10 โรงแรมสำหรับดื่มด่ำไปกับนาราอย่างเต็มที่

10 โรงแรมสำหรับดื่มด่ำไปกับนาราอย่างเต็มที่

1. Nara Hotel (奈良ホテル)

โรงแรมแห่งแรกที่เราขอแนะนำก็คือ Nara Hotel โรงแรมเก่าแก่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของนารา เปิดกิจการมาแล้วกว่า 110 ปี ในอดีตเคยทำหน้าที่เป็นอาคารต้อนรับแห่งคันไซ ซึ่งคนในราชวงศ์และแขกคนสำคัญของประเทศเคยมาเข้าพัก
ตัวโรงแรมตั้งอยู่บนเนินสูงที่อุดมไปด้วยธรรมชาติในมุมหนึ่งของสวนสาธารณะนารา สวนสาธารณะที่เป็นที่ตั้งของมรดกโลกอันโดดเด่นของนารา เช่น วัดโคฟุคุจิ (興福寺) และวัดโทไดจิ (東大寺)

โรงแรมแห่งนี้ประกอบขึ้นด้วยอาคาร 2 หลัง ได้แก่ อาคารหลักและอาคารใหม่
อาคารหลักสร้างขึ้นในปี 1909 และมีห้องพัก 62 ห้อง เตาผิงตั้งแต่ตอนที่สร้างโรงแรมนั้นยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในอาคาร ส่วนของตกแต่งก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอายที่สง่างาม
อีกด้านหนึ่ง อาคารใหม่สร้างขึ้นในปี 1984 ห้องพักทุกห้องหันหน้าเข้าหาสวนส่วนกลางที่เขียวขจี มีระเบียงและหน้าต่างที่สามารถชมทิวทัศน์สวยๆ ราวกับกำลังอยู่ท่ามกลางป่าไม้เลยทีเดียว

ภายในอาคารเพียบพร้อมไปด้วยภัตตาคารที่ดูลุ่มลึกและอลังการ ร้านอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูญี่ปุ่น บาร์แบบต้นตำรับ และเลานจ์น้ำชาที่เปิดโล่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่
คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาที่สง่างาม โดยเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารอร่อยๆ ภายใต้บรรยากาศที่มีความคลาสสิก

2. Fufu Nara (ふふ 奈良)

Fufu Nara เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยู่ในมุมหนึ่งของสวนสาธารณะนาราเช่นเดียวกัน
ทุกจุดภายในอาคารสามารถสังเกตเห็นภาชนะและแจกันดอกไม้ที่สร้างขึ้นจากดินของนาราโดยช่างฝีมือในท้องถิ่น รวมถึงวัสดุไม้ "โยชิโนะซุงิ" (吉野杉) ซึ่งเป็นไม้เกรดหรูของนาราที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ประกอบกันเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลาย

ห้องพักทุกห้องเป็นแบบ Suite Room แต่ละห้องมีการจัดวางที่ต่างกัน สามารถเลือกได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่แบบที่ไม่มีกำแพงกั้นห้องนอน ไปจนถึงแบบที่ห้องนอนอยู่แยกออกไป นอกจากนี้ ออนเซ็นกลางแจ้งส่วนตัวก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คุณจะได้ดื่มด่ำการแช่น้ำที่หรูหรา พลางชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติตามฤดูกาลของสวนญี่ปุ่นที่แผ่กว้างอยู่เบื้องหน้า

ในส่วนของมื้ออาหาร มื้อค่ำสามารถเลือกได้ระหว่างเทปปังยากิกับอาหารญี่ปุ่น ซึ่งปรุงขึ้นโดยวัตถุดิบของนารา ส่วนมื้อเช้าก็จะเรียงรายไปด้วยอาหารท้องถิ่นของนาราที่มีรสชาติอ่อนโยน นอกจากนี้ บาร์บรรยากาศชิคๆ ที่เสิร์ฟค็อกเทลสูตรออริจินัลก็มีให้บริการอยู่เช่นกัน

โรงแรมนี้ยังพร้อมไปด้วย Body Care Room ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ทรีทเม้นท์สบายๆ ที่ใช้เพียงมือเท่านั้น เป็นโอกาสดีมากที่จะมาเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวัน

3. Nipponia Hotel Nara Naramachi (NIPPONIA HOTEL 奈良 ならまち)

กล่าวกันว่านาราเป็นสถานที่แรกในญี่ปุ่นที่มีการนำข้าวมาทำเป็นสาเก ส่งผลให้มันถูกเรียกว่า "บ้านเกิดของสาเกญี่ปุ่น" โรงแรมที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ ได้นำบ้านเรือนโบราณที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ทำสาเกของโรงกลั่นชื่อดังของนารา มารีโนเวทเป็นที่พักแสนสบาย โดยคงเหลือบรรยากาศของอาคารหลังเก่าเอาไว้ด้วย

มื้อค่ำของโรงแรมนี้เน้นเป็นอาหารที่เข้ากับสาเกญี่ปุ่น สามารถดื่มด่ำเมนูแนวฝรั่งเศสอร่อยๆ มากมาย ไปพร้อมๆ กับสาเกหลากหลายชนิด ตั้งแต่สาเกแบบสปาร์คกลิ้ง สาเกประจำฤดูกาล ไปจนถึงสาเกที่ทำขึ้นสำหรับโรงแรมนี้เท่านั้น

ห้องพักมีอยู่ทั้งหมด 8 ห้อง แต่ดีไซน์ที่ใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ของแต่ละห้อง เช่น คานที่ยื่นออกมาและเพดานสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงกลั่นสาเก แม้จะดูกะทัดรัด แต่ก็มีบรรยากาศที่น่าผ่อนคลายอย่างสบายๆ เป็นโรงแรมที่สามารถสัมผัสความสวยงามของบ้านเรือนญี่ปุ่น

4. Haruya Naramachi (はる家 ならまち)

Haruya Naramachi เป็นที่พักทรงมาจิยะ (บ้านญี่ปุ่นโบราณ) ที่ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบ ตัวอาคารรีโนเวทมาจากบ้านเรือนที่มีอายุกว่า 120 ปี และสะดุดตาด้วยกำแพงปูนปลาสเตอร์สีขาวสวยงาม มีห้องพักทั้งหมด 15 ห้อง ยกตัวอย่างเช่น ห้องแบบหอพักที่จะได้เข้าพักในโรงเก็บของ และห้องเดี่ยวที่มีบรรยากาศชวนผ่อนคลาย ภายในพื้นที่มีสวนส่วนกลาง สามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ธรรมชาติของทั้งสี่ฤดูกาล

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของบ้านแบบมาจิยะคือ "โทรินิวะ" (通り庭) ที่เป็นทางเดินตรงๆ จากทางเข้าไปถึงสวนส่วนกลางที่อยู่ลึกเข้าไป โรงแรมแห่งนี้ได้นำโทรินิวะดังกล่าวมาใช้เป็นพื้นที่ใช้สอยส่วนรวม สามารถดื่มชาและกาแฟ รวมถึงสามารถทำอาหารรับประทานเองได้ด้วย โรงแรมนี้ไม่มีการเสิร์ฟอาหารเนื่องจากเจ้าของมีความคิดว่า "อยากให้แขกได้เข้าพักราวกับอยู่อาศัยในนารา" เป็นสไตล์ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการรับประทานข้างนอก หรือไม่ก็ทำอาหารรับประทานเอง มีแขกจำนวนมากที่เลือกใช้บริการเป็นสถานที่พักระยะยาว

จักรยานมีประโยชน์มากในการเที่ยวนารา หากเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็จะสามารถเช่าจักรยานจากโรงแรมนี้ได้ สามารถขี่จักรยานเข้าออกโรงแรมได้ตามที่คุณต้องการ เป็นที่พักมีเอกลักษณ์ที่ได้พักผ่อนราวกับอยู่บ้านของตัวเอง

5. Iroha Grand Hotel Kintetsu Nara Ekimae (いろはグランホテル近鉄奈良駅前)

Iroha Grand Hotel Kintetsu Nara Ekimae เป็นโรงแรมในตำแหน่งที่ตั้งยอดเยี่ยม โดยเดิน 2 นาทีจากสถานีนาราของรถไฟ Kintetsu ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของการท่องเที่ยวนารา และใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการเดินไปทางเข้าสวนสาธารณะนารา

ตัวโรงแรมเป็นอาคารใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 ห้องพักทุกห้องเป็นแบบปลอดบุหรี่ มีห้องพักทั้งหมด 143 ห้อง โดยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น Double Room ที่ใช้เตียงดับเบิ้ล และ Wayoshitsu Type (ห้องญี่ปุ่นผสมตะวันตก) ที่มาพร้อมกับเตียงและเสื่อทาทามิ

มื้อเช้าจะเสิร์ฟให้คุณรับประทานที่ร้านอาหารบรรยากาศน่าผ่อนคลาย เมนูหลักจะเปลี่ยนไปทุกวัน สามารถเลือกได้ระหว่างเมนูปลากับเมนูเนื้อ โดยมาพร้อมกับเมนูจำพวกสลัด เป็นการเสิร์ฟในสไตล์กึ่งบุฟเฟ่ต์ คุณจะได้เติมพลังกับมื้อเช้าอร่อยๆ และสนุกไปกับการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

6. JW Marriott Hotel Nara (JWマリオット・ホテル奈良)

โรงแรมสาขาแรกในญี่ปุ่นของ JW Marriott เครือโรงแรมชั้นหรูของอเมริกา ของตกแต่งภายในอาคารเป็นผลงานของบริษัทออกแบบในลอนดอนที่เคยข้องเกี่ยวกับโรงแรมหรูทั่วโลก มีบรรยากาศเก๋ไก๋ที่รับแรงบันดาลใจมาจากวัด ศาลเจ้า วัฒนธรรม และความเชื่อของนารา

ห้องพักมีทั้งหมด 158 ห้อง โดยมี 16 ห้องที่เป็น Suite Room มีบรรยากาศเก๋ไก๋และชวนผ่อนคลาย ใช้อเมนิตี้ของแบรนด์อโรม่าชั้นแนวหน้าของอังกฤษ Aromatherapy Associates ภายในอาคารมีสปาที่สามารถมารับบริการทรีทเม้นท์จากผลิตภัณฑ์ของบริษัทเดียวกันนี้

ในส่วนของร้านอาหารนั้น มีทั้งโรงอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูสากลที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก และ Azekura (校倉) ที่สามารถลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับภายในร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโชโซอิน (正倉院) ซึ่งเป็นคลังสมบัติของวัดโทไดจิ คุณจะได้ดื่มด่ำไปกับวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ส่งตรงมาจากทั่วญี่ปุ่น

นอกจากนี้ เพื่อแขกที่ไม่อยากขาดการออกกำลังกายแม้ในระหว่างการท่องเที่ยว ภายในอาคารจึงครบครันไปด้วยสระว่ายน้ำในร่ม ฟิตเนสที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และอ่างจากุซซี่ ซึ่งแขกที่มาเข้าพักสามารถใช้บริการได้อย่างฟรีๆ

7. Centurion Hotel Classic (センチュリオンホテルクラシック奈良)

โรงแรมในตำแหน่งที่สามารถเดินไปสถานีนาราของรถไฟ JR และรถไฟ Kintestsu สะดวกมากต่อการเที่ยวสถานที่หลักๆ ของนารา

ห้องพักมีอยู่หลายแบบ ตั้งแต่ Single ที่กะทัดรัดและใช้งานสะดวก ไปจนถึงห้องแบบ Double และ Twin เป็นบรรยากาศที่ประณีตบรรจงและชวนผ่อนคลาย ห้องพักทุกห้องมาพร้อมกับเตียงของ Slumberland แบรนด์ที่ราชวงศ์อังกฤษเลือกใช้งาน

มื้อเช้าเน้นเป็นอาหารท้องถิ่นของนารา เช่น ชายุ (เมนูที่ใส่ข้าวเย็นๆ ลงในน้ำชาต้มเดือด) มีเมนูยอดนิยมเป็นแกงกะหรี่อินเดียสูตรต้นตำรับที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ คุณจะได้เติมพลังเริ่มวันใหม่อย่างสบายๆ ไปกับมื้อเช้าแสนอร่อย

8. Hotel Nikko Nara (ホテル日航奈良)

โรงแรมที่สะดวกอย่างมากด้านการเดินทาง โดยเชื่อมต่ออยู่กับสถานีนาราของรถไฟ JR ห้องพักมีทั้งหมด 330 ห้อง โดดเด่นด้วยเตียงใหญ่ๆ และของตกแต่งภายในที่สว่างไสวและชวนผ่อนคลาย การันตีได้ถึงการเข้าพักที่สะดวกสบาย ห้องที่ขอแนะนำก็คือ ห้องที่สามารถมองเห็นสัญลักษณ์ของนาราจากทางหน้าต่าง เช่น ภูเขาวาคาคุซะและเจดีย์ห้าชั้น

โรงแรมนี้มีความภาคภูมิใจเป็น บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่เรียงรายไปด้วยเมนูกว่า 50 ชนิด สามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูท้องถิ่นและอาหารดั้งเดิมที่มีรสชาติล้ำลึกและอุดมไปด้วยโภชนาการ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ของนาราและความชาญฉลาดของคนในอดีต อีกหนึ่งเมนูที่ควรลองให้ได้ก็คือ โชจินเรียวริ (อาหารสำหรับพระสงฆ์) ที่จำลองขึ้นโดยได้รับความร่วมอย่างเต็มที่จากวัดโคฟุคุจิ มรดกโลกของนารา

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของโรงแรมนี้คือ โรงอาบน้ำรวมที่แขกที่มาเข้าพักสามารถใช้บริการได้ฟรี เป็นออนเซ็นฝีมือมนุษย์ที่ทำจากหินโคเมเซกิ (光明石) แร่ธรรมชาติอันทรงคุณค่าที่ขุดได้จากจังหวัดโอคายามะ มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการปวดเส้นประสาท ปวดกล้ามเนื้อ และเยียวยาความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ ซาลอนเสริมความงามแบบห้องเดี่ยวล้วน และมุมเครื่องเล่นฟิตเนสที่สามารถใช้บริการได้ฟรี ก็มีอยู่เช่นกัน รับรองว่าจะช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้อย่างแน่นอน

9. Nara Royal Hotel (奈良ロイヤルホテル)

โรงแรมที่ภายนอกเป็นผนังอิฐ และมีบรรยากาศที่นุ่มลึก ตั้งอยู่ใกล้กับร่องรอยเฮโจเกียว (平城京跡) มรดกโลกที่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงในอดีต

ห้องพักตั้งอยู่บนชั้น 3 และ 4 ของอาคาร เป็นห้องแนวตะวันตกที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่แบบ Single ไปจนถึงแบบ Family ที่กว้างขวาง ตอบโจทย์ได้ตั้งแต่การเดินทางคนเดียวไปจนถึงการเดินทางเป็นกลุ่มคณะ ภายในห้องมีธีมผ่อนคลายและสงบสุข ตกแต่งในโทนสีอ่อนโยนและสว่างไสว

ใต้ดินชั้น 1 เพียบพร้อมไปด้วยสถานให้บริการออนเซ็น โดยดึงน้ำมาจากออนเซ็นที่ผุดขึ้นในมุมหนึ่งของเฮโจเกียว มีทั้งโรงอาบน้ำรวมพร้อมซาวน่า และซาลอนคลายเครียดที่มีบริการบอดี้แคร์และซาวน่าหิน เหมาะมากสำหรับการผ่อนคลายและเยียวยาร่างกาย

10. Hotel Asyl Nara (ホテルアジール奈良)

โรงแรมในตำแหน่งที่สามารถเดินถึงได้จากสถานีนาราของรถไฟ JR และ Kintetsu ห้องพักมีทั้งหมด 39 ห้อง มีให้เลือกตั้งแต่แบบ Single ที่กะทัดรัด แบบห้องญี่ปุ่นดั้งเดิมที่น่าผ่อนคลาย ไปจนถึงแบบ Suite Room ที่เข้าพักได้สูงสุด 8 คน ซึ่งมาพร้อมกับครัวขนาดย่อมและอ่างอาบน้ำจากไม้ฮิโนกิ

มื้ออาหารจะเสิร์ฟให้คุณรับประทานที่ร้านอาหารกึ่งห้องเดี่ยว โดยมีให้เลือกระหว่างโต๊ะห้องส่วนตัวกับโต๊ะที่มีฉากกั้น เมนูที่เสิร์ฟเน้นเป็นคอร์สอาหารญี่ปุ่นจากวัถตุดิบสดใหม่ภายในท้องถิ่น เหมาะมากสำหรับรับประทานคู่กับสาเกท้องถิ่นของนารา

โรงอาบน้ำรวมเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของโรงแรมนี้ คุณจะได้เหยียดร่างกายและเยียวยาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปอย่างสบายๆ ในกรณีที่ชอบความเป็นส่วนตัว ก็สามารถใช้บริการบ่อแบบเช่าเหมาได้ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) คุณจะได้แช่น้ำโดยไม่ต้องกังวลถึงแขกคนอื่นๆ ในอ่างน้ำที่ทำขึ้นจากชิงารากิยากิ (信楽焼) เครื่องเผาโทนสีนุ่มลึกที่เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดชิงะ ซึ่งอยู่ในภูมิภาคคันไซเช่นเดียวกันกับนารา

ส่งท้าย

นาราเป็นจังหวัดที่เดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจากสถานีโตเกียวโดยนั่งชินคันเซ็นและต่อด้วยรถไฟสายปกติ และประมาณ 1 ชั่วโมงจากสถานีโอซาก้าโดยนั่งรถไฟ นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์แล้ว ก็มีวิธีเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เที่ยวกินของอร่อยๆ และสัมผัสกับกวางน่ารักๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของนารา เป็นบริเวณที่ควรแวะไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง