รวม 12 จุดชมใบไม้แดงใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้แดงในเกียวโต ญี่ปุ่น (อัพเดท 2023)

ในฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นนั้น สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ การไปชม "ใบไม้เปลี่ยนสี" หรือ "ใบไม้แดง" ที่งดงาม ซึ่งเป็นสีสันที่หาไม่ได้ในฤดูอื่นและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปชมใบไม้แดงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเกียวโต เพราะมีสิ่งปลูกสร้างที่มีสีสันตัดกับใบไม้แดงได้อย่างงดงาม เราจึงได้คัดสรรสุดยอดจุดชมใบไม้แดง 12 แห่งรอบเกียวโตมาให้คุณได้รับชมเพื่อวางแผนทริปชมใบไม้แดงของคุณ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. วัดโทฟุคุจิ (東福寺) | พื้นที่ฮิกาชิยาม่า

"วัดโทฟุคุจิ" เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยกันดีในฐานะจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีใจกลางเมืองเกียวโต ด้วยเขตอารามที่มีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ติดกับเขตที่อยู่อาศัยของชาวเกียวโตและจังหวัดข้างเคียง แถมยังมี "ประตูซันมง (三門)" และ "สวนโฮโบะเทเอ็น (本坊庭園)" ซึ่งถูกลงทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติอีกด้วย ที่นี่มีต้นเมเปิ้ลสายพันธ์ Iroha Momiji และ Kaede อยู่ราว 2,000 ต้น มีใบไม้สีแดงประดับประดาอย่างสวยงาม

นอกจากนี้ ยังมี "สะพานซือเทนเคียว (通天橋)" ที่เชื่อมต่อระหว่างวิหารหลักและ "วิหารไคซันโด (開山堂)" ที่ผู้มาเยือนสามารถชื่นชมกับทัศนียภาพของเนินสูงได้อีกด้วย สิ่งที่ห้ามพลาดของที่นี่คือ "ซือเทนโคโย (通天紅葉)" ใบไม้แดงที่มีปลายแยกเป็นสามแฉกและดูราวกับมีสีทองแต้มอยู่ ที่นี่นับเป็นหนึ่งในสถานที่ขึ้นชื่อสำหรับการชมใบไม้แดงและในช่วงที่ใบไม้แดงยังเต็มต้นอยู่ก็มักมีนักท่องเที่ยวแห่มาชมธรรมชาติกันอย่างแน่นขนัด ถ้าจะไปเราขอแนะนำให้เผื่อเวลาไว้เยอะหน่อย จะได้เที่ยวชมวัดได้อย่างถ้วยทั่ว

*ช่วงชมใบไม้แดง : ปลายเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนธันวาคม
*ในฤดูชมใบไม้แดงหากมีนักท่องเที่ยวมากเกินไปอาจมีการประกาศห้ามถ่ายรูปที่สะพานซือเทนเคียวและสะพานกาอุนเคียว (臥雲橋)

2. วิหารบิชามงโด (毘沙門堂) | พื้นที่ยามาชินะ

ที่นี่เป็นวิหารสำหรับสักการะบิชามงเท็น (毘沙門天) เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ทางเข้าวิหารหลักของที่นี่เป็นทางลาด และเมื่อเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะกลายเป็นใบไม้สีแดงไปทั่วราวกับปูพรม โดยบริเวณของพรมใบไม้ หรือ "ชิกิโคโย (敷き紅葉)" นี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงของวิหารบิชามงโด และเป็นสิ่งที่ยังเป็นสิ่งที่หาดูที่อื่นได้ยากอีกด้วย

ภายในเขตอารามยังมีสวน "บันซุยเอ็น (晩翠園)" ซึ่งเป็นสวนแบบญี่ปุ่นแท้ๆ อยู่ด้วย ตัวสถานที่อาจจะห่างจากเขตเมืองอยู่สักหน่อย แต่ที่นี่คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันแสนหฤหรรษ์และเงียบสงบแบบญี่ปุ่นจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว

*ช่วงชมใบไม้ไม้แดง :กลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน

3. วิหารเอคังโด (永観堂) | พื้นที่ฮิกาชิยาม่า

ในบรรดาจุดชมใบไม้แดงอันโด่งดังของเกียวโตนั้น "วิหารเอคังโด" เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจนถึงขั้นได้รับสมญานามว่า "เอคังโดแห่งใบไม้แดง" และมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ชาวญี่ปุ่น ประวัติและชื่อเสียงเรื่องการชมใบไม้แดงของที่นี่มีมาตั้งแต่รัชสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794 - 1185) ภายในเขตอารามมีต้นเมเปิ้ลสายพันธุ์ Momiji และ Kaede กว่า 3,000 ต้น และยังมี "หอมหาสมบัติทาโฮโตะ (多宝塔)" กับสวนญี่ปุ่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัดพุทธอยู่ภายในด้วย

นอกจากนี้ ยังมีต้นเมเปิ้ลที่งอกเองตามธรรม่ชาติแทรกตัวผ่านแผ่นหินตัดที่ปูบนทาง ซึ่งเรียกว่า "อิวะคาคิ โมมิจิ (岩垣モミジ)" ให้ชมด้วย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถไขปริศนาได้ว่าเหตุใดต้นเมเปิ้ลเหล่านี้จึงสามารถโผล่พ้นแผ่นหินขึ้นมาได้ ทำให้พวกมันกลายเป็น "หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของวิหารเอคังโด" ไปนั่นเอง

*ช่วงชมใบไม้แดง :กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
*ช่วงจัดไฟประดับ :วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2019 - วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2019
*เวลาเปิดไฟประดับ :17:30 - 20:30 น. (ปิดประตู 21:00 น.)

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. ศาลเจ้าคิบุเนะ (貴船神社) | พื้นที่คิบุเนะ

"ศาลเจ้าคิบุเนะ" เป็นศาลเจ้าโบราณสำหรับสักการะเทพเจ้าแห่งน้ำ โดยเป็นที่รู้จักในฐานะจุดเสริมดวงชะตาเรื่องเนื้อคู่อีกด้วย บริเวณนี้มีต้นเมเปิ้ลที่โตตามธรรมชาติราว 3,000 ต้น ซึ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีฉูดฉาดสดใส และเพราะที่นี่มีต้นเมเปิ้ลหลากหลายสายพันธุ์ปะปนกันอยู่ ทำให้เห็นทั้งสีเขียว เหลือง ส้ม แดงที่ไล่เฉดปนกันไป ทำให้ดูสวยงามไปอีกแบบ

ทุกๆ ปีในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน บริเวณบันไดทางเข้าศาลเจ้าไปจนถึงวิหารกลางจะเป็นจุดที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเต็มที่ และเมื่อเข้าฤดูใบไม้แดงก็จะมีการประดับโคมไฟที่เรียกว่า "เทศกาลคิบุเนะ โมมิจิ โทโระ (貴船もみじ灯篭)" ให้ได้ชมภาพทิวทัศน์ของใบไม้แดงที่ห้อมล้อมด้วยแสงจากโคมไฟที่ดูสวยงามราวกับอยู่ในโลกแห่งจินตนาการเลยล่ะ

*ช่วงชมใบไม้แดง :ต้นเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
*เทศกาล Kibune Momiji Toro:2 พฤศจิกายน - 24 พฤศจิกายน 2019 (วันเสาร์ - อาทิตย์)

Klook.com

5. วัดเอนโคจิ (圓光寺) | พื้นที่ราคุโฮคุ

"วัดเอนโคจิ" เป็นหนึ่งในตัวแทนจุดชมใบไม้แดงของเกียวโตที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ "เกียวโตในฤดูใบไม้ร่วง" สำหรับใบไม้แดงของที่นี่นั้น มีไฮไลท์คือสวน "สวนจูกิว โนะ นิวะ (十牛之庭)" ซึ่งมีทางเดินรอบสระน้ำที่กลมกลืนไปกับทิวทัศน์โดยรอบให้คุณได้ไปเดินเล่นอีกด้วย

เมื่อเข้าช่วงใบไม้แดง ต้นเมเปิ้ลป่าสายพันธ์ Kaede ในบริเวณรอบๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพร้อมเพรียงกัน ทำให้สวนมีสีสันฉูดฉาดงดงาม นอกจากนี้ใบไม้แดงของ "วัดเอนโคจิ" ยังขึ้นชื่อว่าดูสวยงามที่สุดในช่วงที่ใบเริ่มจะร่วงอีกด้วย ใบไม้แดงที่ร่วงลงสู่พื้นของที่นี่จะถูกเรียกว่า "ชิริโคโย (散り紅葉)" หรือไม่ก็ "ชิคิโคโย (敷き紅葉)" ซึ่งเมื่อร่วงไปกับพื้นที่มีผืนหญ้าเขียวปูอยู่ก็จะทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น และสัมผัสได้ถึงช่วงเวลาแห่งฤดูใบไม้ร่วงได้ดีทีเดียว

การเดินแถวนี้อาจจะไม่สะดวกนักเพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร แต่ก็มีรถไฟสาย Hizan Dentetsu ที่จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับใบไม้แดงที่ขึ้นอยู่สองข้างของรางรถไฟจากบานหน้าต่างได้อย่างถนัดตา แม้จะต้องเดินทางไกลสักหน่อย แต่คุณจะรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้มาไปตลอดทางเลยล่ะ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะได้หนีความวุ่นวายไปพักผ่อนในที่ที่เงียบสงบพร้อมกับชมวิวใบไม้แดง เรียกว่ามาทีเดียวแต่โชคถึงสองชั้นเลยก็ว่าได้

*ช่วงชมใบไม้แดง:กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม

6. วัดรุริโคอิน (瑠璃光院) | พื้นที่ราคุโฮคุ

"วัดราคุโคอิน" เคยเป็นสถานที่ชมใบไม้แดงที่คนไม่ค่อยรู้จักมาก่อน แต่เพราะปีหลังๆ มานี้ มีคนนำรูปไปลงอินสตาแกรมกันมากมาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โต๊ะหอพระคัมภีร์ที่อยู่ชั้น 2 ที่สะท้อนภาพใบไม้แดงเป็นจุดที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังให้กับที่นี่จนเป็นที่สนใจในโลกโซเชียล ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และภายในวัดแห่งนี้ยังมีสวนญี่ปุ่นถึง 3 แห่ง

เมื่อลอดประตูพระอารามเข้าไปก็จะพบกับ "สวนซันโรจิ (山露路の庭)" และ "สวนรุริ (瑠璃の庭)" ซึ่งสามารถชมได้จากบนหอพระคัมภีร์ และจากห้องดื่มชาก็มี "สวนการิว (臥龍の庭)" แผ่กว้างออกมา แต่ละสวนต่างมีลักษณะเด่นเป็นของตนเอง เราจึงอยากชวนทุกคนให้ไปลองใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศของแต่ละสวนกันอย่างเต็มที่ดู การเที่ยวเกียวโตในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ สำหรับนักถ่ายภาพแล้วจะขาดภาพของ "วัดรุริโคอิน" ไปไม่ได้เลยล่ะ

*ช่วงชมใบไม้แดง:กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม

7. วัดเก็นโคอัน (源光庵) | พื้นที่ทาคากามิเนะ

ที่ "วัดเก็นโคอัน" คุณจะสามารถชมใบไม้แดงได้จากหน้าต่างวิหารหลักของวัด ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้แดงยอดนิยมไปโดยปริยาย ภายในมหาวิหารยังมีหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า "มาโยอิ โนะ มาโดะ (迷いの窓)" ที่แสดง "ช่วงชีวิตของมนุษย์" และหน้าต่างทรงกลมที่ชื่อว่า  "ซาโตริ โนะ มาโดะ (悟りの窓)" ซึ่งแสดงภาพของ "มหาจักรวาล" อีกด้วย ว่ากันว่าเพียงแค่มองเข้าไปในหน้าต่างเหล่านี้ ก็สามารถเกิด "ดวงตาเห็นธรรม" ตามหลักพุทธศาสนาได้เลยทีเดียว ส่วนทิวทัศน์ของใบไม้แดงที่มองเห็นจากภายในวิหารหลักที่มืดสลัวได้ก็ยิ่งเพิ่มความสดใสของสีบนใบไม้ขึ้นไปอีก บรรยากาศแบบนี้สามารถหาชมได้เฉพาะที่วัดเก็นโคอันแห่งนี้เท่านั้น

เนื่องจากบริเวณนี้ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย ทำให้การเดินทางอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ บวกกับวัดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทำให้มีคนน้อย แต่ก็มีบรรยากาศที่เงียบสงบให้คุณสามารถใช้เวลาผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่แน่นอน 

*ช่วงชมใบไม้แดง:กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. ศาลเจ้าคิตาโนะ เทนมังกู (北野天満宮) | พื้นที่คิตาโนะ

"ศาลเจ้าคิตาโนะ เทนมังกู" เป็นมหาวิหารหลักของ "ศาลเจ้าเทน (天神社)" ซึ่งมีวิหารอยู่ถึงหมื่นแห่งทั่วญี่ปุ่น และยังมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ขุนพลยุคเซ็นโกคุ "โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ" เป็นผู้สร้างขึ้น ที่นี่ยังมีทั้ง "ชิเซกิ โอโดอิ (史跡御土居) และ "สวนเมเปิ้ล (もみじ苑)" โดยโอโดอินั้นหมายถึงกำแพงที่ใช้ปกป้องการโจมตีจากข้าศึกและกันน้ำหลาก และที่ "สวนเมเปิ้ล" นั้น ก็มีต้นใบไม้แดงราว 350 ต้น โดยต้นไม้บางต้นเป็นต้นไม้โบราณที่มีวงปีถึง 350-400 ปีเลยทีเดียว เพียงแค่มองต้นไม้แต่ละต้นก็รู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของสวนเมเปิลและศาลเจ้าแห่งนี้ได้เลยล่ะ นอกจากนี้ภายในเขตศาลเจ้ายังมีการจัดไฟประดับต่างๆ ในช่วงชมใบไม้แดงอีกด้วย ทำให้ไม่ว่าจะไปตอนกลางวันหรือกลางคืนก็สามารถเข้ามาชมความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งนี้ได้

*ช่วงชมใบไม้แดง:ต้นเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม

9. วัดโจจัคโคจิ (常寂光寺) | พื้นที่อาราชิยาม่า

หากจะพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในเกียวโตแล้ว คงไม่นึกถึง "อาราชิยาม่า (嵐山)" ไม่ได้ บริเวณนี้เต็มไปด้วยแหล่งชมใบไม้แดงมากมายกระจัดกระจายกันอยู่โดยหนึ่งในนั้นคือ "วัดโจจัคโคจิ" นี้เอง วัดนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง อาราชิยาม่ากับ "แม่น้ำคัตสึระกาวะ (桂川)" โดยตั้งอยู่บน "เชิงเขาโอกุระยาม่า (小倉山)" ที่หันหน้าเข้าฝั่งแม่น้ำ ภายในเขตอารามเต็มไปด้วยต้นเมเปิลสายพันธ์ุ Momiji และ Kaede ซึ่งแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า "ชิคิโคโย (敷き紅葉)" แผ่ขยายไปตามพื้นหิน แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแต่ก็ยังมีคนไม่มาก ทำให้เป็นสถานที่ที่คุณสามารถมาพักผ่อนพลางใช้เวลาดื่มด่ำชื่นชมใบไม้แดงไปอย่างช้าๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

*ช่วงชมใบไม้แดง:กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน

10. วัดเทนริวจิ (天龍寺) | พื้นที่อาราชิยาม่า

"วัดเทนริวจิ" เป็นวัดโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 700 ปี ภายในเขตอารามยังถือเป็นโบราณสถานแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสถานที่พิเศษประจำประเทศ รวมถึงเป็นโบราณสถานที่ถูกจดทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ทางเดินรอบ "สวนโซเก็นจิ เทเอ็น (曹源池庭園)" นั้นกล่าวกันว่ามีโครงสร้างเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในบริเวณสวนแน่นอนว่าต้องมีใบไม้แดงอยู่ด้วย และการมีฉากหลังเป็น "อาราชิยาม่า" ที่แผ่กว้างออกไปอย่างกลมกลืนก็ทำให้ทัศนียภาพในฤดูใบไม้ร่วงที่ของนี่ดูสวยงามขึ้นไปอีก ช่วงกลางวันเป็นช่วงที่คนแน่นเบียดเสียดกันมากจึงขอแนะนำให้ไปช่วงเช้าๆ จะดีกว่า ยิ่งกลางเดือนพฤศจิกายน จะมีเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 7:30 น.อยู่แล้วด้วย การตื่นเช้าๆ ไปเที่ยวชมวัดเทนริวจิให้เต็มตาก็ถือเป็นหนึ่งไอเดียเที่ยวชมใบไม้แดงในเกียวโตที่ดีไม่เลวเลยล่ะ!

*ช่วงชมใบไม้แดง:กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม

11. ช่องแคบโฮะซุเกียว (保津峡) | พื้นที่อาราชิยาม่า

"ช่องแคบโฮะซุเกียว" เป็นจุดที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอคาเมะโอกะกับอาราชิยาม่า โดยมีระยะทางรวมราว 16 กิโลเมตร ที่นี่คุณยังสามารถ "ล่องแม่น้ำโฮซุกาวะ (保津川下り)" ที่คุณจะสามารถได้ไปกับทิวทัศน์ของช่องแคบและเทือกเขาตลอดระยะเวลาราว 2 ชั่วโมงบนเรือได้อีกด้วย

หากได้ไปล่องเรือที่นี่แล้วล่ะก็ ถ้าเป็นไปได้ เราขอแนะนำให้เลือกลำแรกสุดหรือลำสุดท้ายของวัน เพราะว่าการชมใบไม้แดงในช่วงเช้าตรู่ที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา หรือจะเป็นใบไม้แดงที่มีแสงจากรถไฟสาดเข้ามาหลังพระอาทิตย์ตกก็เป็นภาพที่น่าดูไม่แพ้กันเลย ยิ่งฤดูใบไม้แดงที่นี่ยิ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงควรที่จะซื้อตั๋วล่วงหน้าเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อการันตีว่าคุณจะได้ขึ้นเรือได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม อากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นจัดจึงควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อมด้วย

*ช่วงชมใบไม้แดง:กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม

Klook.com

12. วัดโคไดจิ (高台寺) | พื้นที่ฮิกาชิยาม่า

"วัดโคไดจิ" แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อส่งหนึ่งในขุนพลผู้เกรียงไกรของญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 15 นามว่า "โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (豊臣秀吉)" ให้ไปสู่สุคติ หนึ่งในจุดเด่นของที่นี่คือ "วิหารไคซันโด" และสุสานที่ยังคงสภาพเดิมตั้งแต่สร้างโดยได้มีการปรับปรุงใดๆ แม้แต่ตอนสถาปนาวัดแห่งนี้ขึ้นมา

จุดแนะนำสำหรับการชมใบไม้แดงคือ สวนญี่ปุ่นที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นสุดยอดโบราณสถาน โดยเฉพาะ "สระน้ำการิวจิ (臥龍池)" ที่รายล้อมไปด้วยใบไม้สีแดง และผิวน้ำเหนือสระที่เงียบสงบจนดูคล้ายกระจกสะท้อนภาพใบไม้แดงขึ้นมาให้เราได้ชื่นชมกัน ตอนกลางคืนสะน้ำแห่งนี้ยังมีการประดับไฟให้เราได้ชื่นชมบรรยากาศอันลึกลับที่ล้อมรอบตัวเราอีกด้วย เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงที่ต้องลองไปชมตอนหลังอาทิตย์ตกดินให้ได้สักครั้งจริงๆ

*ช่วงชมใบไม้แดง:ต้นเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม
*ช่วงประดับไฟ:25 ตุลาคม 2019 - 15 ธันวาคม 2019
*ช่วงเปิดไฟ:หลังพระอาทิตย์ตกจนถึงเวลาปิดทำการ

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คันไซ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Keisuke
Keisuke Tsunekawa
เป็นคนญี่ปุ่นที่ชอบหลีกหนีจากชีวิตในเมืองโตเกียวเป็นครั้งคราว เพื่อค้นพบเส้นทางใหม่ๆ รวมถึงท่องเที่ยวในประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าได้สนุกกับการเชื่อมโยงกับสิ่งที่แตกต่างไปจากที่เคยทำเคยเห็นในชีวิตประจำวัน
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร