9 ร้านอาหารวีแกน (Vegan) ที่อร่อยที่สุดในชินจูกุ เอาใจสายเฮลตี้

จากการสำรวจในปี 2014 มีเพียง 4.7% ของประชากรชาวญี่ปุ่นเท่านั้นที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรืออาหารวีแกน (มังสวิรัติประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่รับประทานเนื้อสัตว์ทุกประเภทและผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ทุกชนิด เน้นรับประทานพืชผักผลไม้ คนที่เคร่งมากๆ จะยังหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิดและยังคัดค้านการใช้สัตว์ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย) จึงทำให้หาตัวเลือกของร้านอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนนั้นได้ค่อนข้างยาก นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคทางด้านภาษาที่อาจจะทำให้วันหยุดของคุณกลายเป็นหายนะตั้งแต่วันแรก! แต่ไม่ต้องกังวลไป คุณจะสามารถหาตัวเลือกของอาหารมังสวิรัติไปจนถึงอาหารวีแกนในโตเกียวได้จากบทความนี้

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

1. AIN SOPH.ripple

ร้านแรกที่ขอแนะนำก็คือ ร้าน AIN SOPH เป็นร้านอาหารวีแกนที่มีอยู่หลายสาขาทั่วโตเกียว โดยเฉพาะสาขาในชินจูกุนั้นได้รีวิวจากผู้ใช้บริการจำนวนมาก จากเมนูเบอร์เกอร์ที่ทั้งใหญ่และอร่อย จนนักท่องเที่ยวมากมายต้องแวะกลับไปที่ร้านอีกครั้งทั้งที่เพิ่งกินไปได้ไม่นานเพื่อดูว่าเมนูอื่นๆ จะอร่อยเหมือนกันไหมเลยทีเดียว

นอกเหนือจากเบอร์เกอร์แล้ว ที่ AIN SOPH ยังมีเมนูต่างๆ อีกมากมาย ทั้งเบอร์ริโต สลัด หรือแม้กระทั่งของหวานอย่างเฟรนช์โทสต์ก็ด้วย ที่หน้าร้านจะวางกระดานบอกเมนูทั้งหมดของร้านไว้ แต่ถ้าคุณแค่เดินผ่านไปเฉยๆ ก็สามารถเหลือบมองจากเมนูที่เขียนอยู่บนกระจกร้านด้านนอกดูก็ได้

หากคุณจะไปเที่ยวที่บริเวณอื่นๆ ของโตเกียวอย่างกินซ่าหรืออิเคบุคุโระ คุณก็สามารถแวะไปลิ้มลองอาหารวีแกนของ AIN SOPH ที่สาขาอื่นได้เช่นกัน ทุกสาขาล้วนแต่มีเมนูวีแกนและคุณอาจจะได้เจอตัวเลือกแปลกๆ ที่ไ่มีที่สาขาชินจูกุก็ได้!

2. AIN SOPH.journey สาขาชินจูกุ

ร้านนี้ก็เป็นอีกสาขาหนึ่งของเครือร้านอาหารวีแกน AIN SOPH แต่เมนูของร้านนี้จะต่างจากร้านที่เป็นฟาสต์ฟู้ดอย่างสิ้นเชิงเลย โดยจะขายเมนูวีแกนแสนอร่อยอย่าง Pasta Lunch ปลอดกลูเตน (1,350 เยน ยังไม่รวมภาษี) แสนอร่อยดังภาพด้านบน

สิ่งหนึ่งที่พิเศษสำหรับสาขานี้ก็คือ เมนูอาหารที่เป็นภาษาอังกฤษและมีรายการวัตถุดิบกับสารก่อภูมิแพ้เขียนไว้อย่างชัดเจนซึ่งหาได้ยากมากในญี่ปุ่น จำนวนเมนูอันหลากหลายนั้นมีมากพอที่จะครอบคลุมทั้ง 4 ฤดู และขนมหวานแสนอร่อยอย่าง Heavenly Pancakes (1,500 เยน ยังไม่รวมภาษี) ดังภาพด้านบนด้วย

หากคุณต้องการที่จะพักหายใจจากความวุ่นวายในชินจูกุ เราขอแนะนำให้แวะไปที่ร้านนี้ดู โทนร้านที่เป็นสีไม้จะช่วยทำให้คุณผ่อนคลายแถมยังมีเครื่องดื่มให้เลือกอีกเพียบ ตั้งแต่ไวน์ไปจนถึงชาสมุนไพรเลยทีเดียว ซึ่งมันจะช่วยให้คุณผ่อนคลายไปกับช่วงเวลาอันสงบสุขได้อย่างแน่นอน 

3. CHAYA Macrobiotics

ร้านนี้มีเมนูที่มีอาหารทะเลอยู่ด้วย จึงไม่ใช่ร้านอาหารวีแกน 100% แต่ทางร้านก็มีเมนูสำหรับนักท่องเที่ยวที่กินวีแกนให้เลือกอยู่หลายเมนูเลยทีเดียว โดยเมนูจะมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ คุณเลยจะเห็นได้ง่ายๆ ว่าในจานจะมีอะไรบ้าง แต่ถ้าไม่มีเขียนกำกับไว้ว่าเป็นวีแกน ก็ต้องดูให้แน่ใจนะว่ามีส่วนผสมของอาหารทะเลด้วยหรือเปล่า

แม้ว่าร้านนี้จะเป็นร้านที่สามารถแวะเวียนไปใช้บริการได้ในทุกๆ โอกาส แต่เราขอแนะนำให้คุณมาที่นี่ตอนที่กำลังมองหาของหวานอร่อยๆ เพราะที่ร้านนี้มีเมนูของหวานวีแกนให้เลือกเยอะมากๆ รวมไปถึงขนมเค้กปลอดกลูเตน ไข่ นม และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ลองจับคู่ขนมที่บอกกับกาแฟหรือชาออร์แกนิคของทางร้านดูสิ แล้วคุณจะติดใจ!

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

4. MiseLMA

ชื่อร้านอ่านว่า "มิเสะรุมา" ร้านกาแฟอันแสนมีเอกลักษณ์แห่งนี้เสิร์ฟอาหารวีแกนรสเลิศ ขนมปังทำเอง และขนมอบปลอดกลูเตนตอนมื้อกลางวัน ส่วนกลางคืนก็จะเปลี่ยนเป็นบาร์ที่มีคราฟต์เบียร์กว่า 50 แบบจากทั่วโลกให้ได้ลองชิมกัน

 

เจ้าของร้านใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มาก เพื่อให้แน่ใจว่าผักที่ใช้นั้นปลอดสารพิษและขนมปังที่ทำเองนั้นจะไม่มีส่วนผสมของไข่หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ฯลฯ หากคุณแพ้อะไรหรืออยากได้อาหารฮาลาล (อาหารตามแนวทางอาหารอิสลาม เป็นอาหารที่ไม่มีสิ่งต้องห้ามเจือปน เช่น เหล้า หรือไขมันหมู เป็นต้น) ก็สามารถบอกกับเจ้าของร้านได้เลย ภาษาอังกฤษของเธอดีมากๆ คุณจะไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารอย่างแน่นอน

ภายในร้านอันมีสเน่ห์แบบเก่าๆ นี้สามารถรองรับลูกค้าได้เพียงครั้งละ 6 ท่าน ถ้าวันไหนที่ยุ่งแบบสุดๆ ก็ขอให้ดูได้เลยว่าคุณจะต้องต่อแถวรอ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เชื่อจริงๆ ว่ามันคุ้มค่ากับการรอคอย! เพราะไม่เพียงแค่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารวีแกนที่หากินได้ยากในญี่ปุ่นแล้ว คุณยังจะได้เห็นแมวของที่ร้านทำอะไรน่ารักๆ ให้ทาสแมวต้องใจละลายด้วย!

Klook.com

5. wired bonbon

ถ้าคุณเป็นสายหวาน คุณต้องไม่พลาดร้านนี้! ร้านอยู่ในห้างสรรพสินค้า LUMINE ในชินจูกุที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ คุณเลยสามารถแวะไปหาอะไรกินได้ง่ายๆ ระหว่างที่ช็อปปิ้งอยู่

 

ถึงทางร้านจะไม่มีอาหารคาวที่เป็นวีแกนให้ได้เลือกมากนัก แต่ของหวานทุกเมนูนั้นเป็นวีแกนทั้งหมดแถมยังได้รีวิวเรื่องความอร่อยกับปริมาณที่ให้ดีมากๆ เลยด้วย ภาพด้านบน คือ Apple Daigaku Potato (980 เยน ยังไม่รวมภาษี) ถ้าคุณอยากลองกินอะไรหวานๆ แต่ยังดีต่อสุขภาพ งั้นก็ลองไปที่ร้านนี้ดูสิ แล้วคุณจะติดใจ!

 

6. Sky High สาขาชินจูกุ

หิวน้ำเหรอ งั้นแวะไปที่ร้าน Sky High แล้วหาน้ำผลไม้หรือน้ำปั่นวีแกนดื่มสักหน่อยเป็นไง ผักและผลไม้ทั้งหมดที่ทางร้านใช้ล้วนแล้วแต่ปลอดสารแถมยังสดมากๆ ด้วย รับรองได้เลยว่าคุณจะได้ของดีอย่างแน่นอน แถมที่ร้านยังมีเมนูพิเศษประจำเดือนไว้เป็นเซอร์ไพรส์สนุกๆ ด้วยนะ นอกจากร้านที่ชินจูกุแล้ว ยังมีสาขาที่อาโอยาม่าและฮิโรโอะด้วย

7. Mr.FARMER สาขาชินจูกุ MYROAD

ร้านอาหารยอดฮิตแห่งนี้เด่นในเรื่องวัตถุดิบชั้นเลิศ ยกตัวอย่างเช่น วัตถุดิบทั้งหมดนั้นจะมาจากไร่ 100 แห่งทั่วญี่ปุ่นที่ทางร้านเป็นคนเลือกเอง แถมทางร้านก็ยังพยายามใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษให้ได้มากที่สุดและหลีกเลี่ยงการใช้สารปรุงแต่งใดๆ ในอาหารด้วย

แม้ว่าทุกเมนูจะไม่ใช่วีแกน แต่ก็มีเมนูวีแกนและเมนูปลอดกลูเตนให้คุณได้เลือกตามชอบ อย่างเช่น แกงเขียวหวานผักวีแกน เสิร์ฟพร้อมกับคินัวและข้าวกล้อง (1,750 เยน ยังไม่รวมภาษี) อย่างที่เห็นได้จากภาพด้านบน คุณถึงขั้นลองชิมเฝอ ซึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเวียดนามแบบวีแกนได้ด้วยนะ ถึงราคามันจะสูงไปสักหน่อย แต่ก็คาดหวังเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้กับรสชาติรอไว้ได้เลย

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของร้านนี้คือ บริการน้ำดื่มฟรี ที่คุณสามารถเลือกได้ถึง 4 รสชาติตามภาพที่เห็นด้านบน รวมไปถึงการตกแต่งภายในอันสวยงามที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบและผ่อนคลายจากวันอันวุ่นวายของคุณได้อย่างแน่นอน แน่นอนว่าคะแนนรีวิวจากนักท่องเที่ยวก็ดีสุดๆ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

8. Futaba Fruits Parlor สาขา Shinjuku Marui Main Building

ร้านอาหารนี้เกิดจากการร่วมมือกันของร้าน Futaba Fruits ร้านผลไม้ยักษ์ใหญ่ที่เปิดทำการในโตเกียวมากว่า 75 ปี กับบริษัทที่เป็นผู้บริหารร้าน wired bonbon (ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น) ที่ร้านมีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งฮอตเค้ก แซนด์วิช หรือแม้แต่อาหารคาวอย่างแกงกะหรี่ แต่ต้องไม่ลืมนะว่าไม่ใช่ทุกเมนูที่เป็นอาหารวีแกน

เมนูของหวานจะแยกออกมาต่างหากเลย เพราะลูกค้าจะกลับมาอยู่หลายครั้งเพื่อชิมขนมหวานที่มีให้เลือกเยอะมากๆ แพนเค้ก พาร์เฟ่ต์ ไอศกรีม ไม่ว่าจะเป็นขนมแบบไหนก็ตามที่คุณคิดถึง ทางร้านอาจมีแบบวีแกนด้วยนะ! หากแพ้กลูเตน ทางร้านก็สามารถปรับให้ได้ ขอเพียงแค่คุณบอกมา ร้านนี้จึงเป็นร้านที่เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กินอาหารแตกต่างกัน

9. AFURI สาขาชินจูกุ LUMINE

ใช่ ตอนนี้คุณกินราเมงวีแกนได้แล้วนะ! ร้านนี้เป็นร้านแรกที่ขายราเมงวีแกน โดยใช้น้ำซุปผัก 100% ท็อปปิ้งด้วยผักสดตามฤดูกาลแถมตัวเส้นก็ยังผสมรากบัวด้วย (ไม่มีไข่!) หน้าตาจะเหมือนกับภาพที่เห็นด้านบนเลย

หากคุณสนใจอยากลองชิมราเมงวีแกน สาขาที่หาได้ง่ายที่สุดคือสาขาที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า LUMINE แต่ต้องไม่ลืมนะว่าเมนูส่วนใหญ่นั้นจะไม่ใช่เมนูวีแกน เลยอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นเนื้อสัตว์สักเท่าไหร่

อาหารวีแกนหรือแม้แต่อาหารมังสวิรัติเป็นอาหารที่หาได้ยากมากในญี่ปุ่น ซึ่งหากคุณ เพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวของคุณมีแพลนที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นในอนาคต การหาข้อมูลเพื่อเป็นทางเลือกไว้ล่วงหน้าก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องรู้สึกหิวในญี่ปุ่น

หรือหากคุณต้องการตัวเลือกอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมา 9 แห่งข้างต้นนี้ คุณอาจจะสนใจที่จะไปร่วมทัวร์ที่พาไปรับประทานอาหารวีแกนหรืออาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพ ซึ่งทัวร์แบบนี้ก็ไม่ได้มีอยู่มากนัก แต่เราเจออยู่ทัวร์หนึ่งให้คุณได้ลองพิจารณาดู:

หากมีคำถาม คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะใดๆ เกี่ยวกับบทความของเรา สามารถติดต่อและติดตามเราผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ได้เลย !

มนต์เสน่ห์คันโต

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

Yuri
Yuri I.
เด็กสามวัฒนธรรมที่ในวัยเด็กได้เรียนหลักสูตรแคนาดาในประเทศอื่น พอโตมาก็ได้ต่อมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันอาศัยอยู่ในโตเกียวและกำลังรื้อฟื้นรากฐานความเป็นคนญี่ปุ่นผ่านทางงานเขียน ดนตรี และอาหาร
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ความสนใจที่เกี่ยวข้อง

ค้นหาร้านอาหาร