

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Nakiryu ร้านราเมงดาวมิชลินในกรุงโตเกียวแห่งนี้ นอกจากเมนูไฮไลท์ที่ได้แนะนำไปแล้ว ทางร้านยังมีอีกหลายเมนูขึ้นชื่อที่น่าลิ้มลองอีกหลายเมนู หากมีโอกาสได้ไปลอง หรือเจอเมนูไหนเด็ดๆ อย่าลืมนำมาเล่าให้ฟังกันด้วยนะคะ!

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คันโต

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

supawichable
supawichable
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร