ดับกระหายด้วยคราฟท์เบียร์ส่งตรงจาก 6 ท้องถิ่นในเขตเมืองหลวงแห่งแดนอาทิตย์อุทัย

เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่น หลายคนมักจะนึกถึงไวน์ข้าวหรือเครื่องดื่มที่เรารู้จักกันในชื่อ 'เหล้าสาเก' แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าที่ญี่ปุ่นเองก็มีวัฒนธรรมการดื่มเบียร์เช่นกัน ถ้าพูดถึงแบรนด์ผู้ผลิตเบียร์อย่าง Asahi Kirin และ Sapporo ก็น่าจะพอร้องอ๋อกันบ้างแล้วใช่ไหมละคะ เพราะชื่อที่ได้กล่าวถึงไปนั้นเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเบียร์ของญี่ปุ่นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ในบทความนี้เราไม่ได้จะพาไปทำความรู้จักกับเหล้าสาเกหรือเคล็ดลับความโด่งดังของ Asahi แต่จะพาไปทำความรู้จักกับวงการคราฟท์เบียร์ของญี่ปุ่น ที่กำลังเริ่มได้รับความสนใจและเติบโตขึ้นเรื่อยมาในช่วงไม่กี่ปีนี้กันค่ะ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. "The Blessing of Tama" (Tama no Megumi)

ผลิตภัณฑ์จาก Ishikawa Brewery แห่งเมือง Fussha 'The Blessing of Tama' เป็นการนำเทคนิคการผลิตเบียร์ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1800s มาใช้ ซึ่งเป็นเทคนิคการผลิตเบียร์จากเมืองนิชิทามะ (Nishitama) ด้วยความตั้งใจที่จะรักษารสชาติดั้งเดิมไว้ให้มากที่สุด 'The Blessing of Tama' จึงเป็นเบียร์ที่ผลิตโดยไม่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์และไม่ผ่านการกรอง (unfiltered) อีกด้วย ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเบียร์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่นุ่มลิ้น The Blessing of Tama จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติที่อาจจะเปลี่ยนนิยามการดื่มเบียร์ของคุณไปเลยก็ได้นะคะ!

ที่ตั้ง: 1 Kumagawa, Fussha-shi, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: www.tamajiman.com/english/index.html

 

Stuben Ohtama

Stuben Ohtoma เป็นร้านอาหารเยอรมันที่ตกแต่งด้วยผนังสีส้มสะดุดตากับหลังคาทรงสามเหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังเดินหลงเข้าไปในดินแดนที่รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง เพราะถูกออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับตึกรามที่คุณอาจพบเจอได้ในเมือง Rothenburg (เมืองทางใต้ของเยอรมันที่โด่งดังเรื่องการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมยุคกลาง) Stuben Ohtoma ตั้งอยู่ในเมือง Fussha ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์เรื่องการผสมผสานวัฒนธรรมจากหลายดินแดนเอาไว้ที่นี่ ที่ร้านนี้ขายคราฟท์เบียร์ซึ่งมีทั้ง 'The Blessing of Tama' ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว และยังมีคราฟท์เบียร์หลากหลายตัวให้ได้ลิ้มลองกัน รวมถึงเบียร์นำเข้าจากเยอรมันด้วยค่ะ

เวลาเปิดทำการ:

วันธรรมดา: (มื้อเที่ยง) 11:30 - 14:00 Last Order;  (มื้อค่ำ) 17:30 - 21:30. ปิดวันอังคาร

วันเสาร์-อาทิตย์/วันหยุด:  11:30 - 21:30 (เมนูมื้อเที่ยงขายถึง 15:00)

ที่ตั้ง: 785 Shussa, Shussa-shi, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: http://www.otama.co.jp/stuben/english-stuben.html

 

2. Sumidagawa Brewing

ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เทศบาล Azumabashi เมืองซูมิดะ (Sumida) เคยเป็นบ้านเก่าของโรงหมักเบียร์ชื่อดังอย่าง Asahi การผลิตเบียร์ได้เริ่มขึ้นครั้งแรกในแถบนี้เมื่อราวปี 1903 (พ.ศ. 2446) ซึ่งนำไปสู่การเปิด beer garden ที่เป็นของท้องถิ่นเองด้วย ประวัติศาสตร์อันยาวนานได้ถูกสั่งสมมาที่นี่ และบริษัท Asahi Food Create ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Asahi Breweries ได้ผลิตคราฟท์เบียร์มากมายภายใต้ชื่อของ Sumidagawa Brewing เบียร์ของโรงหมักเบียร์แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่นุ่มลิ้นและสัมผัสรสผลไม้ รวมทั้งยังได้รับรางวัลมากมาย ทำให้ได้รับความนิยมและมีคอเบียร์ที่ถูกใจในรสชาติติดตามอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ

ที่ตั้ง: Annex Building, 1-23-36 Azumabashi, Sumida-ku, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: www.asahifoodcreate.co.jp/store/beer/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

 

BEER & SPICE SUPER"DRY"

Solamachi Square หรือแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณฐานของตึกระฟ้าอย่าง Tokyo Skytree นั้น มีร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งแยกตัวออกมาตั้งที่ชั้น 30 ของ Tokyo Skytree ชื่อว่า Beer and Spice Super "Dry" เป็นร้านอาหารที่คุณจะได้ลิ้มลองเบียร์รสชาติเยี่ยมไปพร้อมๆ กับการดื่มด่ำวิวทิวทิศน์และบรรยากาศสุดพิเศษจากตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีเมนูเด็ดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีผักชี (ผักที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น) เป็นส่วนประกอบของอาหารหลายเมนู และยังมีอาหารรสจัดอย่าง Shrimp and chorizo red curry (อาหารแถบตะวันออกกลางเป็นซุปเครื่องเทศรสจัดใส่กุ้งและไส้กรอก Chorizo) ไว้ให้คุณได้ลิ้มลองด้วย ด้วยองค์ประกอบของอาหารมื้ออร่อย เบียร์รสชาติดี และวิวจากมุมสูงที่หาดูได้ยาก Super "Dry" น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาประสบการณ์สุดพิเศษไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่อมาลองคราฟท์เบียร์หรือเพื่อการท่องเที่ยวทั่วไปก็ตาม รับรองว่าคุณจะได้ความรู้สึกแสนพิเศษกลับไปแน่นอนค่ะ

เวลาทำการ: 11:00 - 23:00

ที่ตั้ง: Floor 30, Tokyo Solamachi/Tokyo Skytree Town - 1-1-2 Oshiage, Sumida-ku, Tokyo

เว็บไซต์: http://r.gnavi.co.jp/a467406/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

3. Virgo Beer

'Virgo' เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินว่า 'Virgin' หมายถึง 'กลุ่มดาวหญิงสาว' สำหรับคราฟท์เบียร์ตัวนี้เป็นเบียร์ที่ผลิตโดยบริษัทชื่อเดียวกันที่ตั้งอยู่ในเมืองซูมิดะ เนื่องจากใช้วิธีการหมักบ่มที่อุณหภูมิสูงจึงจัดเป็นเบียร์ประเภท Ale ซึ่งเป็นเบียร์ประเภทที่ได้รับความนิยมมากในแถบยุโรป เช่น ประเทศอังกฤษและเบลเยียมเพราะมีกลิ่นหอมและมีรสชาติบางๆ ของผลไม้ด้วย

ที่ตั้ง: 4-8-8 Midori, Sumida-ku, Tokyo

เว็บไซต์: www.virgobeer.com (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

 

Bar LOST BOY

Bar Lost Boy ในเมืองซูมิดะเป็นที่ที่คุณจะได้ลิ้มลอง Virgo Beer ไปพร้อมๆ กับดื่มด่ำกับเมนูอาหารสไตล์เท็กซัส-แม็กซิกัน ที่นี่มีเมนูที่เหมาะจะเป็นกับแกล้มให้เลือกมากมาย เช่น ทาโคส์ (tacos) นาโช่ (nachos) และเมนูอื่นๆ ที่สำคัญที่นี่ไม่มีการเรียกเก็บค่าเข้าเหมือนบาร์อื่นๆ เพราะฉะนั้นคุณสามารถเข้าไปร่วมสนุกกับบรรยากาศในร้านได้แบบไม่ต้องกังวลเลยล่ะค่ะ

เวลาทำการ: วันธรรมดาและวันเสาร์ 17:00 - 3:00 วันอาทิตย์ 18:00 - 2:00

ที่ตั้ง: 2-15-3, Higashimukojima, Sumida-ku, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: http://tabelog.com/tokyo/A1312/A131203/13179944/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

 

4. Hachiban Craft Beer

Hachiban Craft Beer เป็นเบียร์ประเภท weizen หรือเบียร์สีทองอ่อนที่มีรสชาตินุ่มและมีรสผลไม้อ่อนๆ คราฟท์เบียร์ขวดนี้ที่ใช้กรรมวิธีการผลิตด้วยมือทั้งหมดจากโรงหมักเบียร์เล็กๆ ในย่านกินซ่า (Ginza) ด้วยความที่พิถีพิถันที่สูงมากที่แห่งเดียวที่คุณจะสามารถลิ้มลองรสชาติของคราฟท์เบียร์แก้วนี้ได้ คือที่บ้านเกิดของมันเองหรือในย่านกินซ่าเท่านั้น ใครชอบความ exclusive แบบนี้ไม่ควรพลาดจริงๆ ค่ะ

ที่ตั้ง: 2-14-9, Ginza, Chuuo-ku, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: www.ginzabrewery.co.jp/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

Hachiban Izakaya, Ginza

อย่างที่บอกไปแล้วว่า ที่ที่คุณจะสามารถลิ้มลองรสชาติของคราฟท์เบียร์ Hachiban ได้คือต้นกำเนิดของมันในย่านกินซ่าเท่านั้น และร้านที่ขายเบียร์ชนิดนี้ก็มีชื่อที่เรียบง่ายตรงตัวว่า Hachiban Izakaya (Izakaya หมายถึง บาร์สไตล์ญี่ปุ่น) และตั้งอยู่ในย่านกินซ่า ที่ร้านจะมีเบียร์สดรอพร้อมเสิร์ฟคู่กับอาหารที่เป็นกับแกล้มอย่างดีให้กับมื้อค่ำของคุณ ไม่ว่าจะเป็น Acqua pazza (ปลาอบสไตล์อิตาเลียน) มันอบสไตล์เยอรมัน และอาหารญี่ปุ่นอีกหลากหลายเมนู

เวลาทำการ: วันจันทร์ - ศุกร์: 17:30 - 23:00 / หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ที่ตั้ง: Ground floor, 2-14-9, Ginza, Chuuo-ku, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: http://www.hachiban.net/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

5. Kamikaze Beer

Kamikaze Beer เป็นดราฟท์เบียร์หรือเบียร์สดที่ผลิตจากมอลต์ซึ่งส่งตรงมาจากรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ กรรมวิธีการผลิตจะไม่มีการแต่งกลิ่น เติมรส หรือใช้อุณหภูมิเพื่อปรับรสชาติ ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเบียร์ที่มีความเป็นธรรมชาติ รสชาติสดใหม่ ผลิตออกมาเป็นเบียร์ประเภท cream ale (ชื่อเรียกตามลักษณะของสีเบียร์ที่เป็นสีเหลืองออกครีม) และ amber ale (ชื่อเรียกตามลักษณะของสีเบียร์ที่เป็นสีอัมพัน รสชาติค่อนไปทางหวาน)

ที่ตั้ง: 1-24-26, Nishiki-cho, Tachikawa-shi, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: www.mumonan.jp/kamikaze/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

 

Beer Factory Kamikaze

คุณสามารถไปดับกระหายด้วยเบียร์ Kamikaze ได้ถึงที่ผลิต ที่ตั้งอยู่บนชั้นสองของโรงบ่มเบียร์ในเมือง Tachikawa ซึ่งแนะนำว่าควรดื่มเบียร์คู่กับอาหารจานเด็ดของที่นี่ เมนูแนะนำก็คือทีโบนสเต็กค่ะ 

เวลาทำการ: วันจันทร์ - เสาร์: 17:00 - 23:00 (Last order 22:30) /ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดประจำชาติ

ที่ตั้ง: ชั้น 2, 1-24-26, Nishiki-cho, Tachikawa-shi, Tokyo (Google Map)

เว็บไซต์: www.mumonan.jp/kamikaze/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

6. Hoppy Beer

Hoppy Beer เป็นแบรนด์คราฟท์เบียร์ที่ผลิตโดยบริษัท Hoppy Beverage ซึ่งมีชื่อในเรื่องการผลิตเครื่องดื่มเบียร์แบบ (เกือบจะ) ไร้แอลกอฮอล์ในนาม 'Hoppy' เครื่องดื่มในนาม Hoppy เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นเมื่อปลายทศวรรษ 1940s และมักนำไปดื่มร่วมกับโซจูซึ่งเป็นเครื่องดื่มคล้ายๆ ว้อดก้าของญี่ปุ่น ผู้คนดื่มแบบนี้แทนการดื่มเบียร์โดยตรง เพราะเบียร์ในสมัยนั้นยังมีราคาแพงมาก Hoppy Beer มีหลายรสชาติด้วยกัน และรสชาติแต่ละแบบถูกตั้งชื่อตามสถานที่หลายแห่งในโตเกียว เช่น เบียร์ Akasaka ตั้งชื่อตามย่านอากาซากะซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่ออฟฟิศของ Hoppy ตั้งอยู่ หรือเบียร์ Choufu เป็นชื่อของสถานที่ที่เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิต และยังมีเบียร์ Jindaiji ซึ่งตั้งตามชื่อวัดที่ตั้งอยู่ในเมืองเดียวกันนั้นเอง

เว็บไซต์: www.hoppy-happy.com/info/index.html (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 2-15-12 Akasaka, Minato-ku, Tokyo-to (Google Map)

 

7. Jindaiji Soba Ookiya Temple Restaurant

ร้าน Jindai Soba Ookiya แห่งนี้เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัด Jindaiji ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้า และยังอยู่ในระยะที่ไม่ไกลจากสวนพฤกษศาสตร์ Jindai ด้วย ที่ Jindai Soba Ookiya แห่งนี้เป็นร้านอาหารที่มีเสน่ห์ของความเป็นชนบทอย่างเต็มเปี่ยม เป็นที่ที่คุณจะสามารถลิ้มลองโซบะรสชาติเยี่ยมเพราะเส้นโซบะนั้นผ่านกระบวนการทำโดยเชฟที่มีทักษะเชี่ยวชาญในด้านโดยตรง นอกจากนี้ยังได้เพลิดเพลินไปกับวิวที่งดงามตามธรรมชาติแบบชนบทภายนอก เป็นร้านที่ได้รับความไว้วางใจมายาวนานกว่า 50 ปี รับรองว่าเส้นโซบะของที่นี่จะทำให้คุณอร่อยจนตราตรึงและอยากกลับมาทานอีกแน่นอนค่ะ ส่วนเมนูเทมปุระ (เมนูที่นำวัตถุดิบหลายชนิดมาชุบแป้งทอดและทานคู่กับซอสสูตรเฉพาะ) และมิโซะโอเด้ง (เมนูที่นำวัตถุดิบชนิดต่างๆ มาต้มในซุปที่ปรุงรสชาติ) ของที่นี่ก็มีรสชาติดีมากเช่นกันค่ะ

เวลาทำการ: วันอังคาร - อาทิตย์ 11:00 - 16:00. ปิดวันจันทร์

ที่ตั้ง: 5-2-13, Moto-machi, Jindaiji, Choufu-shi, Tokyo-to(Google Map)

เว็บไซต์: http://tabelog.com/tokyo/A1326/A132601/13068196/dtlrvwlst/2344241/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

 

 

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คันโต

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan
นี่คือแอ็คเคาท์ทางการของ tsunagu japan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร