วัดและศาลเจ้า 10 แห่งในโตเกียวที่จะได้สนุกไปกับการชมดอกไม้

วัดและศาลเจ้าในโตเกียวนั้น มีสถานที่ที่มีดอกไม้เบ่งบานอยู่มากมาย นอกจากซากุระแล้ว ก็ยังมีดอกไม้อื่นๆ ให้เพลิดเพลินได้อีกมากมายเช่นกัน เราขอนำเสนอวัดและศาลเจ้า 10 แห่งที่จะได้มาเพลิดเพลินไปกับการชมดอกไม้ที่สมกับความเป็นญี่ปุ่น พร้อมกับได้มาสักการะวัดและศาลเจ้าด้วย

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. ศาลเจ้าอาตาโกะ (ซากุระ) [Toranomon]

แม้ว่าที่โตเกียวนั้นจุดชมซากุระขึ้นชื่ออยู่มากมายหลายแห่งก็ตาม แต่ซากุระที่ชมได้จากศาลเจ้าอาตาโกะ (Atago Shrine) นั้นเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การมาชมสักครั้งเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะมีจำนวนต้นซากุระไม่มากและไม่สามารถนั่งใต้ต้นไม้แล้วจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ได้ แต่สภาพดอกซากุระที่เบ่งบานโดยมีตึกระฟ้าเป็นฉากหลังนั้นคือ "โตเกียว" อย่างแท้จริง ภาพทิวทัศน์ที่มีกลีบดอกไม้ร่วงหล่นกระจัดกระจายลงมาบนบ่อน้ำจนถูกย้อมเป็นสีชมพูนั้นแทบทำให้เราพูดไม่ออกเลยทีเดียว อีกทั้งคนยังไม่เยอะมาก ทำให้สามารถมาใช้เวลากลางเมืองใหญ่ได้อย่างสบายๆ

เว็บไซต์: www.atago-jinja.com/sp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 1-5-3 Atago, Minato-ku, Tokyo (Google Map)

2. วัดจินไดจิ (ชิดาเระซากุระ) [Chofu]

ต้นซากุระจะมีกิ่งก้านที่ตั้งตรงและหันไปทางด้านบนเป็นส่วนมาก แต่ซากุระสายพันธุ์ชิดาเระซากุระจะมีกิ่งก้านเรียวยาวโค้งงอและยืดยาวลงด้านล่าง ซึ่งท่านสามารถมาชมต้นชิดาเระซากุระที่ใหญ่โตได้ที่วัดจินไดจิ (Jindaiji Temple) แห่งนี้ โดยชิดาเระซากุระจะเข้าสู่ช่วงที่เหมาะแก่การชมที่สุดช้ากว่าโซเมอิโยชิโนะที่เป็นซากุระสายพันธุ์โดยทั่วไปอยู่เล็กน้อย การที่สามารถมาเพลิดเพลินไปกับการชมดอกไม้เป็นเวลานานโดยเปลี่ยนสายพันธุ์ซากุระได้นั้นก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าดีใจมากๆ

เว็บไซต์: www.jindaiji.or.jp

ที่ตั้ง: 5-15-1 Jindaijimotomachi, Chofu-shi, Tokyo (Google Map)

3. วัดชิโอบุเนะคันนอนจิ (ชวนชม) [Ome]

ที่โตเกียวนั้นแม้ว่าจะมีศาลเจ้าเนสึที่เป็นจุดชมดอกชวนชม (สึสึจิ) ที่เลื่องชื่อที่สุดอยู่แล้วก็ตาม แต่ที่วัดชิโอบุเนะคันนอนจิ (Shiofune Kannon-ji) ก็สวยงามไม่แพ้กัน ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับดอกชวนชมที่เบ่งบานทั่วเขตวัดเป็นสีแดง ขาว และชมพูตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยสถานที่ที่ดอกชวนชมเบ่งบานนั้นจะมีความลาดชันอยู่เล็กน้อย ทำให้ตอนที่มันบานสะพรั่งเต็มที่อาจทำให้ท่านอึ้งไปกับความตระการตาของมันเลยก็เป็นได้ ช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบานอาจแตกต่างกันออกไปเป็นระยะเวลาพอสมควรในแต่ละปี เพราะฉะนั้น ก่อนแวะมาก็เช็คข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ให้ดีก่อนนะ

เว็บไซต์: www.shiofunekannonji.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 194 Shiobune, Ome, Tokyo (Google Map)

4. ศาลเจ้าคาเมโดะเทนจิน (ดอกฟูจิ) [Takahata-fudō]

ที่ศาลเจ้าคาเมโดะเทนจิน (Kameido Tenjin Shrine) นั้น ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับดอกฟูจิโดยมีสกายทรี (Tokyo Skytree) เป็นฉากหลังตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยที่ดอกฟูจิมีจุดเด่นอยู่ที่มันจะเริ่มเบ่งบานจากราวพาดมีหลังคาที่เรียกว่าฟูจิดานะ (Fuji-dana) แล้วไล่ลงไปทางด้านล่าง ถ้าได้เข้ามาใต้ฟูจิดานะก็จะถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสว่างสีม่วงซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามชวนฝันมากๆ อีกทั้งในตอนกลางคืนยังมีการฉายไฟไลท์อัพทำให้เกิดเป็นความงดงามอีกแบบหนึ่งด้วย

เว็บไซต์: kameidotenjin.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 3-6-1 Kameido, Koto-ku, Tokyo (Google Map)

5. วัดโคโซจิ (ดอกชาคุนาเกะ) [Tsurukawa]

ที่วัดโคโซจิ (Kozoji) ซึ่งบ้างก็เรียกว่าเป็นวัดแห่งดอกไม้นั้น ท่านสามารถมาเพลิดเพลินไปกับดอกไม้นานาชนิดได้ตลอดปี โดยดอกไม้ที่สวยงามเป็นพิเศษก็ได้แก่ดอกชาคุนาเกะ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จะมีชาคุนาเกะ 30 สายพันธุ์นับ 1,500 ต้นที่ปลูกอยู่ในเขตวัดบานสะพรั่งสวยงาม แม้ว่าดอกชาคุนาเกะจะเป็นพวกประเภทเดียวกันกับดอกชวนชมก็ตาม แต่ก็ต่างจากชวนชมตรงที่มีประกายแสงอยู่บนใบและมีดอกไม้หลายดอกเบ่งบานจากก้านๆ เดียว อีกทั้งยังมีกลีบดอกไม้เป็นจำนวนมากและยังมีรูปร่างหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูราวกับชุดฟูๆ ของผู้หญิงอีกด้วย

เว็บไซต์: www.kouzouji.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 1739 Miwamachi, Machida-shi, Tokyo (Google Map)

6. ศาลเจ้าเมจิจิงกุ (ดอกฮานะโชบุ) [Harajuku]

ศาลเจ้าเมจิจินงูแม้ว่าจะเป็นที่นิยมมากๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวด้วยรูปลักษณ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างสง่างาม และเดินทางมาได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้ชิบูย่าก็ตาม แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไรนักว่ามีดอกฮานะโชบุที่งดงามมากอยู่ โดยดอกฮานะโชบุในสวนหลวงเมจิจิงกุ (Meiji Shrine Inner Garden) นั้นจะมีดอกเบ่งบานเป็นสีม่วงเข้มหลายโทนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงจะต้องจ่ายค่าเข้าสวน 500 เยนแต่มันก็งดงามคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปจริงๆ นะ

เว็บไซต์: www.meijijingu.or.jp/english/index.html

เว็บไซต์: www.meijijingu.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 1-1 Yoyogikamizonocho, Shibuya-ku, Tokyo (Google Map)

7. วัดโคเก็นอิง (บัวเผื่อน) [Kugayama]

เมื่อพูดถึงดอกไม้ประจำศาสนาพุทธก็จะนึกถึงดอกบัว ซึ่งที่วัดโคเก็นอิง (Kōgen-in) ในเขต Setagaya จะมีดอกบัวเผื่อนที่ช่วยเติมแต่งสีสันให้บ่อน้ำในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน แม้ว่าจะไม่ใช่ดอกไม้ที่มีความฉูดฉาดแต่ก็มีความงดงามที่ให้ความรู้สึกองอาจผึ่งผาย อีกทั้งตามช่องระหว่างดอกบัวเผื่อนแต่ละดอกที่โดนลมแล้วลอยไปมานั้นยังมีพ่อแม่ลูกเป็ดเทาพันธุ์จีนที่ว่ายน้ำอยู่ ซึ่งจะทำให้ท่านรู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นมาอย่างแน่นอน

ที่ตั้ง: 4-30-1 Kitakarasuyama, Setagaya-ku (Google Map)

8. ศาลเจ้ายูชิมะเท็นมันงู (ดอกบ๊วย) [Yushima]

ภายในเขตศาลเจ้าที่มีชื่อต่อท้ายว่า "เท็นมันงู (Tenmangū)" หรือ "เท็นจิน (Tenjin)" นั้นจะต้องมีดอกบ๊วยเบ่งบานอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งศาลเจ้ายูชิมะเท็นมันงู (Yushima Tenmangū) ที่ตั้งอยู่ใกล้อุเอโนะแห่งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดยดอกบ๊วยที่โตเกียวจะเบ่งบานในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคมซึ่งยังเป็นฤดูที่มีอากาศหนาวเย็นอยู่ แม้ว่ามันจะคล้ายคลึงกับซากุระมากก็ตาม แต่มันเตี้ยกว่าซากุระและมีดอกเล็กๆ ที่โค้งมนและให้ความรู้สึกที่น่าเอ็นดู ที่ศาลเจ้ายูชิมะเท็นจิน (Yushima Tenjin เป็นชื่อเรียกโดยทั่วไปของยูชิมะเท็นมันงู) นั้นมีต้นบ๊วยอยู่ถึง 300 ต้น แล้วพอถึงฤดูกาลก็จะมีการจัดงานเทศกาลบ๊วยขึ้นมาทำให้คึกคักไปทั่วเขตศาลเจ้าเลย

เว็บไซต์: www.yushimatenjin.or.jp/pc/eng-page/english.htm

เว็บไซต์: www.yushimatenjin.or.jp/pc/index.htm (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 3-30-1 Yushima, Bunkyo-ku, Tokyo (Google Map)

9. วัดนิชิอาราอิไดชิ (ดอกโบตั๋น) [Nishiarai]

แม้ว่าคนญี่ปุ่นจะชื่นชอบดอกไม้ที่เล็กๆ ดูสงบเสงี่ยมอย่างดอกซากุระก็ตาม แต่ดอกไม้ที่มีรูปลักษณ์และสีสันฉูดฉาดแต่ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่เมื่อก่อนก็มีอยู่เช่นกัน นั่นก็คือดอกโบตั๋นที่มีกลีบใหญ่และเยอะ ซึ่งถูกใช้เปรียบเปรยลักษณะการนั่งของหญิงงามมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว สวนโบตั๋นในวัดนิชิอาราอิไดชิ (Nishiarai Daishi) มีประวัติความเป็นมามากกว่า 200 ปี ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม จะมีดอกโบตั๋นนับ 4,500 ดอก 100 สายพันธุ์ที่แข่งกันโชว์ความงามออกมา

 

เว็บไซต์: www.nishiaraidaishi.or.jp (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 1-15-1 Nishiarai, Adachi-ku, Tokyo (Google Map)

10. วัด Takahatafudoson Kongoji (ดอกอาจิไซ) [Takahatafudo]

ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมที่ญี่ปุ่นจะถือเป็นฤดูฝน ซึ่งดอกไม้ที่จะช่วยปลอบประโลมความรู้สึกที่หดหู่เศร้าหมองก็คือดอกอาจิไซ (Ajisai ไฮเดรนเยียญี่ปุ่น) นั่นเอง รูปลักษณ์ของมันที่มีดอกเล็กๆ เบ่งบานโค้งมนเข้าหากันราวกับลูกบอลนั้นดูเหมือนขนมมาก และไม่น่าเชื่อว่าที่วัด Kongoji แห่งนี้จะมีดอกอาจิไซให้เพลิดเพลินอยู่ถึง 7,500 ดอกเลยทีเดียว ยังไงก็ลองค่อยๆ มาเดินสำรวจพร้อมกับค้นหาดอกอาจิไซที่ถูกใจท่านที่สุดดูกันนะ

เว็บไซต์: www.takahatafudoson.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

ที่ตั้ง: 116-10 Takahata, Hino-shi, Tokyo (Google Map)

มนต์เสน่ห์คันโต

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu Japan
นี่คือแอ็คเคาท์ทางการของ tsunagu japan
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร