10 ที่พักห้ามพลาดในยามากาตะ ครอบคลุมทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์และย่านออนเซ็นย้อนยุค

ยามากาตะตั้งอยู่ในฝั่งทะเลญี่ปุ่นของภูมิภาคโทโฮคุ เป็นที่รู้จักจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างข้าวและเชอร์รี่ ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวโดยนั่งชินคันเซ็นประมาณ 3 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตข้าวจึงมีสาเกญี่ปุ่นชื่อดังอยู่มากมาย ในพักหลังนี้ ไวน์จากภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ของจังหวัดนี้ก็เป็นที่จับตามองเช่นกัน ทั้งยังเป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของญี่ปุ่น ตัวจังหวัดแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค แต่ละภูมิภาคมีวัฒนธรรมและภูมิอากาศที่ต่างกัน อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์มากมาย เช่น ของอร่อย คอร์สเดินชมธรรมชาติ ย่านออนเซ็นที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ชื่อดังที่สมกับเป็นเมืองชานปราสาท ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำที่พักในยามากาตะที่สะดวกต่อการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

บทความนี้อาจมีลิงก์พาร์ทเนอร์ หากคุณทำการซื้อผ่านลิงก์พาร์ทเนอร์ เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ

10 ที่พักห้ามพลาดในยามากาตะ

1. Hotel Metropolitan Yamagata (ホテルメトロポリタン山形)

Hotel Metropolitan Yamagata เชื่อมต่ออยู่กับสถานียามากาตะของรถไฟ JR ซึ่งเป็นศูนย์กลางของยามากาตะ เหมาะมากสำหรับใช้เป็นฐานหลักในการเดินทางไปสถานที่อื่นๆ

ห้องพักอยู่ในอาคารหลักและอาคารตะวันตกของโรงแรม ทุกห้องกว้างขวาง และสามารถพักผ่อนได้อย่างเงียบสงบจนลืมไปว่าอยู่หน้าสถานีที่แสนคึกคัก ชั้น 6 และ 7 ของอาคารเป็น Concept Floor ที่เรียงรายไปด้วยห้องที่มีคุณภาพสูงและใช้งานสะดวก ส่วนชั้น 8 ถึง 11 ก็เป็น Deluxe Floor ที่สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ เป็นพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์จากวัสดุธรรมชาติและสีสันที่ดูอบอุ่น

ในส่วนของห้องพิเศษนั้น มีห้องคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลาย เช่น ห้อง Suite บนชั้นบนสุด และห้องญี่ปุ่นผสมตะวันตกที่ของตกแต่งภายในมีการใช้ประโยชน์จากเทคนิคดั้งเดิมของยามากาตะ ซึ่งใส่ลวดลายเรขาคณิตลงในวัสดุไม้โดยไม่ใช้ตะปู นอกจากนี้ยังมีห้องดีไซน์สากลที่สะดวกต่อรถเข็นและรถเด็กอ่อน รวมถึงมีบริการให้ยืมที่นั่งโถส้วมสำหรับเด็กและรถเข็นเด็ก แม้จะมีเด็กเล็กมาด้วยก็สามารถเข้าพักได้อย่างสบายใจ

ที่ร้านอาหารของโรงแรมนี้ คุณจะได้ลิ้มรสของอร่อยตามฤดูกาลของยามากาตะ เช่น เมนูเทปปังยากิจากโยเนซาวะกิว (米沢牛) และยามากาตะกิว (山形牛) ที่เป็นเนื้อวัวแบรนด์ดังของยามากาตะ ซึ่งเชฟจะปรุงให้เห็นกันต่อหน้าตา

2. Daiwa Roynet Hotel Yamagata-Ekimae (ダイワロイネットホテル山形駅前)

Daiwa Roynet Hotel Yamagata-Ekimae ตั้งอยู่ในตำแหน่งอันยอดเยี่ยมที่เดิน 3 นาทีจากสถานียามากาตะของรถไฟ JR แม้จะเป็นโรงแรมแบบแคชชวล แต่ก็มีการบริการและของตกแต่งภายในที่หรูหราและประณีตบรรจง สามารถเข้าพักได้อย่างสบาย

ห้องพักมีพื้นที่กว้างขวาง แม้แต่แบบ Single ที่เล็กที่สุดก็ยังกว้างถึง 21 ตารางเมตร สามารถวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ได้อย่างสบายๆ ทั้งยังมีห้องแบ Fourth ที่สะดวกมากสำหรับทริปครอบครัวหรือกลุ่มคณะ เนื่องจากคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ห้องส่วนใหญ่จึงเป็นแบบที่ห้องอาบน้ำกับส้วมอยู่แยกจากกัน นอกจากนี้ ห้องพักทุกห้องก็ยังมาพร้อมกับทีวี 4K ขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของโรงแรมนี้ เป็นสมาร์ททีวีที่สามารถใช้ระบบแชร์หน้าจอเพื่อเพลิดเพลินไปกับเว็บไซต์และบริการซับสคริปชั่นต่างๆ ภายในโรงแรมยังมีฟิตเนสที่ครบครันไปด้วยเครื่องปั่นจักรยานและเครื่องวิ่งแบบเป็นเรื่องเป็นราว เหมาะมากสำหรับป้องกันการออกกำลังกายไม่พอระหว่างการเดินทาง

ที่โรงอาหารของโรงแรมนี้ คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารสุดฝีมือของเชฟผู้เคยเก็บประสบการณ์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังของเกียวโต โดยจะเสิร์ฟมื้อเช้าเป็นอาหารท้องถิ่นของยามากาตะ เช่น อิโมะนิ (いも煮) เมนูต้มที่ทำจากเผือกและเนื้อวัว รวมถึงมีเมนูจากเนื้อวัวของร้านเนื้อเก่าแก่ในท้องถิ่น เช่น แกงกะหรี่เนื้อและสตูเนื้อ ให้เลือกรับประทานอยู่อีกด้วย

3. Hohoemino Kuyufu Tsuruya (ほほえみの空湯舟 つるや)

Hohoemino Kuyufu Tsuruya เป็นที่ตั้งของเทนโดออนเซ็น (天童温泉) หนึ่งในออนเซ็นชื่อดังของยามากาตะที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีเมจิที่ 44 (ค.ศ. 1911) และได้ถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ออนเซ็นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่น" ทั้งยังอยู่ในเขตที่ติดกับตัวเมืองยามากาตะ จึงมีความสะดวกด้านการเดินทางด้วย

เมื่อผ่านทางเข้าเข้าไปก็จะพบล็อบบี้ที่ปูด้วยเสื่อทาทามิเต็มพื้นที่ และจัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์งานไม้เทนโด (天童木工) ที่เป็นงานฝีมือดั้งเดิม ตัวอาคารมีทางเดินที่สร้างขึ้นล้อมรอบสวนส่วนกลาง เป็นเทคนิคที่ช่วยให้สามารถชื่นชมสวนสวยๆ ได้จากทุกส่วนภายในอาคาร สัมผัสได้ถึงความดีงามของเรียวกังญี่ปุ่น เนื่องจากทางเดินภายในอาคารก็ปูด้วยเสื่อทาทามิ จึงสามารถใส่ถุงเท้าหรือเดินเท้าเปล่า และเพลิดเพลินไปกับผิวสัมผัสที่แสนสบาย

ห้องพักเป็นห้องญี่ปุ่นแนวโมเดิร์น มีให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น ห้องพร้อมบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง ห้องพร้อมโซนรับประทานอาหาร และห้องที่รองรับดีไซน์สากล สร้างขึ้นโดยให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และเอาใจใส่ลงลึกถึงรายละเอียด

โรงอาบน้ำรวมเพิ่งผ่านการรีโนเวทมาเมื่อเดือนธันวาคมของปีเรวะที่ 4 (ค.ศ. 2022) เป็นแบบหายากที่มีน้ำตื้นและปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิ ช่วยรองรับน้ำหนักได้อย่างนุ่มสบายและไม่ทำให้เท้าเย็น ทั้งยังมีบ่อแบบกลางแจ้งที่ติดตั้งไว้ที่ระเบียงไม้ ทั้งสองบ่อสามารถเพลิดเพลินไปกับเทนโดออนเซ็นที่ปล่อยไหลมาจากแหล่งน้ำ หลังจากแช่น้ำเสร็จแล้ว ก็สามารถไปดื่มด่ำกับอาหารอร่อยจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของยามากาตะ

4. Kaminoyama Onsen Nippon no Yado Koyo (かみのやま温泉 日本の宿 古窯)

คามิยามะออนเซ็น (かみのやま温泉) มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 560 ปี ตั้งอยู่ห่างจากสถานียามากาตะโดยนั่งรถบัสประมาณ 40 นาที ในบริเวณตีนเขาของซาโอ (蔵王) ที่มีชื่อเสียงในฐานะจุดเล่นสกี Kaminoyama Onsen Nippon no Yado Koyo ตั้งอยู่บนเนินสูงที่สามารถชมวิวเทือกเขาซาโอได้อย่างกว้างขวาง เป็นเรียวกังชื่อดังที่ติดอันดับท็อปเท็นของ "100 โรงแรมเรียวกังของญี่ปุ่นที่คัดเลือกโดยมืออาชีพ" ต่อเนื่องมากว่า 40 ปี

ห้องพักมีหลายแบบให้เลือกตามจำนวนคนและการใช้งาน เช่น ห้องพร้อมบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง ห้องญี่ปุ่นผสมตะวันตก ห้องญี่ปุ่นสมัยใหม่ และห้องเตียงคู่แบบตะวันตก นอกจากนี้ ที่ชั้นบนสุดก็ยังมีห้อง VIP ที่สามารถดื่มด่ำไปกับสุดยอดทิวทัศน์ของเทือกเขาซาโอ

ออนเซ็นของที่นี่ถูกเรียกว่าเป็น "น้ำำพุของคนงาม" มีลักษณะใส ไร้สี นุ่มลื่น รวมถึงมีสรรพคุณช่วยกักเก็บความร้อนและความชุ่มชื้น มีให้เพลิดเพลินทั้งในแบบบ่อกลางแจ้งจากไม้ฮิโนกิที่อบอวลไปด้วยความเป็นญี่ปุ่น และโรงอาบน้ำรวมแบบชมวิวที่สามารถดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของคามิยามะและความอลังการของเทือกเขาซาโอ บ่อเช่าเหมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีให้บริการอยู่เช่นกัน ทั้งยังมีซาวน่าร้อนและซาวน่าเย็น -5 องศาเซลเซียส ให้เพลิดเพลินไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

มื้อค่ำของที่นี่เป็นอาหารที่ทำขึ้นอย่างเอาใจใส่ชิ้นต่อชิ้น โดยใช้วัตถุดิบที่เป็นความภาคภูมิใจของท้องถิ่น เช่น ข้าว โยเนซาวะกิว และยามากาตะกิว ส่วนมื้อเช้าก็เป็นบุฟเฟ่ต์ที่เรียงรายไปด้วยผักสดใหม่ที่เก็บมาใหม่ๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมง กล่าวได้ว่าเป็นการดูแลเอาใจใส่อย่างหนึ่งของทางโรงแรม

5. Senkyo no Yado Ginzanso (仙峡の宿 銀山荘)

กินซันออนเซ็น (銀山温泉) เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงจากทิวทัศน์ที่ชวนให้นึกถึงวันวาน ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำกินซันเรียงรายไปด้วยอาคารไม้ทรงตะวันตกที่สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคไทโชถึงต้นยุคโชวะ (ประมาณปี 1920-1940) เมื่อเดินเที่ยวชมย่านออนเซ็นดังกล่าวนี้ไปประมาณ 5 นาที ก็จะพบกับ Senkyo no Yado Ginzanso

ห้องพักให้ความสำคัญกับความสบายและบรรยากาศน่าผ่อนคลายแบบญี่ปุ่น ทุกห้องหันหน้าเข้าหาแม่น้ำ เป็นสภาพแวดล้อมแสนสบายที่มีเสียงนกร้องให้ฟังในตอนเช้า และเยียวยาไปกับเสียงลำธารของแม่น้ำ พลางชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของแม่น้ำกินซันที่จะเปิดไฟไลท์อัพในช่วงกลางคืน ห้องที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษของที่นี่คือ ห้องพร้อมบ่อนอนแช่กึ่งกลางแจ้งที่สามารถแช่น้ำพลางชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของแม่น้ำกินซันผ่านทางหน้าต่าง

โรงอาบน้ำรวมของที่นี่มีบ่อในร่มที่เชื่อมต่ออยู่กับบ่อกลางแจ้ง สามารถย้ายไปแช่บ่อกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องเดินออกไปด้านนอก นอกจากนี้ยังมีบ่อนอนกลางแจ้งที่สามารถนอนชมท้องฟ้ายามค่ำคืน เป็นสุดยอดการผ่อนคลายที่หาที่เปรียบไม่ได้ ซาวน่าหินที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาจากภายในอย่างค่อยเป็นไปก็มีให้ใช้บริการอยู่เช่นกัน

มื้อค่ำเป็นอาหารท้องถิ่นที่ทำขึ้นจากวัตถุดิบในพื้นที่ โดยมีอาหารจานหลักเป็นเมนูจำพวกอบจากเนื้อวัวยามากาตะคุโรเกะวากิว (山形黒毛和牛) ร้านอาหารเป็นห้องแบบญี่ปุ่น สามารถเลือกได้ว่าจะนั่งแบบเก้าอี้หรือแบบฟูกรองพื้น

Klook.com

6. Miyamaso Takamiya (深山荘 高見屋)

ซาโอออนเซ็น (蔵王温泉) ได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะแหล่งท่องเที่ยว ในฤดูหนาวจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด และมีผู้คนมากมายจะทั้งในและนอกประเทศพากันมาเที่ยวชม อีกหนึ่งไฮไลท์ของบริเวณนี้ก็คือ Miyamaso Takamiya ที่เปิดกิจการขึ้นเมื่อปี 1716 เป็นอาคารไม้ทรงญี่ปุ่นแท้ที่มีเสน่ห์ สามารถสัมผัสถึงความงามดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นได้ตามส่วนต่างๆ ภายในอาคาร

ออนเซ็นของที่นี่เป็นแบบปล่อยไหลตามธรรมชาติ มีต้นน้ำอยู่ภายในบริเวณซึ่งผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดกิจการเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว เป็นออนเซ็นเข้มข้นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน บ่ออาบน้ำหลักมีเสน่ห์เป็นระแนงไม้สีดำและเสาต้นใหญ่ๆ ที่สัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ ส่วนบ่ออาบน้ำกลางแจ้งก็ใช้ถังไม้ที่ทำขึ้นโดยช่างฝีมือดั้งเดิมในท้องถิ่น นอกจากนี้ก็ยังมีบ่ออื่นๆ อยู่อีกหลากหลาย เช่น บ่อไม้ฮิโนกิ บ่อแช่เท้า และบ่อหินกลางแจ้งที่ทำจากหินตามธรรมชาติของซาโอ บ่อเช่าเหมาสำหรับผ่อนคลายอย่างเป็นส่วนตัวก็มีให้ใช้บริการอยู่เช่นกัน

ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบก็มีเสน่ห์ที่ต่างกัน เช่น ห้องญี่ปุ่น อาคารรองที่ภายนอกดูคล้ายโรงเก็บของ ห้องแบบมีชั้นลอย และห้องพร้อมบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง สามารถผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศสงบๆ ที่สมกับเป็นเรียวกัง

มื้ออาหารเป็นอาหารไคเซกิที่สามารถลิ้มรสวัตถุดิบตามฤดูกาล โดยเน้นไปที่วัตถุดิบตามภูเขาของยามากาตะ มีเมนูหลักเป็นสเต็กเนื้อวัวแบรนด์ซาโอกิว (蔵王牛) ที่ปรุงบนแผ่นเซรามิค อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมก็คือ สุกี้ชาบูนาเบะจากเนื้อซาโอกิวที่มีให้บริการเพียง 4 กลุ่มต่อ 1 วัน

7. Yumemi no Yado Kansyokan (ゆめみの宿 観松館)

Yumemi no Yado Kansyokan เปิดกิจการมาตั้งแต่ยุคเอโดะ (ปี 1603-1868) ในเซมิออนเซ็น (瀬見温泉) ออนเซ็นที่ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อประมาณ 800 ปีที่แล้ว เป็นหนึ่งในที่พักเก่าแก่ และมีคนในราชวงศ์มาเข้าพักอยู่หลายครั้ง

น้ำร้อนของที่นี่ใช้น้ำคุณภาพดีที่ปล่อยไหลมาจากเซมิออนเซ็น สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งแบบโรงอาบน้ำรวมที่มีธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของสี่ฤดูกาลให้ชมผ่านหน้าต่างบานใหญ่ และแบบบ่อกลางแจ้งที่สามารถผ่อนคลายและเยียวยาไปกับเสียงของแม่น้ำที่ไหลอยู่หน้าที่พัก

ห้องพักเน้นแบบห้องญี่ปุ่นเป็นหลัก มีห้องพร้อมโคทัตสึฝังดินที่ขอแนะนำมากสำหรับฤดูหนาว ห้องพักพร้อมบ่ออาบน้ำกลางแจ้งมี 7 ห้องซึ่งมีเสน่ห์แตกต่างกัน เช่น Satoyama no Sakura (里山の桜), Hotaru no Sato (ほたるの里), Yuyake no Akatonbo (夕焼けの赤とんぼ) ทั้งยังมีห้อง VIP ที่คนในราชวงศ์เคยเข้าพัก เหมาะมากสำหรับลองสัมผัสประสบการณ์ที่หรูหรา

มื้ออาหารเป็นเมนูออริจินัลที่จะเปลี่ยนไปทุกเดือน ปรุงขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบตามธรรมชาติอย่างเต็มที่สมกับที่เป็นที่พักกลางป่าเขา เช่น เห็ดและพืชตามภูเขา ปลาแม่น้ำอย่างปลาอายุ และผักดั้งเดิมของท้องถิ่น หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ขอแนะนำให้ไปเดินเล่นที่ย่านออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนให้นึกถึงวันวาน

8. Warabe Uta no Yado Yunohara (わらべ唄の宿 湯の原)

อาคาคุระออนเซ็น (赤倉温泉) เป็นออนเซ็นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กล่าวกันว่าเคยถูกใช้เป็นที่ชำระล้างสิ่งชั่วร้ายของเหล่านักบวชฝึกหัดในยุคคามาคุระ (ปี 1183-1333) ปัจจุบันเป็นออนเซ็นที่ได้รับความคุ้นเคยจากนักท่องเที่ยวที่มาเล่นลานสกีซึ่งอยู่ติดๆ กัน ย่านออนเซ็นเล็กๆ นี้เป็นที่ตั้งของ Warabe Uta no Yado Yunohara ที่พักที่สามารถดื่มด่ำไปกับความหรูหราของการไม่ต้องทำอะไร และปล่อยตัวไปกับกระแสเวลาที่ไหลผ่านอย่างช้าๆ

ออนเซ็นใช้น้ำที่ปล่อยไหลมาจากต้นน้ำ มีทั้งโรงอาบน้ำรวมและบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง สามารถแช่น้ำพลางเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่คอยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น เสียงแม่น้ำที่ไหลผ่านอยู่ใกล้ๆ ที่พัก และทิวทัศน์ตามฤดูกาลแบบป่าเขาใกล้เขตที่อยู่อาศัยที่สามารถมองเห็นได้จากบ่อกลางแจ้ง ด้านนอกอาคารมีเพิงเล็กๆ ให้เพลิดเพลินไปกับบ่อแช่เท้า สามารถมาใช้บริการได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะมานั่งอาหารหนังสือหรือคุยกับเพื่อน ก็สามารถทำได้ทั้งนั้น

ห้องพักแบ่งออกเป็นห้องในอาคารหลักที่เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ และห้องในอาคารใหม่ที่ทุกห้องหันเข้าหาแม่น้ำ รวมกันแล้วมีทั้งหมด 18 ห้อง เป็นจำนวนที่ไม่มากจนเกินไป สามารถพักผ่อนได้อย่างเงียบสงบ

มื้ออาหารเป็นเมนูออริจินัลที่ผสมผสานไว้ด้วยอาหารท้องถิ่นและวัตถุดิบในพื้นที่ มีปริมาณที่อัดแน่น ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากเหล่านักท่องเที่ยว

9. Shonai Hotel Suiden Terrasse (ショウナイホテル スイデンテラス)

Shonai Hotel Suiden Terrasse ตั้งอยู่ในโชไน (庄内) ที่อยู่ใกล้กับทะเลญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตข้าว เป็นโรงแรมแปลกตาที่ดูราวกับลอยอยู่บนทุ่งนา แม้ตัวอาคารจะดูเก๋ไก๋ แต่ก็สามารถกลมกลืนไปทิวทัศน์ชนบทและวิวภูเขารอบข้าง

ไฮไลท์ของที่นี่คือห้องสมุดที่เรียงรายไปด้วยหนังสือกว่า 2,000 เล่ม เป็นหนังสือที่คัดเลือกมาโดยมีธีมว่า "สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่" สามารถนำไปอ่านที่ไหนก็ได้ภายในพื้นที่ของโรงแรม จะนำกลับไปอ่านอย่างสบายๆ ที่ห้องก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

ห้องพักมีการใช้ประโยชน์จากความอบอุ่นของวัสดุไม้ มีการตกแต่งภายในที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลาย มีห้องพักทั้งหมด 119 ห้อง สามารถตอบโจทย์ได้ตั้งแต่ทริปคนเดียวไปจนถึงทริปครอบครัว ห้องที่ขอแนะนำเป็นพิเศษก็คือ ห้องที่สามารถชมทิวทัศน์ทุ่งชนบทได้จากภายในห้อง

ที่ร้านอาหารและบาร์ของโรงแรม คุณจะได้ลิ้มรสอาหารจากวัตถุดิบของโชไน พลางเพลิดเพลินไปกับไวน์จาก 15 โรงผลิตภายในจังหวัดยามากาตะ

โรงแรมนี้มีสปาที่เชื่อมต่ออยู่กับฟิตเนส ภายในครบครันไปด้วยซาวน่า 6 แบบของฟินแลนด์ รวมถึงบ่อกลางแจ้งและบ่อในร่มที่ใช้น้ำแบบปล่อยไหลมาจากสึรุโอกะคิตะเคียวเด็นออนเซ็น (鶴岡北京田温泉) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ละจุดมีดีไซน์ที่โดดเด่น สามารถผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่เปิดโล่ง

10. Umibe no Oyado Ikkyu (海辺のお宿 一久)

Umibe no Oyado Ikkyu เป็นเรียวกังที่เป็นที่รักมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดกิจการเมื่อปีโชวะที่ 8 (ค.ศ. 1943) ตั้งอยู่ในยูโนฮามะออนเซ็น (湯野浜温泉) ที่หันเข้าหาทะเลญี่ปุ่น บริเวณล็อบบี้มีหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถชมทะเลญี่ปุ่นได้อย่างกว้างขวาง ก่อนพระอาทิตย์ตกจะมีทิวทัศน์ที่เกิดจากการไล่สีสันของเส้นขอบฟ้าสีส้มกับท้องทะเลสีน้ำเงิน มีความสวยงามและน่าหลงใหลที่จะทำให้คุณตกตะลึงอย่างแน่นอน

ออนเซ็นอันภาคภูมิใจของที่นี่เป็นแบบปล่อยไหลมาจากต้นน้ำ 100% และมีให้เพลิดเพลินได้ที่โรงอาบน้ำรวม 2 แห่ง มีทั้งโรงอาบน้ำชมวิวที่มีทะเลอยู่เบื้องหน้า ซึ่งมาพร้อมกับบ่อกลางแจ้งจากไม้ฮิโนกิที่สามารถสัมผัสกลิ่นคลื่นและลมทะเลสบายๆ ส่วนโรงอาบน้ำอีกแห่งหนึ่งก็มีบ่อนอนที่สามารถนอนผ่อนคลายได้อย่างสบายๆ และบ่อกลางแจ้งทำจากหินที่สัมผัสได้ถึงลมทะเล

ห้องพักมีห้องที่น่าอยู่ให้เลือกมากมาย เช่น ห้องหรูหราที่มาพร้อมกับออนเซ็นชมวิว และห้องที่มาพร้อมกับโซนรับประทานอาหารชวนผ่อนคลาย ที่น่าชื่นใจก็คือทุกห้องหันเข้าหาทะเล ไม่ว่าจะพักห้องไหนก็สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์สวยๆ อาทิตย์ตกดินของยูโนฮามะที่จมลงไปในทะเลนั้น ได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 อาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น" เป็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาและไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

มื้ออาหารของโรงแรมนี้เน้นเป็นอาหารทะเลสดใหม่สมกับที่เป็นออนเซ็นใกล้ทะเล สามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นตามฤดูกาล เนื่องจากโชไนมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตข้าวคุณภาพดี จึงไม่ควรพลาดที่จะรับประทานคู่ไปกับข้าวที่หุงขึ้นใหม่ๆ

ส่งท้าย

เนื่องจากยามากาตะมีพื้นที่กว้างขวาง และมีสิ่งน่าสนใจกระจายอยู่ทั่วจังหวัด จึงยากที่จะเที่ยวให้หมดภายในการเข้าพักครั้งเดียว การวางแผนสถานที่ที่อยากไป สิ่งที่อยากเห็น และประสบการณ์ที่อยากสัมผัสไว้ล่วงหน้าก่อนมองหาที่พัก จึงเป็นวิธีที่ขอแนะนำมาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของจังหวัดก็อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์มากมาย รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

มนต์เสน่ห์โทโฮคุ

เนื้อหาในบทความนี้ อัพเดทล่าสุด ณ วันที่เผยแพร่

รับส่วนลดมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่!

เกี่ยวกับนักเขียน

tsunagu
tsunagu japan_af
  • แผนการท่องเที่ยวคัดสรรค์โดยนักเขียน tsunagu Japan!

ค้นหาร้านอาหาร