ฟุคุชิมะ ~ ค้นหาแก่นสารของวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านประวัติศาสตร์ซามูไร ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และอาหารหมักอร่อยๆ

ฟุคุชิมะตั้งอยู่บนภูมิภาคโทโฮคุ เป็นสถานที่แสนวิเศษที่สามารถสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นในมุมที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ช่วยให้ตระหนักถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม ผ่านชีวิตประจำวันของเหล่าซามูไร วิวภูเขาและทะเลสวยๆ ธรรมชาติที่ชวนตื่นตา อาหารท้องถิ่นน่ารับประทาน และประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสัมผัสกับกิจกรรมชั้นยอดที่มีอยู่มากมายในจังหวัดฟุคุชิมะ เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับการเที่ยวชมจังหวัดที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งนี้

* บทความนี้เขียนขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวจังหวัดฟุคุชิมะ

จังหวัดฟุคุชิมะ ขุมทรัพย์ของธรรมชาติและประวัติศาสตร์

จังหวัดฟุคุชิมะตั้งอยู่บนภูมิภาคโทโฮคุทางส่วนเหนือของญี่ปุ่น เมื่อพูดถึงฟุคุชิมะ หลายคนอาจนึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 แต่ในปัจจุบันจังหวัดนี้ก็มีการฟื้นฟูไปมาก จนกลายเป็นบริเวณที่มีสิ่งน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่แสนวิเศษ วัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ หรืออาหารอร่อยๆ

จังหวัดฟุคุชิมะแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาค ได้แก่ Aizu ทางทิศตะวันตก, Nakadori บริเวณภาคกลาง, และ Hamadori ทางทิศตะวันออก แต่ละภูมิภาคก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ภูมิภาค Aizu มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์ที่ล้ำลึกและจุดชมวิวสวยๆ ที่มีมาแต่อดีต เช่น ปราสาท Tsurugajo, ย่านที่พัก Ouchijuku, และอาคาร Aizu Hanko Nisshinkan ภูมิภาค Nakadori เป็นที่รู้จักจากมนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติ เช่น ภูเขา ดอกไม้ ผลไม้ และออนเซ็น ส่วนภูมิภาค Hamadori ก็โด่งดังจากแนวชายฝั่งที่สวยงามจนน่าตกตะลึง และยังมีอาหารทะเลท้องถิ่นอร่อยๆ ให้ลิ้มลองอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับกิจกรรมต่างๆ ในละแวก Aizu Wakamatsu ของภูมิภาค Aizu และละแวก Iwaki ของภูมิภาค Hamadori

เนื่องจากฟุคุชิมะเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่สูงต่ำแตกต่างกันไป จึงอาจมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันได้แม้จะอยู่ในจังหวัดเดียวกัน หากต้องการทราบสภาพอากาศที่ชัดเจน ก็ขอแนะนำให้ตรวจสอบพยากรณ์อากาศของแต่ละพื้นที่ไว้ล่วงหน้าด้วย

วิธีเดินทางจากโตเกียวไปฟุคุชิมะ

การเดินทางจากโตเกียวไปฟุคุชิมะนั้นสะดวกสบายมาก สามารถเดินทางไปได้อย่างง่ายๆ โดยนั่งรถไฟ

ฟุคุชิมะมีสถานีที่รถไฟชินคันเซ็นวิ่งผ่านอยู่ 3 สถานี ได้แก่ สถานี Shinshirakawa ทางภาคใต้, สถานี Koriyama ทางภาคกลาง, และสถานี Fukushima ทางภาคเหนือ

จากสถานี Tokyo สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku หรือ Yamagata ไปลงที่สถานี Koriyama หรือ Fukushima ได้โดยใช้เวลาประมาณ 20 - 40 นาที

นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku จากสถานี Tokyo ไปลงที่สถานี Shinshirakawa โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งได้ด้วย

กิจกรรมสัมผัสมนต์เสน่ห์ของฟุคุชิมะ

ทัวร์เดินลุยหิมะสุดไพรเวท ชมทุ่งหิมะและที่ราบสูง Urabandai

ฟุคุชิมะมีภูเขาสวยงามและธรรมชาติที่ห่างไกลจากมือมนุษย์อยู่มากมาย กิจกรรมนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับการดื่มด่ำทิวทัศน์หิมะของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ดังกล่าว เราได้เดินทางไปจุดชมธรรมชาติลับ ที่ยังไม่คอ่ยมีใครรู้จัก Rengenuma Pond ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นฤดูกาลที่มีหิมะทับถมเป็นปริมาณมาก

การผจญภัยของเราเริ่มต้นขึ้นที่ Mori no Eki จุดพักผ่อนใน Urabandai ที่สามารถเดินทางมาถึงได้โดยนั่งรถบัสจากสถานี Koriyama เป็นสถานที่ที่แม้จะมีหิมะตกหนักก็ยังเปิดทำการอยู่ (ในวันที่เราเดินทางไปนั้นมีหิมะทับถมกว่า 60 ซม.) เมื่อเราถึงเดินไปถึงก็ได้รับการต้อนรับโดยไกด์ที่เป็นกันเอง พร้อมด้วยอุปกรณ์เดินลุยหิมะดั้งเดิมของญี่ปุ่น

Kanjiki เป็นรองเท้าลุยหิมะดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ทำขึ้นโดยการงอไม้ไผ่เป็นทรงกลม เราได้รับการสอนวิธีสวมรองเท้านี้โดยผูกเชือกปมตาข่ายเข้ากับเท้า และสวม Amigata หมวกฟางทรงโคนเพื่อป้องกันไม่ให้หิมะโดนหน้าและศีรษะ จากนั้นก็ออกเดินไปบนหิมะราวกับคนท้องถิ่นในสมัยก่อน

ท่ามกลางหิมะนุ่มฟูที่โปรยปรายลงมาอย่างเงียบสงบ เราได้เดินไปบนหิมะที่อาจสูงถึงเอวในกรณีที่ไม่มี Kanjiki พลางสูดอากาศที่แสนบริสุทธิ์ของฤดูหนาว Kanjiki นั้นมีน้ำหนักเบามาก ช่วยให้เดินชมวิวหิมะที่กว้างขวางได้อย่างสะดวกสบาย เป็นวิธีที่มีเอกลักษณ์มากสำหรับการชื่นชมธรรมชาติสวยๆ ของฟุคุโอกะ ในระหว่างทางไกด์ของเราได้หยุดเป็นครั้งคราวเพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับภูมิประเทศภูเขาไฟ หรือไม่ก็ชี้ให้เห็นต้นไม้ที่มีรอยกรงเล็บหมี เป็นทัวร์ที่ช่วยให้เรียนรู้เรื่องราวมากมายของบริเวณนี้

หลังจากที่เดินทัวร์เสร็จแล้ว เราได้เข้าไปนั่งในเชลเตอร์หิมะที่ไกด์ของเราขุดขึ้นเอง และทำการพักผ่อนพลางดื่ม Amazake เครื่องดื่มข้าวหมักรสหวานที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยกันมาหลายร้อยปี เป็นช่วงเวลาแสนวิเศษที่สามารถดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่สวยงามของฟุคุชิมะ

เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของแคว้น Aizu และวัฒนธรรมซามูไรที่ Aizu Hako Nisshinkan

Aizu Hanko Nisshinkan ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1803 เป็นสถานศึกษาชื่อดังที่ฝึกฝนและให้ความรู้แก่เหล่าลูกชายของตระกูลซามูไรแคว้น Aizu (จังหวัดฟุคุชิมะในปัจจุบัน) เพื่อให้เติบโตเป็นซามูไรรุ่นต่อไป นักเรียนของที่นี่ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ภาษาศาสตร์ไปจนถึงศิลปะการต่อสู้

ภายในพื้นที่ที่กว้างขวางนี้มีห้องเรียน โดโจ (โรงฝึกศิลปะการต่อสู้) และสถานที่สำหรับการศึกษาอื่นๆ ในอดีตเคยมีช่วงหนึ่งที่มีนักเรียนถึงกว่า 1,000 คน ภายในอาคารที่ยิ่งใหญ่อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่น่าเกรงขาม เมื่อผ่านประตูหน้าเข้าไปจะทำให้รู้สึกราวกับย้อนเวลาไปในอดีตเลยทีเดียว

สิ่งที่สะดุดตาเป็นอย่างแรกก็คือ ทิวทัศน์น้ำตรงสวนส่วนกลางที่ห้อมล้อมไปด้วยอาคารเรียน สิ่งนี้ไม่ใช่บ่อน้ำ แต่เป็นสระน้ำสำหรับให้นักเรียนฝึกว่ายน้ำหรือขี่ม้าลงน้ำ

เมื่อเดินไปตามทางเดินก็จะพบกับห้องเรียนมากมาย แต่ละห้องถูกจัดแสดงไว้ด้วยหุ่นลำจองของครูและนักเรียน หุ่นเหล่านี้แต่งกายในชุดยูกาตะและดูจดจ่อกับสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ ช่วยให้จินตนาการได้ถึงชีวิตการเรียนในยุคนั้น ที่ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมให้นักเรียนทำความสะอาดห้องเรียนด้วยตัวเอง สามารถสัมผัสได้ถึงแนวทางการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น

Nisshinkan มีประสบการณ์ยิงธนูให้ลองสัมผัสกับจิตวิญญาณซามูไร เป็นโรงฝึกธนูเล็กๆ ที่จะให้ลองใช้ธนูสำหรับมือใหม่ยิงไปยังเป้าที่อยู่บนกำแพงฝั่งตรงข้าม

เมื่อเราได้เล็งธนูและยิงออกไป อะดรีนาลินก็พุ่งสูงขึ้น หลังจากจบกิจกรรมแล้วก็ยังหยุดตื่นเต้นไม่ได้ ปกติแล้วจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะให้มือใหม่มีโอกาสลองยิงธนูได้จริงๆ แต่กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ของที่นี่ก็ได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษ ราวกับช่วยปลุกจิตวิญญาณซามูไรที่อยู่ในตัวเราได้เลย แม้ว่าไม่มีใครในกลุ่มที่ยิงโดนเป้าเลย (มีบางคนเฉียดไปอย่างน่าเสียดาย) แต่การจดจ่อไปที่เป้าตรงหน้าก็เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง

Nisshinkan ยังมีกิจกรรมอีกมากมายให้ลองสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น พิธีชงชาและการนั่งสมาธิ

เรียนรู้เกี่ยวกับทาทามิที่ Kuboki Tatami แบรนด์เสื่อทาทามิที่เปิดกิจการมาแล้วกว่า 280 ปี

ทาทามิเป็นวัสดุปูพื้นดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ทำขึ้นจากหญ้า Igusa (หญ้าอ่อนญี่ปุ่น) Kuboki Tatami เป็นแบรนด์ทาทามิที่มีประวัติศาสตร์กว่า 280 ปี ปัจจุบันได้บริหารโดยเจ้าของกิจการรุ่นที่ 15 มีการส่งออกทาทามิกว่า 100 รายการไปสู่ 21 ประเทศทั่วโลก กล่าวได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีส่วนช่วยให้ทาทามิมีชื่อเสียงในระดับโลก

ทาทามิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ในขณะเดียวกันก็สามารถพบเห็นได้ตามสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากบรรยากาศดั้งเดิมด้วยเช่นกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าทาทามิสามารถเข้าได้กับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน Kuboki Tatami จึงได้เปิด Tatami Village ขึ้นในปี 2023 เป็นร้านค้ากึ่งคาเฟ่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มอร่อยๆ เลือกซื้อสินค้าจุกจิกจากเสื่อทาทามิ พลางทัศนศึกษาการทำเสื่อทาทามิของช่างผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อเข้าไปใน Tatami Village คุณก็จะพบกับผลิตภัณฑ์ทาทามิสวยๆ เรียงรายอยู่ในอาคารสีขาวที่ดูเก๋ไก๋ ตรงเคาน์เตอร์กึ่งกลางห้องจัดแสดงเป็นบริเวณที่เรียงรายไปด้วยที่รองแก้วทาทามิไซส์เล็กใหญ่หลายร้อยชิ้น โดยมีการประดับประดาด้วยทาทามิเบริ (ผ้าเย็บปิดปลายทาทามิ) สีสันสดใสหลายสิบแบบ ส่วนบริเวณกำแพงก็จัดวางไว้ด้วยม้วนทาทามิเบริ มีตั้งแต่แบบดั้งเดิม โมเดิร์น ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นร่วมกับซีรีย์ยอดนิยม เป็นการจัดแสดงที่บ่งบอกถึงภาพลักษณ์ของทาทามิในยุคปัจจุบัน

เคาน์เตอร์และที่นั่งในคาเฟ่นั้นถูกปูไว้ด้วยเสื่อทาทามิ เป็นตัวอย่างที่ดีที่บ่งบอกถึงความโมเดิร์นของเสื่อทาทามิ อาคาร 2 ชั้นนี้ดูเก๋ไก๋ กว้างขวาง และปลอดโปร่ง แผ่ซ่านไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติๆ จากสีสันที่ชวนผ่อนคลายของทาทามิ ภาพของบาริสต้าที่กำลังชงชามัทฉะสดใหม่ผ่านเคาน์เตอร์ทาทามินั้นดูน่าหลงใหลมาก การได้ดื่มมัทฉะลาเต้พลางชมทิวทัศน์ด้านนอกผ่านหน้าต่างบานใหญ่นั้น นับว่าเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการผ่อนคลายมากๆ

ที่ Tatami Village แห่งนี้ หลังจากฟังคำอธิบายเกี่ยวกับตัวบริษัทและผลิตภัณฑ์ของบริษัทแล้ว คุณก็จะสามารถเข้าไปในเวิร์คช็อปเพื่อชมการผลิตทาทามิอย่างใกล้ชิดได้ด้วย ภายในเวิร์คช็อปอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของหญ้า Igusa กล่าวกันว่าเป็นกลิ่นที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คุ้นเคยและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัสดุตั้งต้นของเสื่อทาทามิแล้ว ยังมีโอกาสได้ชมเทคนิคการผลิตเสื่อทาทามิด้วยตาตัวเองอีกด้วย

นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำเสื่อทาทามิชิ้นจิ๋วด้วยตัวเองและนำกลับบ้านได้ด้วย วัสดุที่จำเป็นนั้นถูกเตรียมไว้ให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทาทามิเบริจากผ้าฝ้ายของฟุคุชิมะ หรือทาทามิคุณภาพสูงของ Kuboki Tatami

ผู้ให้คำแนะนำจะทำการสอนโดยทำให้ดูเป็นตัวอย่างตามขั้นตอน นับว่าเข้าใจง่ายมากๆ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนดังกล่าวก็กินเวลาพอสมควร ทำให้เข้าใจได้เลยว่าการทำทาทามินั้นจำเป็นต้องใช้ความรู้ ทักษะ และเรี่ยวแรงเป็นอย่างมาก

ลิ้มรสอาหารหมักอร่อยๆ ที่ Knuckles Cafe ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

เมื่อมีโอกาสได้มาฟุคุชิมะ การดื่มด่ำไปกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ห้ามพลาดอย่างยิ่ง Knuckles Cafe ตั้งอยู่ภายในอาคารที่มองเห็นป่าและทะเลได้อย่างกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติมากๆ

ก่อนรับประทานมื้อกลางวันจากอาหารหมักสุดพิเศษ เราได้ทำกิจกรรมโยคะและเดินป่าเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และกระตุ้นความอยากอาหาร เป็นการเดินป่าระยะทางสั้นๆ และยืดตัวอย่างง่ายๆ บนเสื่อโยคะ ช่วยทำให้จิตใจสงบและรู้สึกราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ สามารถจดจ่อไปกับเสียงต้นไม้ใบหญ้าและเสียงของครูผู้ฝึกสอน พลางชมทะเลที่อยู่ไกลออกไป และปราศจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่

หลังจากเรียกเหงื่อจากการยืดตัวแล้ว ผู้ฝึกสอนได้พาเราเข้าไปในถนนสายเล็กๆ ในป่าที่อยู่ใกล้ๆ กัน เมื่อผ่านดงต้นไม้น้อยใหญ่ออกไป ก็เป็นการข้ามเนินที่เต็มไปด้วยหินจำนวนมาก มีจุดที่จำเป็นต้องไต่เชือกลงมาจากเนินสูงชัน เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นมากๆ

จากจุดชมวิวที่เป็นจุดหมายปลายทางของเรานั้น สามารถมองเห็นทะเลและแนวชายฝั่งได้อย่างกว้างขวาง และมีเสียงรถไฟให้รับฟังอยู่ไกลๆ อีกด้วย

หลังจากสูดอากาศบริสุทธิ์และเพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ แล้ว เราก็กลับมาในอาคารและรับประทาน Knuckle Lunch ของ Knuckles Cafe ที่ทำขึ้นจากอาหารหมักขึ้นชื่อ หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบอาหารหมักก็ขอแนะนำให้ลองเปิดใจดูสักครั้ง รับรองว่าจะต้องตกใจในความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ของ Knuckles Cafe อย่างแน่นอน

เราได้สั่งเมนูถาดที่เต็มไปด้วยอาหารโฮมเมดมากมาย เป็นเมนูที่แม้แต่ตัวข้าวก็ถูกหมักด้วยกรรมวิธีพิเศษ อาหารหมักเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเมนูญี่ปุ่นมาแต่โบราณ ในกรณีของ Knuckles Cafe แห่งนี้ เป็นของที่ทำขึ้นโดยนำรำข้าวไปหมักวัตถุดิบต่างๆ อาหารหมักนั้นมีรสชาติที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง อาจต้องใช้เวลาเคี้ยวนานหน่อยจนกว่าจะเคยชิน แต่รสชาติที่โดดเด่นตอนแรกนี้ก็ช่วยให้รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบชัดเจนขึ้น จนกลายเป็นความอร่อยที่แผ่ซ่านไปทั่วปาก

เมนูที่เราได้ลิ้มลองคู่กับมื้ออาหารหลักก็คือ Amazake เครื่องดื่มที่ทำขึ้นจากข้าวหมัก เราตกใจกันมากเมื่อรู้ว่ามันทำขึ้นโดยไม่ใส่น้ำตาลแม้แต่น้อย เป็นเครื่องดื่มที่หวานละมุนและไม่มีรสเปรี้ยวเลยสักนิด

เมนูปิดท้ายเป็นเซ็ตของหวานจากพุดดิ้งฟักทอง เสิร์ฟพร้อมกับคอมบุชะ (ชาหมัก) หรือโยเกิร์ตโฮมเมด พุดดิ้งมีรสฟักทองเข้มข้น โยเกิร์ตมีรสสัมผัสที่ครีมมี่และให้รสหวานราวกับโยเกิร์ตกรีก เสิร์ฟคู่กับซอสว่านหางจระเข้ที่ช่วยดึงรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น ส่วนคอมบุชะก็ดื่มง่ายอย่างน่าตกใจ นอกจากไร้น้ำตาลแล้วยังมีกลิ่นหอมของดิน ให้รสชาติราวกับชาสมุนไพรเลยทีเดียว

การออกกำลังกายเบาๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ประกอบกับมื้อกลางวันที่เต็มไปด้วยสารอาหารและดีต่อสุขภาพนี้ ช่วยให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเยาว์ลงมากๆ

ปั่นจักรยานชมทิวทัศน์สวยๆ ของฟุคุชิมะ

ฟุคุชิมะมีแนวชายฝั่งสวยๆ อยู่มากมาย ทัวร์จักรยานริมทะเลพร้อมไกด์เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับการสัมผัสกับความงดงามดังกล่าว

Hayate Cycle เป็นร้านเช่าจักรยานที่ตั้งอยู่ในเมือง Iwaki นอกจากบริการเช่าจักรยานแล้ว ยังมีทัวร์พร้อมไกด์ชมจุดต่างๆ ของตัวเมืองให้บริการอยู่อีกด้วย ไกด์จะทำการวางแผนเส้นทางให้โดยดูตามฤดูกาลและสภาพอากาศ ในกรณีของวันที่เราเดินทางไปนั้น เป็นเส้นทางที่ปั่นไปตามชายฝั่ง และแวะที่ศาลเจ้าซึ่งอยู่ระหว่างทาง

หลังจากฟังคำอธิบายจากเจ้าของร้าน เราก็ได้เล่นกับมาลอน สุนัขปอมเมอเรเนียนชื่อดังประจำร้าน จากนั้นก็ปั่นจักรยานออกไปตามทัวร์ของเรา

Hayate Cycle ครบครันไปด้วยจักรยานหลายแบบ มีทั้งจักรยานเสือภูเขาและจักรยานเสริมแรงปั่นด้วยไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับจักรยานหรือผู้ที่ออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ ก็ขอแนะนำให้ลองเลือกจักรยานเสริมแรงปั่นดูสักครั้ง มอเตอร์ที่ติดอยู่กับจักรยานสามารถช่วยได้มากเวลาเร่งความเร็วหรือปั่นขึ้นเนิน ทำให้ทัวร์สะดวกสบายขึ้นมาก ในขณะเดียวกันก็ไม่ทุ่นแรงจนเกินไปอีกด้วย

เราได้ปั่นไปตามสัญญาณมือที่เข้าใจง่ายของไกด์ ผ่านถนนท้องถิ่นและย่านที่ดูมีเสน่ห์ พลางขึ้นลงไปตามเนินที่ไม่สูงชันมาก ในระหว่างทัวร์ได้มีการหยุดพักและชมวิวเป็นครั้งคราว อีกฝากหนึ่งของทุ่งต้นกกมีคลื่นสงบๆ ที่ส่องระยิบระยับไปด้วยแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังจมลงทะเล เป็นทิวทัศน์ที่ทำให้พวกเราตกตะลึงจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว

เราได้เดินทางมาถึงศาลเจ้า Benten ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเล็กน้อย จากนั้นก็ทำการจอดจักรยาน แล้วเดินข้ามสะพานที่ดูลึกลับราวกับมีเวทมนตร์ไป

เกาะขนาดเล็กนี้มีเพียงรูปปั้นหินไม่กี่ชิ้นและโทริอิสีแดงสดหนึ่งหลัง บรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยหินขรุขระและคลื่นที่พัดตีเข้ามานั้น ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในต่างโลกเลยทีเดียว เราได้ถ่ายรูปที่ระลึกโดยปีนขึ้นไปบนหินที่ทับถมอยู่ตามธรรมชาติ หลังจากนั้นก็ปั่นจักรยานกลับไปที่ร้านก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า

ฟุคุชิมะมีมนต์เสน่ห์ที่ไม่ว่าใครๆ ก็สามารถเพลิดเพลินได้

ความเป็นไปได้ของฟุคุชิมะในฐานะแหล่งท่องเที่ยวนั้น เป็นสิ่งที่อาจถูกมองข้ามโดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ หากได้ลองค้นหาเพียงเล็กน้อยก็จะพบว่าจังหวัดนี้อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ หรืออาหาร ฟุคุชิมะก็สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งนั้น กิจกรรมที่เราไปสัมผัสมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภูเขาน้ำแข็ง ช่วยให้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นในหลายๆ เรื่อง จังหวัดฟุคุชิมะยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอยู่อีกมาก เป็นสถานที่ที่จะช่วยมอบประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงได้อย่างแน่นอน


ทัวร์อื่นๆ ของจังหวัดฟุคุชิมะ : https://fukushima.travel/tours/

กดติดตาม Fukushima Tourism Information
อินสตาแกรมอย่างเป็นทางการ : https://www.instagram.com/rediscoverfukushima/

มนต์เสน่ห์โทโฮคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Kim
Kim S.
เกิดและโตในอเมริกา ปัจจุบันทำงานอยู่ในละแวกโตเกียว ชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมเป็นพิเศษ มักเดินทางไปสถานที่ลับๆ หรือย่านเงียบสงบทั่วญี่ปุ่นเพื่อตามหาบรรยากาศท้องถิ่นหรือย้อนยุคที่ทำให้รู้สึกได้ย้อนเวลาไปในอดีต นอกจากนี้ยังชอบออกตามหาสถานที่พิเศษๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและร้านกาแฟอร่อยๆ ทั่ว 47 จังหวัดของญี่ปุ่น
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร